23 ต.ค. เวลา 03:01 • ธุรกิจ

🧭 “กลยุทธ์คือเกมรุก” และ “KPI คือคำสัญญา”

การขับเคลื่อนองค์กรในยุคที่ผลลัพธ์สำคัญกว่าคำพูด
“เกมรับไม่ใช่กลยุทธ์ และ KPI ไม่ใช่ตัวเลข แต่มันคือคำสัญญาที่ทุกคนต้องรักษาร่วมกัน”
====
💥 เมื่อ “กลยุทธ์” ถูกใช้ผิดบริบท?
* ทุกวันนี้ คำว่า “กลยุทธ์” ถูกพูดถึงในทุกห้องประชุมจนแทบจะกลายเป็นคำแฟชั่น แต่กลับถูกใช้ผิดบริบทอย่างน่ากังวล
* หลายองค์กรตีความ “กลยุทธ์” ว่าเป็นเพียง “การวางแผนเพื่อป้องกันความเสี่ยง” หรือ “การตั้งรับกับสิ่งที่อาจเกิดขึ้น” ซึ่งจริงๆ แล้วมันคือ ความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน
* เพราะแท้จริงแล้ว “กลยุทธ์” (Strategy) คือ “เกมรุก” ที่ออกแบบขึ้นเพื่อกำหนดทิศทาง และสร้างสภาพแวดล้อมให้เราเป็น “ผู้กำหนดเกม” แทนที่จะเป็น “ผู้ถูกกำหนดเกม”
กลยุทธ์ที่ดี ไม่ใช่แค่ “อยู่รอด” แต่ต้อง “รุกเพื่อชนะ”
* องค์กรจำนวนมากหลงอยู่ใน “กลยุทธ์เชิงรับ” เช่น “ลดต้นทุน”, “รักษาส่วนแบ่งตลาด”, หรือ “รอให้คู่แข่งเคลื่อนไหวก่อน” สิ่งเหล่านี้อาจช่วยให้ธุรกิจอยู่รอดในระยะสั้น แต่ไม่อาจสร้างความได้เปรียบระยะยาวได้เลย เพราะมันไม่ได้สร้าง “คุณค่าใหม่” ให้ตลาด
* กลยุทธ์ที่แท้จริงต้องกล้า “เลือก” สนามรบของตัวเอง และ “ออกแบบเกม” ที่คนอื่นยังไม่กล้าเล่น ตัวอย่างเช่น Apple ที่ไม่ได้แข่งเรื่องสเปกเครื่อง แต่สร้างสนามใหม่ในเรื่อง “ประสบการณ์ผู้ใช้” หรือ Tesla ที่ไม่เล่นเกมขายรถ แต่รุกไปสร้าง ecosystem พลังงานของตัวเอง
* การตั้งรับอาจเป็นยุทธวิธีที่จำเป็นในบางจังหวะ แต่ไม่ใช่หัวใจของกลยุทธ์ เพราะยุทธวิธีคือ “การแก้เกม” ส่วนกลยุทธ์คือ “การสร้างเกม”
====
📊 “KPI” ที่ทรงพลัง = "ต้องไม่ใช่ตัวเลขสั่งลงมา"
เมื่อเกมรุกถูกออกแบบแล้ว เครื่องมือที่จะวัดว่าเกมนี้เดินหน้าได้จริงหรือไม่ คือ “KPI” แต่ในหลายองค์กร KPI กลับถูกใช้เป็น “เครื่องมือควบคุม” มากกว่า “เครื่องมือขับเคลื่อน” ทำให้มันกลายเป็นสิ่งที่พนักงานกลัว มากกว่ารู้สึกภูมิใจ
KPI ที่แท้จริงต้องเป็น “คำสัญญา” ไม่ใช่ “คำสั่ง” มันคือการตกลงร่วมกันระหว่างหัวหน้าและทีม ว่าเราจะร่วมกันสร้างผลลัพธ์อะไร ไม่ใช่ตัวเลขที่ผู้บริหารส่งลงมาจากด้านบนโดยไม่เข้าใจบริบทของหน้างาน
KPI ที่ดี คือตัวชี้วัดที่ทีมเลือกจะรักษาด้วยใจ ไม่ใช่สิ่งที่ต้องทำเพราะกลัวไม่ถึงเป้า
องค์กรยุคใหม่เริ่มจาก Google ใช้แนวทาง OKR (Objective & Key Results) ที่เปิดให้พนักงานมีส่วนร่วมในการตั้งเป้า ผลคือทุกคนรู้สึกมี “ownership” ในเป้าหมาย และเกิดแรงขับจากภายในมากกว่าการรอแรงกดจากภายนอก
====
⚠️ กับดักของ KPI = “ตั้งผิด” หรือ "ใช้ผิดคน"?
หลายองค์กรล้มเหลวไม่ใช่เพราะขาดกลยุทธ์หรือ KPI แต่เพราะใช้มัน “ผิดวิธี” และ “ผิดคน” สาเหตุหลักได้แก่
1. “ตั้งเป้าหมายผิด" (Wrong Direction) = ตัวชี้วัดไม่สอดคล้องกับกลยุทธ์ เช่น วัด “จำนวนประชุม” แทน “คุณภาพของการตัดสินใจ” หรือเน้นยอดขายระยะสั้นจนลืมคุณค่าระยะยาวของลูกค้า
2. “ใช้คนผิด" (Wrong Execution) = เป้าหมายถูกต้อง แต่คนทำไม่เหมาะ เช่น ให้คนที่ไม่เข้าใจ Data ไปบริหารโครงการข้อมูล หรือให้คนที่ถนัดปฏิบัติไปกำหนดกลยุทธ์องค์กร
3. และสิ่งที่อันตรายที่สุดคือ “การวินิจฉัยผิด” (Wrong Decision) = เมื่อผลไม่ถึงเป้า แทนที่จะปรับคนหรือวิธีการ กลับลดเป้าให้ต่ำลงเพื่อให้ดูเหมือนสำเร็จ ซึ่งเท่ากับการลดศักยภาพขององค์กรโดยไม่รู้ตัว
====
🧩 องค์กรจึงต้องออกแบบ “เกมรุก” และ “คำสัญญา” พร้อมกัน?
ยุคนี้ ต้องไม่เพียงคิดเกมรุก แต่ต้องสร้าง “พันธสัญญา” กับทีมให้ขับเคลื่อนไปด้วยกัน
1. “ออกแบบเกมรุก” (Strategy Design): ระบุทิศทางให้ชัดว่าองค์กรจะชนะที่ไหนและอย่างไร พร้อมระบุขอบเขตของเกมที่ควบคุมได้
2. “สร้างคำสัญญา” (KPI Agreement): เปิดพื้นที่ให้ทีมมีส่วนร่วมตั้งเป้า กำหนดข้อตกลงร่วมกันว่าจะทำให้สำเร็จอย่างไร และยอมรับความรับผิดชอบร่วมกันในผลลัพธ์นั้น
3. องค์กรที่มี “คำสัญญา” (Agreement) ที่แข็งแรง ไม่ต้องใช้คำสั่งจากเบื้องบน เพราะแรงผลักดันจะเกิดจากความภูมิใจในทีมเอง ความรู้สึกว่า “เราสัญญาไว้แล้ว ต้องทำให้ได้” นั้นทรงพลังมากกว่าคำสั่งใดๆ
“KPI ที่ทรงคุณค่า คือสิ่งที่คนในทีมอยากรักษาไว้ด้วยเกียรติ ไม่ใช่ทำเพราะกลัวถูกตำหนิ”
====
🌍 ตัวอย่างจากองค์กรระดับโลก
* Microsoft ภายใต้การนำของ Satya Nadella เปลี่ยนแนวคิดจาก “ป้องกันตลาด Windows” ไปสู่ “รุกตลาด Cloud” ด้วยวัฒนธรรมใหม่ที่เน้นการเรียนรู้และการเติบโต KPI ถูกปรับจากการวัด “ผลผลิต” (Output) มาเป็น “ผลลัพธ์” (Outcome) จนกลายเป็นองค์กรที่ฟื้นตัวได้อย่างสง่างาม
* Netflix ใช้แนวคิด “Freedom & Responsibility” เปิดโอกาสให้ทีมตั้ง KPI ของตัวเองและรับผิดชอบเต็มที่ต่อผลลัพธ์ โดยผู้นำไม่ใช่ผู้สั่ง แต่เป็นผู้สนับสนุนและสร้างกรอบให้การทดลองเกิดขึ้นได้จริง
* Toyota ใช้ระบบ “Kaizen” ที่วัดความสำเร็จจากการปรับปรุงกระบวนการอย่างต่อเนื่อง มากกว่าการกดดันด้วยตัวเลข ทำให้ทุกคนรู้สึกมีส่วนร่วมในคุณภาพ และไม่กลัวที่จะรายงานปัญหา เพราะเป้าหมายคือการพัฒนา ไม่ใช่ลงโทษ
====
✨ สุดท้ายนี้
องค์กรที่ยิ่งใหญ่ไม่ได้ชนะเพราะมี “คนเก่ง” มากที่สุด แต่เพราะมี “คำสัญญา” ที่แข็งแรงที่สุด มีระบบที่ทำให้ทุกคนกล้าเล่นเกมรุก และมีวัฒนธรรมที่ให้เกียรติข้อมูลมากกว่าความรู้สึก
เพราะ “กลยุทธ์คือเกมรุก” และ “KPI คือคำสัญญา” เมื่อทั้งสองสิ่งเดินคู่กันได้  องค์กรจะไม่ใช่แค่รอด แต่จะ “นำเกม” ไปข้างหน้าเสมอ
#วันละเรื่องสองเรื่อง
#Strategy
#KPI
#Leadership
#Accountability
#Execution
#องค์กรยุคใหม่
#กลยุทธ์เชิงรุก
โฆษณา