21 ต.ค. เวลา 03:16 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

อดัม ไดรเวอร์ เผยเคยเสนอไอเดียหนังเดี่ยวสตาร์วอร์ “The Hunt for Ben Solo” แต่โดน Disney ปัดตก

เป็นเวลาเกือบครึ่งทศวรรษ ที่เรื่องราวตามเส้นเรื่องหลักของแฟรนไชส์ “Star Wars” หยุดนิ่งลง ด้วยบทสรุปไตรภาคอย่าง “Star Wars: The Rise of Skywalker” เมื่อปี 2019 ที่แม้จะไม่ได้เป็นบทสรุปที่น่าพึงพอใจนัก แต่มันก็เปิดทางให้แฟรนไชส์ได้สำรวจศักยภาพด้านอื่น โดยเฉพาะการเรื่องลงไปในฉบับซีรีส์หลายเรื่อง กระนั้นเอง หนึ่งตัวละครที่สมควรได้สำรวจก็คือ ตัวร้ายหลักของไตรภาคใหม่อย่าง ไคโล เรน ซึ่งรับบทโดย อดัม ไดรเวอร์
โดยล่าสุด จากบทสัมภาษณ์ที่ อดัม ไดรเวอร์ ได้ให้ไว้กับทางสำนักข่าว AP เพื่อพูดถึงผลงานแสดงในหนังของจิม จามุช อย่าง “Father Mother Sister Brother” รวมถึงผลงานอื่น ๆ ที่ผ่านมาอย่าง “Megalopolis” ก่อนที่ส่วนหนึ่งของบทสัมภาษณ์ ไดรเวอร์ จะเผยว่า เขายินดีอยากกลับไปยังจักรวารสตาร์วอร์อีกครั้งเสมอ
“ผมสนใจที่จะสร้างหนัง ‘Star Wars’ อีกภาคอยู่เสมอ”
“ผมได้พูดคุยเกี่ยวกับการทำหนังอีกภาคมาตั้งแต่ปี 2021 แคธลีน เคนเนดี้ เคยมาคุยด้วย และผมก็มักจะบอกว่า ด้วยผู้กำกับฯ และเรื่องราวที่ดี เสี้ยววิเดียวผมจะไปเลย เพราะผมรักตัวละครนั้นมาก และชอบที่จะได้รับบทนั้นเสมอ” ไดรเวอร์ กล่าว
โดย ไดรเวอร์ ยังเผยด้วยว่า เขาเคยพัฒนาไอเดียหนังเดี่ยวสตาร์วอร์ของเขา ภายใต้ชื่อ “The Hunt for Ben Solo” ซึ่งจะเดินเรื่องหลังจากเหตุการณ์ใน “Star Wars: The Rise of Skywalker” และจะเป็นเส้นเรื่องที่ตัวละคร ไคโล เรน หรือ เบน โซโล สานต่อเรื่องราวในรูปแบบที่ ไดรเวอร์ เคยคิดไว้ว่าตัวละครของเขานั้นน่าจะเป็นอย่างไรในไตรภาคใหม่
ไดรเวอร์ จึงพัฒนาไอเดียร่วมกับผู้กำกับฯ สตีเวน โซเดอร์เบิร์ก ซึ่งเคยร่วมงานกับเขาใน “Logan’s Lucky” ซึ่ง โซเดอร์เบิร์ก ก็เขียนโครงเรื่องร่วมกับ รีเบคก้า บลันท์ (นามแฝงของ จูลส์ เอสเนอร์ ผู้เขียน “Logan’s Lucky”) ก่อนนำโครงเรื่องไปเสนอกับผู้บริหารฝั่ง Lucasfilm อย่าง แคธลีน เคนเนดี้, แคร์รี เบค และ เดฟ ฟีโลนี ซึ่งพวกเขาล้วนสนใจ
ไดรเวอร์ จึงดึง สก็อตต์​ ซี. เบิร์นส (“Contagion” และ “The Report”) มาเขียนบทภาพยนตร์ให้ ซึ่งผลลัพธ์ก็น่าพึงพอใจอย่างมาก แต่พอ ไดรเวอร์ นำบทไปเสนอกับผู้บริหารฝั่ง Disney เขาก็เผชิญกับความผิดหวังที่ทั้งโครงการถูกปัดตกกลับมา เพราะพวกเขาไม่คิดว่า ตัวละครนี้จะกลับมามีชีวิตได้อย่างไร ตามเส้นเรื่องหลักในบทสรุปของไตรภาคใหม่
“มันเป็นหนึ่งในบทที่ออกมาเท่เชี่ย ๆ ที่ผมเคยมีส่วนร่วมด้วย มันมีชื่อว่า ‘The Hunt for Ben Solo’ และมันก็เท่มาก ๆ แต่มันคงไม่มีทางได้ทำแล้ว ผมเลยออกมาพูดได้แบบนี้”
“เราเคยเอาบทไปเสนอกับ Lucasfilm พวกเขาชอบไอเดียมาก พวกเขาเข้าใจถึงมุมมองและสิ่งที่พวกเรากำลังจะทำ เราเลยเอาบทไปเสนอกับ บ็อบ ไอเกอร์ และ อลัน เบิร์กแมน (ประธานคณะกรรมการและประธานร่วมของดิสนีย์) แต่พวกเขาปฏิเสธ พวกเขาไม่คิดว่า เบน โซโล่ จะยังมีชีวิตรอดได้ยังไง และก็เอวัง” ไดรเวอร์ กล่าวเสริม
ทั้งนี้ แม้จะดูน่าผิดหวังที่ “The Hunt for Ben Solo” อาจจะไม่ได้ถูกกลับมาสร้าง แต่ AP ก็เผยว่า ณ ช่วงเวลาที่โครงการหนังเดี่ยวของไดรเวอร์ถูกพัฒนา และนำเสนอกับผู้บริหารฝั่ง Lucasfilm และ Disney ก็เป็นช่วงเวลาที่ภายในกำลังเปลี่ยนผ่าน ปรับโครงสร้างและวางกลยุทธ์เกี่ยวกับจักรวาล Star Wars ทั้งหมดใหม่
รวมถึงมีโครงการหนังพัฒนาในมือมากมาย ซึ่งก็ออกมาเป็นหนังอย่าง “The Mandalorian and Grogu” ของจอน ฟาฟโร และ “Star Wars: Starfighter” ของชอว์น เลวี รวมถึงยังมีหนังของตัวละครเรย์ โดย ชาร์มีน โอเบด-ชินอย, หนังของ เจมส์ แมนโกลด์ และไตรภาคใหม่ของ ไซมอน คินเบิร์ก
แต่ ไดรเวอร์ ก็มีจุดแข็งก็คือ การดึงตัวผู้กำกับฯ สตีเวน โซเดอร์เบิร์ก พร้อมกับการวางกลยุทธ์ของโครงการหนังเดี่ยว Star Wars ของเขา ที่อาจจะลดความใหญ่โตของงานสร้างและทุนสร้างลง และขับเน้นไปที่เรื่องราวจับต้องได้ กับแรงจูงใจของตัวละครที่น่าสนใจ
“เราอยากที่จะใช้ดุลยพินิจเกี่ยวกับการใช้งบประมาณให้สมน้ำสมเนื้อ รวมถึงทำให้น้อยไม่ต้องมาก แต่คงด้วยจิตวิญญาณเดียวกับของหนังเหล่านั้น ซึ่งจับต้องได้และยังขับเคลื่อนด้วยตัวละคร แบบ ‘Star Wars: Empire Strikes Back’ ในความเห็นของผม เป็นมาตรฐานของหนังเหล่านั้นเลย แต่กับ โซเดอร์เบิร์ก สำหรับผม เขาคือหนึ่งในผู้กำกับฯ​ ที่ผมชื่นชอบตลอดกาล เขายึดมั่นในหลัก ดำเนินชีวิตตามจริยธรรมของเขา และไม่ประนีประนอมเลยแม้แต่น้อย” ไดรเวอร์ กล่าว
“จริง ๆ ผมชอบที่ได้ทำหนังในหัวนะ แต่ก็เสียใจ ด้วยที่แฟน ๆ อาจจะไม่ได้มีทางได้ดูมัน” โซเดอร์เบิร์ก กล่าวทิ้งท้าย
โฆษณา