* ในหนังสือ The 1% Rule ของ Lee Min Kyung ผู้เขียนชี้ให้เห็นว่า ความแตกต่างระหว่างคนที่ประสบความสำเร็จกับคนที่ล้มเหลว ไม่ได้อยู่ที่ว่าใครมีเวลามากกว่า แต่อยู่ที่ว่าใคร "ใช้เวลาได้ฉลาดกว่า"
* 🎯 ตัวอย่าง: ที่บริษัท Toyota ผู้นำทีมในสายการผลิตจะมีการทำ “Gemba Walk” ทุกสัปดาห์เพื่อตรวจสอบว่าเวลาของพนักงานแต่ละคนถูกใช้ไปกับกิจกรรมที่สร้างคุณค่าจริงหรือไม่ เช่น งานที่ช่วยลดของเสีย หรือปรับปรุงกระบวนการผลิตให้ดีขึ้น แนวคิดนี้ถูกบันทึกไว้ในระบบ Toyota Production System ซึ่งกลายเป็นต้นแบบของการทำ Time Audit ในระดับองค์กร [Source: Toyota Global, 2024]
* 🧩 กรณีศึกษา: ในบริษัท Google ทีมวิศวกรใช้ระบบ “OKRs” (Objectives and Key Results) เพื่อจัดลำดับความสำคัญของงานในแต่ละไตรมาส โดยกำหนดเพียง 3-5 เป้าหมายสำคัญเท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้เวลาถูกใช้ไปกับสิ่งที่ไม่สอดคล้องกับเป้าหมายใหญ่ขององค์กร [Source: Google Re:Work, 2023]
🧠 ปกป้อง “เวลาทองคำ” สำหรับ Deep Work
* ตามแนวคิดของ Cal Newport การทำงานที่ต้องใช้สมาธิสูงสุดโดยไม่ถูกรบกวนคือทักษะที่ทรงพลังที่สุดในยุคนี้ ปิดโทรศัพท์ ปิดการแจ้งเตือน และให้เวลาตัวเองอย่างน้อยวันละ 2 ชั่วโมงเพื่อทำงานที่ต้องใช้ความคิดลึกซึ้ง
* 💡 กรณีศึกษา: Microsoft Japan เคยทดลองนโยบาย “4-Day Workweek” ในปี 2019 พบว่าผลผลิตของพนักงานเพิ่มขึ้นถึง 40% แม้เวลาทำงานจะลดลง เหตุผลคือพนักงานมีสมาธิและคุณภาพของ Deep Work สูงขึ้นในช่วงเวลาที่สั้นลง [Source: Microsoft Japan Report, 2020]