เมื่อวาน เวลา 02:00 • ความคิดเห็น
เรื่องตาเห็นภาพ หูได้ยินเสียงนั้น เราไม่รู้ตัวเลยว่า ที่กายเรานั้น ที่เค้าเปรียบเปรยว่า เหมือนเรือลำหนึ่ง แล้วจิตของเรา ก็นั่งอยู่ในเรือ พายเรือในกระแสน้ำ ที่มีวัตถุ สิ่งของลอยมา กับน้ำ มีทั้งหมาเน่า ขยะ ของเหม็น ปฏิกูล ผักตบ ผักบุ้ง ใบไม้เน่า ขี้โคลน ลอยมา มันมีทั้งบนน้ำใต้น้ำ ทีี่เรือนั้นพายไป หัวเรือ ก็มีวิญญาณทั้งหกตั้งอยู่ ก็ไปสัมผัส กระแทก สิ่งเหล่านั้น เรื่องหมาเน่า ลอยน้ำ ก็มีเรื่องเจ้าพ่อเจ้าแม่ คาถาอาคม ตุ๊กตาเสกเป่า ตะกรุด ผ้ายันต์คิดว่ากันผี แต่ผีกลับอยู่ที่ผ้ายันต์กันผี
บางที่ก็ไปเจอะเจอ คนเอาหมาเน่า มายึด เราไปสัมผัส ตาไปเห็น หูได้ยินเสียง หมาเน่าลอยมา เรือเรามันก็มีกลิ่นหมาเน่าไปด้วย ลมหายใจ ก็สูดดมของเน่าเข้าไป แยกแยะไม่ได้เสียด้วยนิ เหมือนเชื้อโรคระบาดในอากาศ.หากเรารู้จักเรื่องหมาเน่า ..เราจะไม่อยากเข้าใกล้ ไม่อย่กไปหยิบจับ ไปสัก..ให้เค้าเป่าหมาเน่าเข้ามาในตัวตน ..นานไปโรคนั้นโรคนี้ ถามหา สติฟั่นเฟือน เรือที่จิตอาศัย ก็ต้องผุพัง ด้วยเชื้อหมาเน่า ขยายไปทั่วลำเรือ จิตที่อาศัยในเรือก็หาความสงบความสุขไม่ได้ ตดต่ำลงไปเรื่อย จมลงไปๆ .ในสิ่งที่ว่า หมาเน่า .
เรื่องหมาเน่า นี่สนุก แหม..ไปโรงพยาบาล ..ว่าจะไป..เจอหมอ เอ้า . ก็แบกหมาเน่านี่น่า ..กลับๆ ตามโรงพยาบาล.เราก็ไม่ค่อยอยากเข้าไปเลย บางคลีนิก เอานางกวักมาตั้ง แหม..ช่วยให้คนป่วย เยอะหรือไง.
บางที่พายไป เห็นทรัพย์สินเงินทองลอยมา คำสรรเสริญเยินยอลอยมา เราก็เก็บมาใส่ในเรือ นั้นแหละ ปัญหามันก็เกิดขึ้น เมื่อเราไม่ดูแลเรือ พายเรือ เข้าไปดงขยะหมาเน่า กลิ่นเหม็น ที่หัวเรือไปคลุก ไปชนไปกระแทก จิตที่อาศัยในเรือ มันก็เกิดความรู้สึกไม่ชอบไม่พอใจ ในกลิ่นหมาเน่า ขยะ ต่างๆ ที่หัวเรือไปชน หัวไปชนขยะหมาเน่า แล้วมันเป็นอย่างไร มันก็ติดอยู่ที่หัวเรือ และลำเรือที่จิตเราพายไป หาหมาเน่าขยะเอง
แล้วเราจะพายเรือไปทางไหน เราก็สังเกตดู น้ำดูกระแสน้ำ ที่เราจะพายไป พายไปเจอะเจอที่ตื้น เรือมันก็พานไม่ได้ ติดเหล้าติดยา ติด.อะไรมากมาย ก็ไม่พายเรือ คือ ไม่มีสติปัญญา ดูแลเรือ เรือมันติดตื้นนี่ เรือนั้นก็ใช้การไม่ได้ ก็ผุพังไปเรื่อยๆ
นานไปหัวเรือวิญญาณทั้งหก ก็มีอะไร มาทับถมมากมาย ก็มองไม่เห็นน้ำเสียแล้ว จิตที่อยู่ในเรือ ก็รับรู้อะไรไม่ได้เลย เหมือนอยู่ในที่มืด หัวเรือมีอะไรกระทบ .มีอะไรส่งเข้าไป จิตก็ไม่รู้ว่าดีไม่ดีอย่างไร เมื่อข้างในมันมืด มองไม่เห็น จำแนกไม่ได้ ว่าของเหม็น ของหอมทีติดอยู่ที่หัวเรือมันเกาะหนาแน่น รับรู้ไม่ได้เลย
เมื่อเรารู้จัก ว่าเรือเราได้มาอาศัยอยู่ มันลำน้อยๆ ให้จิตเราพายเรือ เราก็ดูน้ำ ดูร่องน้ำดีๆ ที่จะนำเรือเราพายไป .ไปที่ขยะหมาเน่า เขื้อโรคอารมณ์เน่าๆ ของเน่า น้ำเน่า อันธพาล ทุรชน ประตูอบาย เราก็ไม่พายเรือเข้าไปติดเกยตื้น ให้เรือนั้นผุพัง
.การพายเรือ เราก็ต้องมีสติสัมปชัญญะ ดูแลตัวเอง ทั้งเหตุและผล ที่จะเกิดขึ้น กับเรือที่เราพายไป เราพายไม่ดี กำลังไม่พอ สติปัญญาไม่รู้เท่าทัน ไปขน โขดหินใต้น้ำ เรือก็ล่ม จิตก็จมลงใต้น้ำ เป็นอาหาร กุ้งหอยปูปลาในน้ำ นั้นเค้าเรียกว่า กรรมตัดรอน บั่นทอนอายุขัย ไม่มีเรือให้ใช้
เมื่อเราได้เรือมาดี เราก็ดูแลเรา หมั่นสร้างสิ่งที่ดี ที่เค้าว่า พายเรือไปหาน้ำใส ให้เรือเราแข็งแรง สะอาดสะอ้าน เราก็พานเรือทวนน้ำ ไปหาท่า ที่เค้าบุญกุศลบารมี . ที่จะเกิดเป็นน้ำใสให้เรือเราดี พายเรือ ในน้ำที่สะอาดสะอ้าน .เราก็ต้องใคร่ครวญ ดูแลร่องน้ำ กระแสน้ำ ที่เราจะพายทวนน้ำ ขึ้นไป
หากเราไม่พาย ไม่ใช้สติปัญญาใคร่ครวญดูแล พิจารณาเหตุผล ที่จะพายไป .ปล่อยเรือตามน้ำว่างั้น ..มันก็น่าเสียดาย เสียโอกาส ที่ได้เรือมามีกายเป็นมนุษย์ ทั้งที่ พายเรือขึ้นไปหาท่าบุญกุศลบารมีไม่ได้ ท่าบุญกุศลบารมี มีกายเป็นเทพยดาอินทร์พรหม
แต่นั้นแหละ จิตแต่ละดวงได้เรือมา จิตที่ลงเรือมีกายเป็นมนุษย์ ก็สะสมบุญบารมีมาไม่เหมือรกันเลย บ้างก็ได้เรือไม่ครบสามสิบสอง บ้างก็ได้เรือมา หัวโตๆ ปัญญาอ่อนตั้วแต่เกิด เมื่อเราได้เรือมาดี เราก็ สามารถ ใช้สติปัญญาที่เราได้มา หาทางช่องทางที่เราจะใช้เรือลำนี้ ใช้ให้มันดี พายเรือไปหาน้ำใส .น้ำที่ข่วยให้เราสร้างบุญกุศลบารมีให้แก่จิตของตัวเอง
เวลาที่ไปสัมผัส เรื่องราวหมาเน่ามา น้ำโคลนสกปรกเลอะเทอะโดยไม่รู้ตัว เมื่อกลับมา มีเวลา เราก็ไปนั่งหน้าพระในบ้าน พอไปรนั่งรวบรวม กาย ธาตุุพ่อธาตุแม่ พระแม่ทั้งสี่ ขันธ์ทั้งหา วิญญาณทั้งหก ให้มาอยู่นิ่งๆ . เพียงจะมานั่งนิ่งๆ จิตนิ่งๆ โอ้ย..เหมือนอากาศรอบตัว อากาศในกาย เหมือนคนเป็นไข้จับสั่น เร่าร้อนขึ้นมาทันที
.ก็พยายามทำกายนิ่งๆ ยกมือขึ้นมาพนม มองดูที่อก จิตข้าพเจ้ามีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่ง ..เพียงแค่นี้ ลมมันก็ตีขึ้นมา หาวบ้าง ปวดแสบปวดร้อน .อ้อ..เราพายเรือไปชนหมาเน่ามา เราก็มาล้างทำความสะอาด กราบพระ สวดมนต์ ภาวนา
โฆษณา