เมื่อวาน เวลา 17:02 • นิยาย เรื่องสั้น

หลงทางกลางพงไพร: วันที่สาม – การเผชิญหน้า ความกล้าหาญ และบทสรุปแห่งมิตรภาพ

06:30 น. – มื้อเช้าแห่งความหวัง
เสียงน้ำไหลจากลำธารที่อยู่ไม่ไกลปลุกทุกคนให้ตื่นขึ้นมาสู่เช้าวันที่สามในป่า เสือ และ น้ำ จัดการแจกจ่ายอาหารเช้าที่เหลืออยู่ ทุกคนกินอย่างเงียบๆ แต่เต็มไปด้วยความรู้สึกผูกพัน
"เราต้องออกเดินทางให้เร็วที่สุดนะคะ" เหมย พูดขึ้นด้วยความเป็นห่วง "แสงแดดเริ่มส่องตรงขึ้นมาแล้วค่ะ ถ้าเราเจอทางออกก่อนเที่ยงได้จะดีมากๆ เลย"
07:30 น. – เงาอันน่าสะพรึงกลัวและหัวใจที่ไม่ยอมแพ้
ทุกคนเริ่มเดินเลียบตามลำธารต่อ โดยมีเสือและน้ำเดินนำสลับกับเหมยที่คอยสังเกตการณ์ ท่ามกลางความชื้นของป่าริมน้ำ เหมย และ พีท ที่เดินอยู่ใกล้ๆ กัน ก็หยุดชะงักพร้อมกัน
"ว้าย! พี่เสือ... น้ำ... ดูตรงนี้สิคะ" เหมย พูดเสียงแผ่วเบา พร้อมชี้ไปที่พื้นดินบริเวณโคลนริมน้ำ
พีท มองรอยบนพื้นอย่างละเอียดก่อนจะสีหน้าซีดลง "รอยเลื้อย... รอยนี้ใหญ่มาก และมันเป็นรอยของ... งูจงอาง!"
คำว่า 'งูจงอาง' ทำให้ทุกคนถึงกับขวัญเสียทันที เจต ถึงกับตัวสั่นเทาจนต้องเกาะแขน มินท์ ไว้แน่น พลอย ร้องอุทานเบาๆ ด้วยความตกใจ ไนท์ ที่อยู่ด้านหลังก็พูดอย่างเคร่งเครียด "ทุกคนตั้งสติ! อย่าส่งเสียงดัง!"
ทันใดนั้นเอง ทุกคนก็ได้เห็นงูจงอางขนาดใหญ่เลื้อยตัดหน้าพวกเขาอย่างช้าๆ งูตัวนั้นชูคอสูง แผ่แม่เบี้ยขู่เล็กน้อย มันจ้องมองพวกเขาด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร
น้ำ ที่ยืนอยู่แถวหน้าตกใจจนตัวแข็งทื่อ ไม่สามารถขยับได้
ในเสี้ยววินาทีนั้น เสือ ตัดสินใจทันที เขาไม่ลังเลที่จะก้าวเข้ามายืนบังน้ำไว้ข้างหน้า ร่างกายสูงใหญ่ของเขากลายเป็นโล่กำบังให้เธอ มือของเขาแตะที่ไหล่น้ำเบาๆ เป็นสัญญาณให้เธอถอยหลัง
"ถอยไปช้าๆ!" เสือสั่งด้วยเสียงต่ำและหนักแน่น แต่ยังคงพยายามรักษาความสงบ
พีท และ เหมย รีบให้ความรู้ "พี่เสือ! งูจงอางจะไม่โจมตีถ้ามันไม่รู้สึกถูกคุกคาม! มันแค่เตือนให้เราไปจากรังของมัน" พีทกระซิบ "ใช่ค่ะ! เราต้องเลี่ยงไปอีกทางอย่างช้าๆ และเงียบที่สุดเลยนะคะ! ห้ามตกใจวิ่งเด็ดขาด!" เหมยเสริม
ด้วยความรู้ของทั้งสองและการตัดสินใจที่กล้าหาญของเสือ ทุกคนสามารถหลีกเลี่ยงงูจงอางตัวนั้นไปได้อย่างหวุดหวิด โดยต้องเดินเบี่ยงขึ้นเนินเขาที่เต็มไปด้วยต้นไม้รกทึบและทางที่เต็มไปด้วยหินลื่น
09:30 น. – ภาระที่ต้องแบกรับและสัญชาตญาณของการเสียสละ
การเดินทางบนเนินเขาเป็นไปด้วยความยากลำบากมากขึ้น ทับทิม ไม่สามารถเดินต่อไปไหวแล้ว ภูมิ จึงตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว
"ทับทิม... ขึ้นหลังผมมาเลยครับ!" ภูมิ พูดอย่างมั่นใจ เขานั่งลงเพื่อให้ทับทิมปีนขึ้นหลัง โดยมี ใบเฟิร์น และ พลอย ช่วยกันประคอง ทับทิมเกาะหลังภูมิไว้แน่น
ภูมิเดินขึ้นเขาอย่างช้าๆ แต่สม่ำเสมอ เหงื่อไหลท่วมตัว เสื้อที่ทับทิมยืมใส่ก็เปียกโชก
"ภูมิ... นายเหนื่อยไหม ให้ฉันลงก็ได้นะ" ทับทิมพูดด้วยความรู้สึกผิด
"ไหวครับ! ผมจะพาเพื่อนกลับบ้านให้ได้!" ภูมิไม่ได้พูดเปล่า เขายิ้มอย่างอ่อนโยน แม้ใบหน้าจะแสดงความเหนื่อยล้าอย่างชัดเจน
ทับทิมมองใบหน้าที่เปื้อนเหงื่อของภูมิอย่างซาบซึ้งใจ เธอเพิ่งรู้ว่าภูมิไม่ได้ซุ่มซ่ามอย่างที่เธอเคยคิด แต่เป็นคนที่มีจิตใจดีและมีความอดทนที่น่าประหลาดใจ
11:30 น. – ความสำเร็จเล็กๆ และร่องรอยแห่งอารยธรรม
เมื่อลงจากเนินเขา ทุกคนก็เดินกลับสู่แนวลำธารอีกครั้ง แต่ทว่าคราวนี้ ลำธารเริ่มกว้างขึ้น และน้ำก็ใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
"ฉันรู้สึกว่าเราเข้าใกล้เขตที่มีผู้คนอาศัยอยู่แล้วนะ" น้ำ พูดด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความหวัง
ทันใดนั้น เหมย ก็ร้องออกมาด้วยความดีใจ "ทุกคน! นั่นไงคะ! เหมยได้ยินเสียงไก่! มันเป็นเสียงไก่บ้านค่ะ!"
พวกเขารีบเร่งฝีเท้าไปตามเสียงนั้น ผ่านแนวพุ่มไม้ที่สุดท้ายที่ขวางกั้น จนกระทั่ง... พวกเขาเห็น สะพานไม้เก่าๆ ที่พาดผ่านลำธารไปยังทางเดินที่ถูกถางโล่ง และบ้านเรือนหลังเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ข้างหน้า! พวกเขาเจอทางออกแล้ว!
12:00 น. – การกลับสู่โลกภายนอก
พวกเขาเข้าถึงหมู่บ้านเล็กๆ ได้สำเร็จ ชาวบ้านที่เห็นกลุ่มนักเรียนในสภาพมอมแมมและเหนื่อยล้าก็รีบเข้ามาช่วยเหลือทันที ภูมิ ที่แบกทับทิมมาตลอดทางทรุดตัวลงกับพื้นอย่างหมดแรง แต่ก็ยังกอดทับทิมไว้แน่นก่อนจะหลับตาลงด้วยความเหนื่อยล้า
ชาวบ้านได้ช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้น และโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ในพื้นที่ให้มารับตัวพวกเขา
ไม่นานนัก รถกระบะของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ก็มาถึง พวกเขาทั้ง 12 คนได้รับการช่วยเหลือและพาตัวกลับไปยังที่ทำการกรมป่าไม้ ทุกคนดีใจมากที่ได้หลุดพ้นจากป่าแห่งนี้อย่างปลอดภัย
13:00 น. – บทสรุปของความรู้สึก
ทุกคนได้รับการปฐมพยาบาลและนั่งพักอยู่ด้วยกันที่ศาลาพักของกรมป่าไม้ ความสัมพันธ์ที่เคยตึงเครียดในวันแรก ได้กลายเป็นความผูกพันที่แข็งแกร่ง
น้ำ หันไปมอง เสือ ที่กำลังยืนคุยอยู่กับเจ้าหน้าที่ เธอนึกถึงภาพที่เสือยืนบังเธอจากงูจงอาง
ในใจน้ำ: เขาไม่ใช่เด็กเกเรแล้ว... เขาคือผู้นำที่กล้าหาญและพร้อมรับผิดชอบจริงๆ... ฉันจะให้โอกาสเขา และให้โอกาสตัวเองด้วย
เสือ หันมาสบตากับน้ำ เขาส่งรอยยิ้มที่จริงใจที่สุดให้เธอ
ในใจเสือ: ฉันจะเลิกบุหรี่ให้ได้ ฉันจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ฉันอยากให้เธอมองฉันด้วยสายตาแบบนี้ตลอดไป
ใบเฟิร์น และ พลอย สองเพื่อนสนิท นั่งข้างกัน พวกเขามองไปที่ พีท ที่กำลังคุยอย่างสนุกสนานกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้เรื่องสัตว์เลื้อยคลาน
ในใจใบเฟิร์น: พีทฉลาดมากเลยนะ ความรู้เรื่องเกมของเขามีประโยชน์จริงๆ ใบเฟิร์นอยากให้พีทหันมามองใบเฟิร์นบ้างจังเลย...
ในใจพลอย: ความรู้เรื่องงูของพีทช่วยชีวิตเราไว้เลยนะเนี่ย เขาดูเป็นผู้ชายที่น่ารักและพึ่งพาได้มากเลยนะ!
มินท์ และ เจต นั่งเงียบๆ อยู่ด้วยกัน เจต ยังคงจับมือ มินท์ ไว้เล็กน้อยอย่างไม่รู้ตัว
ในใจมินท์: เจตไม่ได้อ่อนแอเลย เขาเข้มแข็งกว่าที่ฉันคิดเยอะเลยล่ะ... การได้อยู่ใกล้เขาทำให้ฉันรู้สึกปลอดภัยและเข้มแข็งขึ้น..
ในใจเจต: มินท์ไม่ได้อ่อนแอเลย เธอเข้มแข็งกว่าที่ฉันคิดเยอะเลยล่ะ... ฉันจะไม่ยอมแพ้แล้ว ฉันจะกล้าหาญให้เหมือนเธอ
ไนท์ และ แจน นั่งข้างกัน ไนท์เอามือไปกุมมือแจนไว้แน่น ทั้งคู่ไม่ต้องพูดอะไรกันเลย
ในใจไนท์และแจน: เราผ่านอะไรมาเยอะขนาดนี้แล้ว... สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการที่เราอยู่เคียงข้างกันเสมอ
ภูมิ ที่เหนื่อยล้าเต็มที่ หลับปุ๋ยไปแล้วบนม้านั่งข้างๆ ทับทิม
ทับทิม มองใบหน้าเปื้อนเหงื่อของภูมิอย่างพิจารณา เธอคิดถึงความอดทนของเขาที่แบกเธอมาตลอดทาง
ในใจทับทิม: เขา... คนๆ นี้ใจดีกับเราเหลือเกิน เขาเป็นฮีโร่ของฉันจริงๆ
ทับทิมเผลอยิ้มออกมาอย่างจริงใจเป็นครั้งแรก ก่อนจะโน้มตัวลง เอามือกุมริมฝีปากตัวเอง แล้ว บรรจงแตะเบาๆ ที่แก้มของภูมิ
ภูมิ สะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยความงงงวย "ทับทิม... มีอะไรเหรอครับ?"
ทับทิม รีบหดมือกลับมาซ่อนไว้ข้างหลัง พร้อมใบหน้าที่แดงระเรื่อ แต่สีหน้าและน้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความอ่อนโยนอย่างที่ไม่มีใครเคยได้ยินมาก่อน
"ไม่มีอะไรหรอกนะ... อ้วน" ทับทิมตอบ พร้อมรอยยิ้มที่จริงใจที่สุดของเธอ "แค่นายตื่นแล้วก็ดีแล้ว"
มิตรภาพใหม่ได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว... และการผจญภัยในใจของวัยรุ่นทั้ง 12 คน ก็กำลังจะเริ่มต้นขึ้นอย่างแท้จริง
โฆษณา