8 ชั่วโมงที่แล้ว • ความคิดเห็น
วิถีชีวิตของไทยยุคก่อน นั้นต้องพึ่งพาอาศัยกัน เห็นอกเห็นใจกัน พระท่านก็สอนในเรื่องราวบุญกุศลบารมี ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกสบาย มีป่าเยอะ สัตว์ป่าก็เยอะ เวลาท้องก็อาศัย หมอตำแย ที่ถ่ายทอดความรู้กันมารุ่นต่อรุ่น มีการครอบครู หลังคลอดก็อยู่ไฟ เด็กก็เห็น เรื่องราวของผู้หญิงท้อง จะเป็นแม่คน ลำบากอุ้มท้อง เห็นอะไรต่างๆ ซึมซับ ในคำว่า พระคุณ ตอบแทนคุณ กตัญญูรู้คุณ ตั้งแต่เด็ก เวลาจะปลูกย้านใหม่ ก็ต้องอาศัย เพื่อนญาติ ไปช่วยตัดไม้ในป่า ใส่เกวียนมาปลูกบ้าน
ต้นไม้บางต้นที่สวยยอดงาม ไม่ใช่ว่าจะตัดง่ายๆ ไปตัดเข้า ก็เป็นเรื่องให้เจ็บป่วยไม่สบาย บางต้นตัดมาทำเสา ก็เป็นเสาตกน้ำมัน .
พอเป็นหนุ่มถึงเวลาจะแยกจากพ่อแม่ ออกจากเรือนพพ่อแม่ไปมีครอบครัว ก็ถือโอกาส บวช .ให้พ่อแม่ เพราะ ร่างกายที่อาศัยนั้น มีธาตุพ่อแม่อยู่ เมื่อลูกบวช ปฏิบัติธรรม สร้างบุญกุศล ธาตุในตัวผู้ชายที่บวช มีธาตุพ่อแม่อยู่ เป็นเสมือนดินฟ้าอากาศ พอธาตุนี้เกิดเป็นบุญ ก็ส่งต่อไปถึงธาตุพ่อแม่ ให้เกิดเป็นบุญกุศล พ่อแม่ก็ได้รับอานิสงส์ไปด้วย
เรื่ิองราวที่ถือว่า บรรลุนิติภวะ คือ มีความสามารถ รู้จักคำว่าดีชั่วได้ ตอนที่อายุยี่สิบ ก็มีการไปขอบวช. บวชตอบแทนพระคุณพ่อแม่ พ่อแม่ก็ได้อานิสงส์ ที่ลูกปฏิบัติธรรม รักษาศีล ภาวนา แต่หากไปบวช ไม่รักษาศีล ปฏิบัติธรรม สวดมนต์ภาวนา ก็เป็นโมฆะ ส่งต่อบุญกุศลให้พ่อแม่ไม่ได้เลย
เรื่องปฏิบัติธรรม รักษาศีลภาวนา ผู้หญิงก็ทำได้ อยู่บ้าน ก็ทำได้ ระลึกถึงธาตุทั้งสองพ่อแม่ นำมากราบพระ ปฏิบัติธรรม ภาวนา ให้บุญกุศลเกิดขึ้น ก็ส่งต่อให้พ่อแม่ได้เหมือนกัน บุญนั้นไม่ใช่ว่า ต้องใช้ปัจจัย เพียงนำกายพ่อแม่ มากราบพระสวดมนต์ ก็เกิดเป็นบุญกุศลได้ เรื่องร่างกายของผู้หญิง สมัยก่อนมันไม่มีผ้าอนามัย เวลาไปถือศีล หรือว่า บวช รอบเดือนก็ทำให้อยู่ลำบาก .เค้ามีแต่ผ้าถุงนุ่ง ไม่นั่งกางเกง ชุดขั้นในไม่สวมใส ยกทรง กางเกงใน มันไม่มี ให้ใส่ก
แม้พ่อแม่เจ็บป่วย เมื่อพ่อแม่มีบุญเนื่องด้วยลูกบวชปฏิบัติธรรมขึ้นมา พ่อแม่ก็มีบุญ เสมือนมีปัจจัยส่งคืน บุญกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร เมื่อเต้ากรรมนายเวรรับบุญกุศล ก็มีเรียวแรงเดินออกไปจากสังขารพ่อแม่ ร่างกายพ่อแม่ก็สดชื่น มีเรียวแรง ด้วยบุญกุศลที่บูกทำมาหนุนนำพ่อแม่ ลูกก็ได้คำว่า จิต..รู้จักความกตัญญูรู้คุณพ่อแม่
ยุคสมัยพระนารายณ์ ท่านก็ให้คนเค้ามีความรู้ช่วยแต่งหนังสือ เรื่องพระคุณพ่อแม่ เรื่องความกตัญญูรู้คุณ ลงสมุดข่อย ใบจารใบลาน ส่งไปตามหัวเมือง วัดวาอาราม ให้ช่วยกันสินเรื่องพระคุณพ่อแม่ ความกตัญญูรู้คุณ .
แล้วเวลาจะตาย ก็ดูแลกัน ที่บ้าน ..ช่วยเหลือกันเอง เวลาจิตจะออกจากร่าว คนที่สร้างกรรมมาก กรรมก็ถ่ายทอด แสดงออกมาให้ดู ว่าจะไปที่ดี หรือไม่ดี ออกมาให้ดู ก่อนสิ้นลม เดี๋ยว..ไม่มีแสดงให้ดูแล้ว
หากไม่รีบบวช แล้วไปเบียดเสียก่อน มันก็ไปผูกภาระมาขึ้น ไม่มีเวลา สละเวลามาบวช อาศัยกายพ่อแม่เจ้ามาบวชได้ บวชแล้ว มันมีเวลา อยู่ในทางธรรม ไม่มีอะไรรบกวน ก็ปฏิบัติธรรมได้เต็มที่ ..มีเวลาให้แก่ตนเอง ไม่มีภาระทางโลกมาก .เวลาตรงนี้ ที่เราใช้กายพ่อแม่ ธาตุนะโม มาเดินอยู่ในรอยสร้างบุญกุศลบารมี ไม่ได้ออกไปเที่ยวเตร่ ทำมาหากิน
เวลาที่เราอยู่กับโลก ไม่มีเวลามาสร้างบุญกุศล..นั่นเป็นเวลาที่อยู่กับโลกเต็มตัว เต็มไปด้วยอารมณ์นั่นอารมณ์นี่ เรืองนั้นเรื่องนี้ ที่เกิดขึ้นมาที่กาย. ตลอดเวลา ละเว้นชั่วขณะหนึ่ง เสี้ยวนาทีที่หยุดอารมณ์กรรม ไม่มีเวลา ไม่มีโอกาสทำได้เลย
โฆษณา