22 ต.ค. เวลา 11:36 • การเมือง

ส้ม …ความอำมหิตแบบ “เด็กสมัยนี้”

ตอนตั้งรัฐบาลใหม่ๆ นักวิเคราะห์การเมืองรุ่นเก๋าๆ
บอกว่าส้มเสียเหลี่ยมภูมิใจไทย และจะถูกกลืนกระแส
มาวันนี้ ชักไม่ใช่ซะแล้ว ….
…และผมคิดว่านักการเมือง นักวิเคราะห์รุ่นเก่าๆ เองซะมากกว่าที่ไม่เข้าใจวิธีคิด ไม่เข้าใจโลก จนเสียเหลี่ยมเด็ก….
ถ้าทำงานกับเด็กสมัยนี้มากๆ คุณจะต้องเข้าใจว่า
เด็กสมัยนี้เก่งมาก เรื่องการใช้พลังของข้อมูล
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการทำงาน
คือ ต้องใช้เด็กแบบเป็นนะ ไม่ใช่ใช้แบบกด สั่งอย่างเดียว
แบบนี้นคุณจะไม่เข้าใจลูกน้องทุกแบบอยู่แล้วล่ะ
เด็กสมัยนี้ มีจุดแข็งที่สุด คือการหาและเชื่อมโยงข้อมูล
ก่อนจะลำดับเรื่องราวออกมาเป็นฉากๆ ได้
บ่อยครั้ง ที่เด็กพวกนี้จะทน และยอมเสียเปรียบ
ก่อนย้อนเอาเจ็บๆ ด้วยชุดข้อมูลที่กระจ่างกว่าเรา
การทำงานกับเด็กสมัยนี้ จำเป็นต้องระวังมาก
หากจะใช้ชุดข้อมูลในการอ้างอิง เพราะหากไม่แน่นพอ
มีสิทธิ์โดนสวนเละ ดับอนาถคาห้องประชุมได้
…แน่นอน ว่าหลายคนถึงได้เกลียดเด็กพวกนี้
เพราะเวลามันไล่เรา มันจะไม่มีการมาคุยนอกรอบก่อน
…แต่มันใช้วิธีสวนให้อาย แบบไม่รักษาน้ำใจ ไม่ไว้หน้า
ซึ่งอันนี้มันค่อนข้างผิดจริตของสังคมไทย….
และนี่คือวิธีคิด วิธีทำของเด็กสมัยนี้ ที่มันกำลังนำมาใช้
กับกลยุทธ์ทางการเมืองในพรรคของตัวเอง ….
อยากได้แสง ก็ได้สิ ฉันยกสปอตไลต์ให้เลย
กลยุทธ์ทางการเมืองของพรรคส้มนั้น ใหม่มาก
และแทบไม่เคยมีมาก่อนเลย ในการเมืองไทย
นั่นจึงทำให้นักวิเคราะห์ และภูมิใจไทยนั้นพลาดอย่างรุนแรง
ผมค่อนข้างมั่นใจว่า พรรคส้มนั้นวิเคราะห์กันมาดีแล้ว
ถึงช่วงเวลาของภูมิใจไทย ว่าจะไม่สามารถทำอะไรได้
กับปัญหาประเด็นต่างๆของประเทศที่มีอยู่
1
ก็เพราะชุดข้อมูล ความเข้าใจบริบทโลกที่มากกว่านั่นแหละ
กับเศรษฐกิจ เด็กพวกนี้รู้อยู่แล้ว ว่าปัจจัยภายนอก
มันส่งผลอย่างมากต่อสภาพเศรษฐกิจภายใน
จะส่งรัฐมนตรีภาพดีแค่ไหนมา มันก็ช่วยอะไรไม่ได้
นอกจากการแจกเงินในช่วงสั้นๆ แล้วคนไม่ด่า
…และหลังการแจกทุกครั้ง มันมีข้อมูลชัดเจน ว่าจะทำให้
สินค้าและบริการมีราคาสูงขึ้น และไม่ปรับลดลงมาอีก…
…หลังการแจกทุกครั้ง สภาพเศรษฐกิจก็มักจะซบเซา
ลงอยู่ระยะหนึ่ง เนื่องจากระหว่างแจกนั้น มีลักษณะ
ของการใช้ “กำลังซื้อล่วงหน้า” ของประชาชน ซื้อของจำเป็น
มากักตุนเอาไว้ จนเกิดภาวะซึม หรือสตันท์หลังจากนั้น
…การลงทะเบียน ก็มักมีดราม่า มีปัญหาทุกครั้ง
ซึ่งครั้งนี้ก็ไม่ต่างกัน ยังมีคนควรได้อีกมาก ที่ยังไม่ได้
และเข้าไม่ถึง…
กับเรื่องเศรษฐกิจ และมาตรการที่รัฐบาลออกมานั้น
พรรคส้มน่าจะวิเคราะห์เทียบกับไทม์ไลน์แล้วว่า…
มีความเป็นไปได้สูงมาก ว่าหากยุบสภาช่วงปลายมกราคม
ซึ่งต้องเลือกตั้งใหม่ใน 60 วัน มันจะเป็นช่วงที่เศรษฐกิจ
ซึมที่สุด เนื่องจากผลของการแจกหมดลง และคนเอง
ก็จะเสียกำลังซื้อจากช่วงปีใหม่ไปอีกมาก
สำหรับต่างประเทศ ด้วยสถานการณ์ต่างๆ เป็นไปได้ยากมาก
ที่จะมีนักท่องเที่ยวมาได้ตามเป้า
…ฝมันก็จะกลายเป็นช่วงดาวน์ของรัฐบาลตามสภาพเศรษฐกิจในจังหวะที่มีการเลือกตั้ง ที่คาดว่าจะเป็นเดือนมีนาคมพอดี…
…พรรคส้ม คงวิเคราะห์มาถึงผลจากโครงการทางการเมือง
จึงไม่คัดค้าน เหมือนโครงการแจกเงินของพรรคเพื่อไทย….
…แต่คอยดูได้ พวกเขาจะขยี้ยับถึงผลสำเร็จ หลังจบโครงการ…
เรื่องเขมร เงินสีเทา จะกลายเป็นจุดสลบที่สุดของรัฐบาล
กลยุทธ์ในเรื่องนี้ของพรรคส้ม ต้องถือว่า
มีความชาญฉลาด และอำมหิตถึงขั้นสุดเลยทีเดียว
พรรคส้มนั้น เรารู้กันดีอยู่แล้ว ว่ามีจุดยืนอย่างไร
ต่อกลุ่มที่เป็นแกนของระบบอุปถัมภ์
ทั้งนักการเมือง ข้าราชการประจำ ฝ่ายความมั่นคง
ทุนผูกขาด เรื่อยไปจนถึงมาเฟียท้องถิ่น
…เหล่านี้ คือกลุ่มที่พรรคส้ม พยายามฟาดมาตลอด…
แน่นอน ว่าทุกคนในเครือข่ายเหล่านี้ บางคนมัน “ไม่ขาว”
และไอ้ที่ไม่ขาวบางคนนี่แหละ ที่ดันมีอิทธิพลมาก
ต่อการดำเนินมาตรการใดๆ ของรัฐบาล
โดยเฉพาะ เมื่อเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย
ซึ่งไม่สามารถเสีย สส. ในสภาฯไปได้เลยแม้แต่เสียงเดียว
การขุดเรื่องคุณกัน ที่มีความเชื่อมโยงค่อนข้าง
ชัดเจนกับกลุ่มคุณธรรมนัส
ซึ่งเป็นหัวหน้ากลุ่มที่ค้ำเสถียรภาพของรัฐบาลอยู่
และมีภาพไม่ดีนักอยู่แล้วแต่เดิม
มันสะเทือนไปถึงนายกอย่างแน่นอน หากจัดการไม่เหมาะสม
…และเชื่อเถอะ ว่าเรื่องนี้เพิ่งเริ่มเท่านั้น !….
เพราะหลังการที่ชาติใหญ่ เขี่ยบอลมาให้ถูกจังหวะแบบนี้
คุณโรมก็จัดการขยี้ต่อทันที
ด้วยการให้ผลักดันอาชญากรรมออนไลน์
กลายเป็นเรื่องของวาระระดับโลกได้สำเร็จ
ซึ่งแน่นอน การขุดคุ้ยในต่างประเทศนั้น
มีพลังมากเกินกว่าที่เครือข่ายในไทยใดๆ
จะสามารถเจรจา เพื่อช่วยกันปกปิดได้อีกต่อไป
ในความเป็นจริงแล้ว ไทยไม่สามารถปฏิเสธได้
ถึงการเป็นทางผ่าน และการสนับสนุนพื้นฐานในหลายด้าน
ให้กลุ่มอาชญากรรมเหล่านี้
หลายคนที่เป็นเหยื่อ เดินทางผ่านประเทศไทย
เส้นทางการเงิน ก็มีค่อนข้างมากที่ผ่านประเทศไทย
ไฟฟ้า อินเตอร์เน็ต สาธารณูปโภคต่างๆ ก็ไทยอีก
และมีการใช้ไทย ที่มีความเชื่อถือสูงกว่า
เป็นฐานในการจดทะเบียนนิติบุคคลเป็นจำนวนมาก
เพื่อหลอกเงินจากชาวโลก
การที่พรรคส้มโดยคุณโรม ผลักดันเรื่องนี้สำเร็จ
มันย่อมทำให้ สปอตไลต์ในการแก้ปัญหาของชาวโลก
ส่องมาที่ไทยอย่างเลี่ยงไม่ได้อีกต่อไป
แล้วก็อย่างที่บอก คือหลายคนที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล
มันก็มีเครื่องหมายคำถามอยู่แล้ว ถึงความโปร่งใส
ซึ่งหากมีข้อมูลจากต่างประเทศมาจริงๆ
ถึงความเกี่ยวข้องของบางคน รัฐบาลนี้ก็จะเสียไปด้วย
อย่างมาก เพราะกระแสไทย กัมพูชา มันแรงมาก
ยังจะบริษัทยักษ์ใหญ่ ข้าราชการอีก ซึ่งเราไม่มีทางรู้เลย
ว่ามันยังมีอะไรซ่อนอยู่อีกเท่าไหร่
แต่หากทางต่างประเทศเขาตั้งข้อสังเกตขึ้นมา
นั่นก็เท่ากับพรรคส้มทำสำเร็จ
ในการยืมมือต่างชาติ ถล่มเครือข่ายระบบอุปถัมภ์
เชื่อว่ารัฐบาลไทย และข้าราชการไทย ที่เคยเทาๆ
ตอนนี้ คงอยู่กันไม่สุขแน่
เพราะมันไม่เหมือนการแฉกันในประเทศ
ที่จะเอาอำนาจรัฐไปช่วยกลบ ให้มันเงียบได้
หรือจะทำการฟ้องปิดปาก กับคนที่ตัวใหญ่กว่า
อย่างชาติมหาอำนาจนั้น ก็ทำไม่ได้เช่นกัน….
ตอนนี้พวกเทาๆ ในรัฐบาล ก็คงได้แต่ภาวนา
ว่าจะไม่มีอยู่ในลิสต์ของบรรดาชาติใหญ่เหล่านั้น…
เพราะหากมี ด้วยข้อตกลงความร่วมมือระหว่างประเทศ
ในลักษณะนี้ ข้อมูลย่อมตกถึงมือของฝ่ายค้านไทย
ซึ่งก็คือพรรคส้ม และฝ่ายแค้นคือเพื่อไทยแน่นอน
…ถ้าเป็นแบบนั้น อะไรจะเกิดขึ้น คงไม่ต้องบอกเลย…
แล้วมันจะเสียไปถึงองค์กรตรวจสอบ บังคับใช้กฎหมายของเรา
ที่เคยปล่อยผ่านคนเหล่านี้มาแล้วได้วย พวกเขาจะไม่เหลือเครดิต ความเป็นคนดีอะไรอีกเลย ในสายตาชาวโลก
และแม้แต่ในสายตาคนไทย…
…ซึ่งนั่นเท่ากับว่า ส้มได้ยืมมือความร่วมมือระหว่างประเทศ
ตีเครือข่ายอุปถัมภ์ที่เคยเป็น untouchable ในสังคมไทย
จนเละเทะได้สำเร็จตามเป้าหมายนั่นเอง….
ในขณะที่นักการเมืองรุ่นเก่า นักวิเคราะห์รุ่นเก่า
ใช้ความเชื่อเรื่องกลุ่มผลประโยชน์เฉพาะในบ้านเราเอง
เป็นหลักในการวิเคราะห์ทิศทางการเมืองต่างๆ
แต่เนื่องจากบริบทของโลกนั้น มันเปลี่ยนแปลงมาไกลมาก
ซึ่งเชื่อเถอะว่า มันไม่เคยมีเรื่องนี้อยู่ในหัวคนรุ่นเก่ามากนัก
หลายท่านแม้จะเข้าใจบริบทการต่างประเทศ
เป็นอย่างดี และผ่านยุคสงครามเย็นมา
แต่มันก็มีบริบทที่แตกต่างจากสมัยนี้มากอยู่ดี
พวกเขาจึงไม่มีแผนอะไรเลย ที่จะมารับมือกยุทธ์แบบนี้ได้ทัน
ข้อมูลของต่างชาตินั้น มันอาจเคยถูกบิดเบือน
ว่าเป็นการแทรกแซงได้
หากเรื่องนั้นตีกระทบที่อำนาจรัฐ
หรือการใช้กฎหมายของไทยเราโดยตรง
แบบนั้น ทางฝ่ายเครือข่ายอำนาจ
ยังแก้ตัวและมีคนคล้อยตามได้ง่าย
แต่กับเรื่องอาชญากรรม ที่มีคนไทยเดือดร้อนนับแสนคน
มีความเสียหายตลอดเวลามาแล้ว หลายแสนล้านบาท
และสร้างความน่ารำคาญให้แก่ผู้ไม่เสียหายตลอดเวลา
ข้อมูลจากต่างชาติ จะไม่สามารถถูกบิดเบือนได้เลย
ว่าเป็นแผนการทำลายรัฐไทย ชาวบ้านจะให้น้ำหนัก
กับข้อมูลเหล่านี้ว่า “จริง” มากกว่าการที่รัฐไทยชี้แจงแน่นอน
หากรัฐบาลและท่านนายกปัจจุบัน ยังมัวแต่นิ่งเฉย
เพราะห่วงแต่เสถียรภาพรัฐบาล
หรือห่วงเครือข่ายจะเสียประโยชน์จนเสียการสนับสนุนตน
แบบนั้น จะไม่ใช่แค่รัฐบาลที่พัง…
แต่จะพาและดึงกันจนพังไปหมดทั้งเครือข่ายการเมืองเก่า
…ซึ่งนั่นเอง ก็คือจุดหมายของพรรคส้มอยู่แล้ว….
…ที่พวกเขาทำ มันไม่ใช่แค่การตีอินฟลูคนดังแบบเล่นๆ…
…แต่ส้มมีภาพใหญ่กว่านั้นมาก เป็นเป้าหมาย….
นี่คือความอำมหิต สไตล์เด็กสมัยนี้อย่างแท้จริง
1
การยอมอ่อนให้ชั่วคราวตอนนี้ เป็นเรื่องธรรมดา
เพราะสิ่งที่พวกเขามีมากกว่าทุกกลุ่ม คือ “เวลา”
ที่จะยังอยู่ไปอีกนาน ไม่จำเป็นต้องเร่งมีอำนาจ
ในขณะที่บ้านเมืองเต็มไปด้วยปัญหา ที่แก้ไม่ได้
การคิดแบบการเมืองเก่า ว่าควรเร่งมีอำนาจ
เมื่อมีโอกาส เพื่อเก็บกระสุนดินดำ สร้างเครือข่าย
เชื่อได้ว่าไม่ได้อยู่ในหัวของพรรคส้มด้วยซ้ำไป
เพราะฐานเสียงพวกเขา มีลักษณะอีกแบบ
ที่ไม่จำเป็น ต้องใช้สิ่งที่นักการเมืองรุ่นเก่าเคยใช้
…ผมต่อให้คุณเฉลิมช่วงพีคเลย…
…ถ้าลงบางบอนแข่งกับไอซ์ที่แม้จะโดน 112 ในนาทีนี้
คุณเฉลิมจะแพ้ยับเยินแน่นอน…
…นี่คือสิ่งที่ทำให้พรรคส้ม ไม่จำเป็นต้องเล่นการเมืองแบบเก่า
ที่ต้องเร่งมีอำนาจ เพื่อปัจจัยทางการเมือง….
ลองคิดดู สมมุติย้อนกลับไป ในวันที่พรรคเพื่อไทยโดนล้ม
แล้วส้มร่วมรัฐบาลเสียเอง กับพรรคภูมิใจไทย
ป่านนี้ก็คงโดนด่าเหมือนกัน โดนลากลงนรกไปด้วยกัน
พวกเขาคงประเมินแล้ว ทั้งด้วยสมองตัวเอง ที่ปรึกษา
และกระทั่งการจำลองสถานการณ์ด้วย AI
ว่ารัฐบาลนี้จะไม่สามารถทำอะไรได้ กับประเด็นต่างๆ
จึงถอยฉากออกไป จากการเข้าไปถืออำนาจรัฐ
ที่เสี่ยงล้มเหลวสูงมาก จนเสียการสนับสนุนในอนาคตได้
ตอนแรก พวกเขาดูเหมือนเพลี่ยงพล้ำ แม้แต่กองเชียร์ก็ยังด่า
แต่ดูตอนนี้สิ คะแนนนิยม น่าจะกลับมาสูงมาก
ด้วยฝีมือ ฝีปาก ความจัดจ้าน ของ สส. ไม่กี่คน
และอาศัยปัจจัยแวดล้อมของโลกมาช่วยขยี้ เปิดแผลรัฐบาล
กลยุทธ์ของพรรคส้ม มันจึงเหมือน อยากดังจัดให้
…อุ้มขึ้นไปเวทีให้เลย แล้วเอาให้เต็มที่นะ…
…พอแสงส่องมากพอ คนดูแน่น ก็ค่อยตามขยี้ ตามตบ ….
…ยิ่งรัฐบาลมีเครือข่ายที่หิวแสงแบบนี้ด้วย ก็ยิ่งเข้าทางส้ม….
คิดๆดูดีๆ แล้วนะ ….
ไม่ใช่เด็กมันโง่ อ่อนเกมส์การเมืองอะไรหรอก
แต่มันคือนักการเมืองแบบเก่า ที่ไม่ทันมัน โดนมันลาก
เข้าไปเล่นในเกมส์ที่ตัวเองไม่รู้จัก จนกำลังจะพังต่างหาก…
เด็ก ไม่ได้แปลว่าโง่ โดยเฉพาะ ถ้าคุณไปอยู่ในเกมส์ของมัน
…คุณเองจะรู้สึกว่าตัวเองนั่นแหละโคตรโง่…
…และจะต้องเสียใจมากๆ ที่ดูแคลน “เด็กสมัยนี้”….
คุณกันนั้นคงกลับมายากแล้ว หลังโดนขุดถึงตอนนี้
รมช. คลังก็ต้านกระแสไม่ไหวลาออกไปแล้ว
ใครจะเป็นรายต่อไป ที่ต้องทิ้งรัฐบาลหนู มารอลุ้นกันดูนะครับ
…ส่วน รมต.ภาพดี ผมว่าท่านมาเปลืองตัวเปล่าๆแล้วล่ะ…
…สีดำ มันเลอะท่านไปหมดแล้ว คิดดีๆนะครับ ถ้าจะอยู่ต่อ…
เตือนด้วยควมหวังดี เพราะรอบนี้”โลก”มันล้อมเราจริงๆแล้ว
…และเขาเอาจริงๆนะ โดยเฉพาะเกาหลีใต้นั่นแหละ ระวังไว้….
โฆษณา