ทรัมป์ขู่ฮามาส “ต้องปลดอาวุธ” หากไม่อยากถูกบดขยี้
หลังจากหายไปจากการเมืองโลกซักระยะหนึ่งกับประธานาธิบดีโดนัลทรัมป์
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2568
ระบุว่า สหรัฐฯ เดินหน้ากดดันกลุ่มฮามาสให้ปลดอาวุธในขั้นต่อไปของข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซา ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ผลักดันให้ยุติสงครามอย่างถาวร
ระหว่างเยือนอิสราเอลในวันเดียวกัน เจดี แวนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่าข้อตกลงหยุดยิงดำเนินไป “ดีกว่าที่คาดไว้” แต่เตือนว่าหากฮามาสไม่ให้ความร่วมมือ “จะถูกบดขยี้” สอดคล้องกับคำขู่ของทรัมป์ก่อนหน้านี้ว่าจะใช้ “กำลังที่รวดเร็ว รุนแรง และเด็ดขาด” หากฮามาสไม่ยอมปลดอาวุธ
อิสราเอลและฮามาสต่างกล่าวหากันว่าละเมิดข้อตกลงหยุดยิงซึ่งมีผลมาแล้ว 8 วัน โดยยังมีเหตุปะทะประปราย และความขัดแย้งเกี่ยวกับการส่งร่างผู้เสียชีวิตของตัวประกัน การเปิดด่านชายแดน และการนำความช่วยเหลือเข้าไปในพื้นที่
แวนซ์มีกำหนดพบกับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูในวันที่ 22 ต.ค. โดยเขาแสดงความหวังว่าข้อตกลงหยุดยิงจะนำไปสู่การปรับความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลกับประเทศอ่าวอาหรับเพิ่มเติมในอนาคต อย่างไรก็ตาม เขายอมรับว่าการคืนร่างของตัวประกันทั้งหมดอาจใช้เวลานาน และการดำเนินตามแผนหยุดยิงของทรัมป์ต้องอาศัย “ความพยายามและเวลาที่ยาวนานมาก”
แผนหยุดยิง 20 ข้อของทรัมป์เรียกร้องให้ฮามาสปลดอาวุธ ควบคู่กับการถอนทหารอิสราเอลออกจากกาซา และกำหนดเส้นทางสู่การจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์ โดยเสนอให้จัดตั้ง “คณะเทคโนแครต” บริหารกาซาภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการนานาชาติ พร้อมจัดตั้งกองกำลังพหุชาติที่ไม่มีส่วนร่วมของฮามาส
แวนซ์กล่าวระหว่างเยือนฐานทัพทางตอนใต้ของอิสราเอล ว่าสหรัฐฯ อิสราเอล และประเทศอ่าวอาหรับเห็นพ้องกันว่ากลุ่มนักรบของฮามาสอาจได้รับการอภัยโทษ แต่ต้องยอมปลดอาวุธ “ถ้าฮามาสไม่ให้ความร่วมมือ ตามที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวไว้ ฮามาสจะถูกบดขยี้” เขากล่าวย้ำ
แหล่งข่าวชาวปาเลสไตน์ระบุว่า ฮามาสยินดีให้มีการจัดตั้งคณะเทคโนแครตบริหารฉนวนกาซาโดยไม่มีตัวแทนของตน แต่ต้องได้รับความเห็นชอบจากทั้งฮามาสและฝ่ายปกครองปาเลสไตน์
เรียบเรียงโดยอาจารย์ต้นสัก สนิทนาม
#สหรัฐฯ #อิสราเอล #กาซา #ฮามาส #ปาเลสไตน์ #ANURAKNEWS #ทรัมป์
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
