Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
กรุงเทพธุรกิจ
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
วันนี้ เวลา 00:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
วิกฤติ “บัตรทอง” สั่นคลอนการเงินโรงพยาบาลรัฐ | #บทบรรณาธิการกรุงเทพธุรกิจ
ปัญหาการบริหารจัดการงบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ “กองทุนบัตรทอง” ที่ดูแลโดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสภาพคล่องทางการเงินของโรงพยาบาลรัฐ
สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้บุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ต้องออกมาเรียกร้องพร้อมชูป้ายข้อความว่า “กู้วิกฤติโรงพยาบาล ต้องปฏิรูป สปสช.” เนื่องจากรายรับของโรงพยาบาลในสังกัด สธ. ถึง 56% มาจากการให้บริการภายใต้กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หากเกิดภาวะขาดสภาพคล่องทางการเงิน ย่อมส่งผลกระทบต่อการพัฒนาโรงพยาบาล ขวัญและกำลังใจของบุคลากร และท้ายที่สุดคือการบริการผู้ป่วย
กลุ่มองค์กรวิชาชีพแพทย์ได้ชี้ถึงสาเหตุสำคัญของปัญหาว่าเกิดจากเกณฑ์การเบิกจ่ายที่กำหนดอัตราจ่ายต่ำเกินไป ปัจจุบัน สปสช. กำหนดอัตราจ่ายเพียง 8,350 บาทต่อ 1 น้ำหนักสัมพัทธ์ (AdjRW) ซึ่งจากการวิจัยเมื่อ 5 ปีที่แล้วพบว่าอัตราดังกล่าวต่ำมาก โดยคิดเป็นเพียง 63% ของต้นทุนจริงในขณะนั้นที่ 13,240 บาทต่อ 1 น้ำหนักสัมพัทธ์
ยิ่งไปกว่านั้น แม้ต้นทุนค่ารักษาผู้ป่วยในจริงในช่วงปีงบประมาณ 2564–2566 ได้เพิ่มขึ้นไปอยู่ในช่วง 15,900 – 16,400 บาทต่อ AdjRW แต่ สปสช. ยังคงจ่ายในอัตราเดิมที่ 8,350 บาทต่อ AdjRW ตลอดทั้ง 3 ปี ทำให้ช่องว่างระหว่างรายได้และรายจ่ายของโรงพยาบาลขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
นอกจากปัญหาอัตราจ่ายที่ไม่สอดคล้องกับต้นทุนแล้ว โรงพยาบาลยังต้องเผชิญกับกลไกที่ทำให้ถูกเรียกเงินคืน การคำนวณย้อนกลับ (Rerun) ที่ สปสช. ดำเนินการตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2567 ถึง 31 กรกฎาคม 2568 ส่งผลให้อัตราจ่ายลดลงเหลือไม่ถึง 7,000 บาทต่อ 1 AdjRW ในหลายโรงพยาบาล
รวมถึงการนำผลการตรวจสอบคุณภาพเวชระเบียน (Audit chart) มา ขยายผลเป็น 33 เท่า เพื่อใช้หักเงินเพิ่มจากโรงพยาบาล สาเหตุหลักที่งบประมาณผู้ป่วยในไม่เพียงพอนั้น มาจากการใช้บริการผู้ป่วยในเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ประกอบกับการบริหารงบประมาณแบบปลายปิด
เพื่อบรรเทาวิกฤติโรงพยาบาลได้มีข้อเรียกร้องให้ สปสช. ยกเลิกการหักเงินคืนจากการขยายผลตรวจสอบเวชระเบียน 33 เท่า และการคำนวณย้อนกลับ (Rerun) พร้อมทั้งเสนอให้ สปสช. บันทึกงบประมาณผู้ป่วยในที่ไม่เพียงพอเป็นลูกหนี้ของโรงพยาบาลแทน เพื่อรอชำระเมื่อได้รับงบประมาณเพิ่มเติม สำหรับการแก้ไขปัญหาระยะสั้น รัฐบาลได้เสนอขอ งบประมาณกลาง 8,000 ล้านบาท เพื่อนำมาจ่ายหนี้ให้กับโรงพยาบาล
สำหรับการแก้ไขปัญหาในระยะยาว มีการวางแผนเพื่อจัดทำงบประมาณในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติให้สะท้อนภาระจริงที่เพิ่มขึ้น โดยมีเป้าหมายในการปรับ Base rate ของงบประมาณผู้ป่วยในบัตรทอง จากเดิม 8,350 บาท โดยตั้งเป้าที่จะขอปรับเป็น 10,000 บาทต่อ AdjRW ในปีงบประมาณ 2570 และจะขอปรับต่อไปที่ 13,000 บาท เพื่อยกระดับศักยภาพของโรงพยาบาล
จริงอยู่แม้ว่าโรงพยาบาลรัฐจะไม่ได้มุ่งหวังกำไรหรือขาดทุน แต่ปัญหาการขาดสภาพคล่องทางการเงินที่เกิดขึ้นย่อมส่งผลกระทบ จึงจำเป็นต้องแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วน เพราะรายรับของโรงพยาบาลในสังกัด สธ.เกินครึ่งมาจากกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หากปล่อยให้ปัญหาการบริหารจัดการกองทุนส่งผลกระทบต่อการให้บริการของรพ.เกรงว่าผลกระทบร้ายแรงที่ตามมาจะตกอยู่ที่ประชาชนผู้รับบริการ
1 บันทึก
2
1
1
1
2
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย