20 ต.ค. เวลา 15:06 • การตลาด
หากเราเป็นคน สร้างบุญกุศล เราเอาจิต นำกายพ่อแม่ เรารู้จักกายนี้มีพระคุณ เราใช้กายนี้ กราบพระ สวดมนต์ สร้างบุญกุศลบารมี แล้วก็ได้พบเจอะเจอพระ ที่ท่านปฏิบัติ ตามรอยองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เจ้าชายสิทธัตถะ ทิ้งทรัพย์สมบัติ ตัดขาดญาติพี่น้อง ตัดขาด การสื่อสาร โทรศัพท์มือถือ แล้วก็มีการออกธุดงค์ ต่อเนื่อง หลายปี เราก็ได้เรียนรู้ ส่งที่ เรียกว่า เรื่องราวไสยศาสตร์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ
พระท่านก็ค่อยสอนให้ ว่าแท้จริง ไอ้ที่ว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นคืออะไร จิตที่สูงๆ เป็นเทพยดาอินทร์ พรหม เค้ามีรทีพัก มีความสุข มีวิมานของเค้า เค้าไม่มายุ่งเกี่ยวด้วย นอกจากมีการทำบุญทำทาน แล้วมีแสงรัตนเกิดขึ้น
หูทิพย์ตาทิพย์ เค้าก็มาดู มาเรียนรู้ว่า มนุษย์นั้นทำอย่างไร จึงเกิดมาแสงรัตนะ เกิดขึ้น มาอะไรมาหนุนพจิตมนุษย์ให้เกิดมทีแสงรัตนะ เค้าก็ดูมนุษย๋ผู้นั้น เค้าดูไปที่จิตที่เป็นนามธรรม ในกายมนุษย์ เค้าเห็นที่จิต มีอะไรเกิดขึ้น หากมีความโลภโกรธหลง ทำบุญอยากได้อย่างนั้นอย่างนี้ อยากมีกรรมให้มากขึ้น เค้าก็ไม่มายุ่งด้วยเลย
คราวนี้ พวกที่ว่า เบื้องหลังคำว่า ศักดิ์สิทธ์ คาถาอาคมต่างๆ พอนั่งสามารถ กำลังดี ๆ นั่งด้วยความอยาก..พญามาร บริวารมารก็ส่ง คาถาให้ จำแม่นเชียว เพราะจิตเป็นสมาธิ แหม ..พอท่องปุ๊บ วิญาญาณ ที่เร่ร่อน ยัวไม่ผุดเกิด ได้ยิน ..เจอเร่พวกเดียวกันนี่น่ะ ก็มาช่วยกันใหญ่ ต้องเฃซ่นไหว้ อย่างนั้นอย่างนี้ เปรตอสุรกายจะได้มากิน แล้วทอ้งเชื้อไว้ให้บริวารเป็นมนุษย์ เป็นลูกช้าง กินกันเอร็ดอร่อย
มีพระท่านธุดงค์ไปวัดร้าง มีคนเอาของมาเซ่นไหว้ มากมาย ..ท่านก็ไปปลักกลดใกล้ ตกกลางคืน ..ท่านก็นั่งสมาธิ .อ้อ..สิ่งที่เรียกว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์นั่น แท้จริงก็พวกเปรตอสุรกาย มาคอยกินเครื่องเซ่น จิตพวกนี้ รับบุญกุศลไม่ได้เสียด้วย เหมื่อนว่า ตอนเป็นมนุษย์ เค้ายอกให้ทำบุญ ก็ไม่เชื่อ เห็นพระสวดมนต์ ก็ว่าติเตียน ไม่รู้พระ ไม่รู้จักบุญ พอตายไปก็เหมือนที่ตอนเป็นคน เค้าทำบุญให้ก็ไม่รู้จักบุญ
เรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นั้นพอคนไปกราบไหว้ อยากได้อย่างนั้นอย่างนี้ สถานที่นั้นก็มีแต่จิตที่ไม่มีบุญมาอยู่อาศัย จิตเร่ร่อนสัมภเวสีมาอยู่หนาแน่น จ้ตที่ดี ๆ เค้าก็ถอยห่างออกไป
ทำนองว่า จิตสัมภเวสีเร่ร่อน มีแต่จิตที่อดอยาก ยากจน ข้าวไม่มีจะกิน น้ำท่าก็ไม่อาบ กลิ่นก็สาบสาง มาอาศัยสถานที่นั้น แล้วไปดูสิว่า ที่ว่ากราบไหว้บูชา สถานที่อย่างนี้ จะมีความสุขความเจริญจริงหรือ เคนเห็นตัวตนของสิ่งที่ว่าศักดิ์สิทธิ์ได้มั้ย อม้แต่ตะกรุด เลขยันต์ ผ้ายันต์ ที่เค้าว่า ศักดิ์สิทธิ์ มีมีอะไร เกาะอยู่ที่ว่า ศักดิ์สิทธิ์ .รับรู้ได้มั้ย
..จ้ต สัมภเวสีเร่ร่อน เมื่อหมดกายเป็นมนุษย์ ก็เร่รอน .ไปเรื่อย มีทั่งที่เป็นมนุษย์สร้างแต่กรรม นักเลงอันธพาล เสพสุรายาเมาตาย ผีตายโหง ถูกยิงตาย กรรมตัดรอน หมดค่าความเป็นมนุษย์ ตัดรอนให้ตาย ก็ความเป็นมนุษย์หมดไปแล้ว ก็มาอาศัย ..
..คราวนี้มันก็มีคำการตลาด ..เกลื่อนเมืองว่า ..ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ เป็นความเชื่อสวนบุุคคล .ทำข่าวแปลกกๆ ..วันใกล้หวยออก ก็มา ..ไม่เ่ขื่ออย่าลบหลู่ มันเป็นคำเตือน หรือว่า คำอะไรของมันเนี่ย .มีน้องพาเราไปหาหมอ ให้ช่วยดูตาตุ่มหน่อย พอเปิดห้อง อ้อ..หมอนี่ นั่งส่องพระ ข้อมือก็มีสายผ้าแดงที่ข้อมือ ..เราเห็นแบ้วอยากถอยหนี
สิ่งที่มันน่ากลัว เรื่องราวเล่านี้ มันเป็นสิ่งที่ทางธรรม พูดถึง .ท่านใช้คำว่า บ่อโคลนปลักควาย เราก็ไม่อยากขยายความมาก ไปดู ไปสังเกตกันเอง ว่าสิ่งที่เรียกว่าบ่อโคลนปลัก มันเป็นอย่างไร .
.โชคดี ..เค้าไม่เจาะสะกิด มาจับอะไรที่ตาตุ่ม .บอกเราว่า น่าจะเป็นเก๊าท์ เราก็ว่า ไม่เป็นหรอก ก็ว่าขิตรวจหน่อย ตรวจเลือดแล้วก็ไม่ได้เป็นเก๊าท์ เราบอกก็ไม่เชื่อเรา ..พอเราจะกลับ ก็บอกว่า เดี๋ยวให้ยาไป สามวันมาดูผล เราก็ได่ยามาแปดเม็ด ก็ไม่ได้กินยา กลับมาเราก็เอาไม้จิ้มฟัน เจาะหนองออก ก็หายระบวมไม่ได้กินยา
โฆษณา