25 ต.ค. เวลา 02:00 • การเมือง

การกลับมาแบบเท่ๆ ของ SKY !

มันกลับมาแล้ว …แล้วจะเอาไง ?
เรียกเสียงซี้ดกันทั้งวงการก่อสร้าง
ตั้งแต่วิศวกรยันคนงาน
เมื่อกระทรวงอุตสาหกรรม ภายใต้รัฐมนตรีใหม่
ถอนอายัดเหล็กของกลาง ที่เคยตรวจยึด
และตรวจสอบแล้วโดย สมอ. ว่าต่ำกว่ามาตรฐาน
ของบริษัท ซินเคอหยวน (SKY) ยักษ์เหล็กจากจีน
ตั้งแต่ปลายปีก่อน หลังเหตุการณ์เตาหลอมระเบิด
ซึ่งส่วนนี้ ไม่ได้เกี่ยวกับกรณีตึก สตง. ถล่ม
ในเหตุการณ์แผ่นดินไหวแต่อย่างใด
แต่ก็นั่นแหละ มันจึงมีแต่เครื่องหมายคำถามเต็มไปหมด
ในตอนนี้ เนื่องจากไอ้ที่ยึดไป มันก็เป็นเหมือนการสุ่มตรวจ
แล้วไม่ผ่านมาตรฐานไปแล้ว แต่ทำไมยังปล่อยมาอีกนั่นเอง…
…แล้วกับคนที่ต้องใช้มันทำงาน ก็เดือดร้อนสิครับ….
ปัญหามันคงไม่ใช่แค่ความเชื่อมั่นในหมู่ชาวบ้าน
แต่เนื่องจากมันมีปัญหาข้อกฎหมายใหม่ๆ
เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหลังเหตุการณ์ตึกถล่ม
แต่ก็อีก กฎระเบียบเกี่ยวกับการใช้เหล็กจากเตาIF ที่มีปัญหา ยังคงไม่เป็นมาตรฐานเดียวกันในแต่ละหน่วยงาน
การที่กระทรวงอุตสาหกรรมถอนอายัด มันจึงหมือน
เป็นการปล่อยผี ให้เหล็กเหล่านี้ ให้กลับมามั่วอยู่ในตลาดอีก
หรือไม่ ? … นี่คือคำถามตัวโตๆ เลย ที่หลายคนกังวล…
ความสับสนของปัญหาเหล็กเตา IF ในประเทศไทยนั้น
มีมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลลุงโน่น
ให้เล่าสั้นๆ ก็คือ เหล็กพวกนี้ซึ่งส่วนมากคือเหล็กจีน
ที่หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวในจีนหลายปีก่อน
ทางจีนก็ประกาศยกเลิกเตาประเภทนี้
และห้ามขายเหล็กจากเตาประเภทนี้ทั้งหมด
ส่งผลให้เหล็กค้างสต๊อกจำนวนมหาศาลในจีน
ทะลักออกมาจากจีนสู่โลก โดยเฉพาะรอบๆจีน
เป็นจำนวนมาก ซึ่งก็รวมถึงที่ไทย
ตอนนั้น ในไทยก็มีการเรียกร้องจากบรรดาผู้ผลิตไทย
ซึ่งส่วนมากใช้เตาแบบใหม่ ( EAF) ให้ห้ามขายเหล็กพวกนี้
ตามมาตรฐานสากลไปด้วย เพื่อป้องกันเหล็กด้อยคุณภาพ
จากจีนจะเข้ามาถล่มตลาด ด้วยราคาถูกแสนถูก
ก็ไม่รู้เหตุผลอะไรของลุงแกในตอนนั้น ถึงไม่ยกเลิก
แต่กลับออกกฎหมายแค่ว่า ให้ขายเหล็กพวกนี้ต่อไปได้
จนกว่าจะหมด และยังผ่อนผันให้ทำได้ในไทยบางส่วน
ไปอีกช่วงหนึ่ง
โดยอ้างว่า เพื่อผู้ผลิตที่มีแต่เตาแบบนี้ จะได้ไม่เสียหาย
ความลักลั่นของกฎหมาย ที่มีช่องว่างแบบนี้นี่เอง
ทำให้เกิดมีทุนจีนจำนวนมาก หนีเข้ามาตั้งฐานการผลิตในไทย
เพื่อมั่วเอาเหล็กค้างสต๊อกจีนเข้ามาในตอนนั้น
ก่อนที่จะนำเอาเตา IF เข้ามามั่ว ก่อนกฎหมายมีผลบังคับใช้
ผลิตต่อเนื่องมา จนมีปัญหาในปัจจุบันนั่นเอง ….
นี่คือที่มาเบื้องต้นของปัญหาทั้งหมด ซึ่งผมเคยเขียนไปแล้ว
ขอนำมาย่อให้สั้นๆ เพื่อความเข้าใจ ก่อนไปกันต่อกับปัจจุบัน…
เนื่องจากเหล็กเหล่านี้ ไม่ได้ผิดกฎหมายหากจะใช้ในประเทศไทย และการตรวจสอบนั้นเดิมก็ไม่ค่อยเข้มเท่าไหร่
มันจึงมักถูกปะปนอยู่ในตลาดเป็นจำนวนมาก
และนั่นก็สร้างปัญหามาตลอด ให้บรรดาคนทำงานด้านนี้
มันอาจไม่ใช่ปัญหาในลักษณะ ที่คนทั่วไปจะทราบได้
แต่เป็นปัญหาที่ทราบดี ในหมู่คนทำงาน
เนื่องจากเหล็กพวกนี้ หากต้องดัดเหล็กปลอกแบบ
135 องศา มันมักมีปัญหาการเปราะหักอยู่เป็นประจำ
ซึ่งการผูกเหล็กลักษณะนี้ มักพบได้บ่อยกับอาคาร
สมัยใหม่ ที่มีมีโครงสร้างเล็ก แต่ span นั้นยาว
ไม่ใช่บ้านพักอาศัยทั่วไป คนทั่วไปจึงมักไม่ทราบไปด้วย
และบ่อยครั้ง มันถูกมั่วไปกับเหล็กมาตรฐานสูง
ในกรณีของโครงสร้างสำเร็จรูปแบบต่างๆ
ซึ่งผู้ใช้งาน และเจ้าของอาคาร แทบไม่มีทางรู้
หรือตรวจสอบได้เลย
ความจริงแล้ว คนทำงานรับเหมาส่วนมาก
ก็พยายามเลี่ยงเหล็กเหล่านี้อยู่แล้ว เนื่องจาก
ราคาที่ถูกนั้น ไม่คุ้มกับความเสี่ยง และเสียเวลาแก้ไข
(ดัดหัก ดัดหัก หรือต้องคัดแยก มันเสียเวลามาก)
แต่ก็เพราะมันมั่วปนกันอยู่ โดยเฉพาะในร้านของรายย่อย
ตามต่างจังหวัด การเลี่ยงมันจึงแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่เจอ
เพราะการคัดจากเหล็กหลายพันเส้นหมด ย่อมเป็นไปไม่ได้
ในช่วงหลังการอายัดและประกาศถึงความด้อยมาตรฐาน
ที่ผ่านมาของทีมสุดซอยของคุณ ขิง เอกณัฎ จึงเป็นเวลาแห่งความสุขสงบ อย่างมากของวงการก่อสร้าง
หน่วยงานรัฐหลายหน่วย ก็ประกาศห้ามใช้ไปแล้ว
เช่น ในกรณีของ กทม. และงานของกรมโยธาธิการบางประเภท
แต่ก็น่าสังเกตว่า บางหน่วยงาน ก็ยังให้ใช้ได้อยู่เช่นกัน
นั่นทำให้เกิดความสับสนอย่างมาก ว่าตกลงจะให้ใช้
ระเบียบปฏิบัติไหนกันแน่ ในการทำงาน เมื่อมันถูกปล่อยผี
กลับมาสู่ตลาดแบบนี้
เช่น กทม. , กรมโยธาฯ มีระเบียบห้าม
แต่ทาง วสท. ยังไม่ประกาศห้ามออกมาด้วย
วิศวกรเองก็สับสน ที่จะดำเนินการ
ซึ่งลักษณะนี้ อาจทำให้การคำนวณเกิดการคลาดเคลื่อนได้
และในส่วนของสถาปนิก ซึ่งต้องดูแลภาพรวมของงาน
ก็ไม่รู้ว่าจะต้องควบคุมให้เป็นไปตามมาตรฐานใดกันแน่
และมันส่งผลไปถึงการคิดราคาของตัวงานอีกด้วย
มันอาจทำให้งานราคาถูก แต่มีอันตรายจากเหล็กเหล่านี้
ผุดขึ้นมาอีกมากได้
ซึ่งทุกคนก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าทำไมเมื่อการตัดเหล็ก
พวกนี้ออกไปได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว
ถึงได้ถูกกลับลำจากหน่วยงานรัฐเอง
จนมันวุ่นวายไปหมด….
…วุ่นไม่วุ่นละ ก็ลองคิดดูนะครับ…
…เพราะเรื่องเหล็กพวกนี้นี้ และกรณีตึก สตง. นี่แหละ
ที่ทำให้ใน วสท. เองตอนนี้ ก็มีคดีฟ้องกันเองเละเทะไปหมด
ทั้งบุคคลฟ้องกันเอง กรรมการฟ้องสมาชิก ไปจนถึง
ตัวนิติบุคคล วสท. ฟ้องสมาชิกโน่นเลย มันไม่เคยมีมาก่อน
…ลองไปหาดูข่าวกันเองได้ครับ นี่คืออะไรที่เละเทะที่สุด
ของสมาคมวิชาชีพแล้ว ในรอบหลายปีที่ผ่านมา….
เรื่องนี้ มันแปลก และมีการตั้งขัอสงสัยกันมากมาย
ทั้งช่วงเวลา ของการปลดอายัด หลังนายเอกนัฎพ้นตำแหน่ง
เพียงสามวัน (12 กันยายน คุณขิงออก 15 ก็ปลดอายัด)
ในขณะที่รัฐมนตรีใหม่เด็กลุงแท้ๆ อ้างว่าไม่เกี่ยวกับเขา
เนื่องจากเข้ามารับตำแหน่งวันที่ 19 กันยายน
และเมื่อเป็นแบบนี้ ก็เท่ากับเป็นการเปิดช่องให้ทาง
ซินเคอหยวน ดำเนินการฟ้องร้องคุณเอกนัฎ และ BOI
ไทย สามพันล้านบาท มีน้ำหนักมากขึ้น
…คือ มันดูสลับซับซ้อนซ่อนเงื่อนเสียเหลือเกิน…
…ในขณะที่การตรวจพบเหล็กด้อยคุณภาพของ SKY
ในการถล่มของตึก สตง. จนป่านนี้ก็ยังไม่มีบทสรุปออกมา
ว่ามันเป็นเหล็กจากส่วนไหน อย่างไร ส่งผลแค่ไหนกับโครงสร้างหรือไม่ ทั้งที่ความจริง มันไม่น่ายาวนานขนาดนี้
…และยังอีกหลายโครงการ ที่มีการพบเหล็กเจ้าปัญหา
เหล่านี้ เข้าไปมีส่วนพัวพันกับปัญหา โดยเฉพาะงานภาครัฐ
ที่มีเป็นจำนวนมาก และยังไม่มีบทสรุปชัดเจนเสียที…
มันจึงไม่ผิดหรอก ที่ใครๆ จะตั้งข้อสังเกตุ สงสัยกับเรื่องนี้
…เพราะใครๆก็รู้ว่า ซินเคอหยวนเป็นใคร มาจากไหน…
…และรู้ดีว่า เขาอาจใหญ่เกินกว่ารัฐไทยจะแตะต้องได้…
…มันก็เลยต้องลงเอยแบบนี้ ใช่หรือไม่?….
ความน่าห่วงที่สุดของเรื่องนี้ คือความเสี่ยงของชีวิต
ประชาชน ที่จะต้องมีเหล็กเหล่านี้ปนอยู่ในตลาด
ไม่มีใครรู้ ว่าจะมีเหล็กเหล่านี้ปะปนอยู่กับคานหนักหลายสิบตัน
เหนือศรีษะ และใต้เท้าของเราบ้างหรือไม่ หรือแค่ไหน
และความน่าเชื่อถือของ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมของไทยเราล่ะ มันจะเหลือเหรอ ?
ต้นปีพูดอย่าง ปลายปีพอรัฐมนตรีเปลี่ยน ก็สรุปอีกอย่าง
แบบนี้มันจะน่าเชื่อถือได้อย่างไร…
ใช่แล้ว …ก็ไม่น่าเชื่อถือน่ะสิ
แล้วจำได้ไหม ว่าซินเคอหยวน เคยพูดว่าอย่างไร
ในการตรวจสอบของไทย หลังตึก สตง. ถล่ม
…ตอนนั้นเขาบอกว่า ไม่เชื่อในมาตรฐานตรวจสอบของเรา !…
…เฮ้ย แบบนี้มันบังเอิญ หรือเข้าทางเขาเกินไปไหมอ่ะ….
และในทางกฎหมายแล้ว มันก็แสดงว่าภาครัฐไทย
ไปสร้างความเสียหายให้เขา เนื่องจากการตรวจสอบเรา
มีความผิดพลาด จนทางบริษัทเขาต้องเสียยอดขาย
แบบนึ้การจะได้ 3 พันล้านเข้ากระเป๋าคืน ก็ง่ายมากขึ้นแน่ๆ
…มันเหมือนรัฐไทยเสียค่าโง่ไหมอ่ะนั่น…
…แล้วไอ้เรื่องตึก สตง. อะไร ก็คงจะเงียบไปด้วย …
อ้าว ! ก็เหล็กฉันมาตรฐานอ่ะ พวกแกก็บอกเอง
ปลดอายัดของฉันมาเนี่ย เพราะพวกแกด้อย ตรวจผิดเอง…
…ก็คิดเอาเองแล้วกันครับ ว่าเขากลับมาแบบเท่ๆแค่ไหน….
…มันกลับมาแล้ว กลับมาแบบโคตรยิ่งใหญ่เลยแหละ…
…นี่มันมณฑลไท่กว๋อหรือไงก็ไม่ทราบได้ล่ะนะ…เฮ้อ….
แล้วนี่….ต้องให้คนงานกลับมานั่งคัดแยกเหล็กอีกแล้วเหรอ
เพิ่งจะสบายกันได้ไม่กี่เดือน ก็เอาอีกแล้ว
โคตรเสียเวลาเลย เพราะไม่ใช่แบรนด์ไทยเจ้าใหญ่
จะมีของตลอด โดยเฉพาะเวลาซื้อเติม หรือล็อตย่อยๆ
ส่วนมากก็ต้องจากผู้ขายรายย่อย ที่มักเจอเหล็กพวกนี้
งานรัฐตามต่างจังหวัด ที่น่ากลัวคือพวกโรงเรียนมัธยม
เพราะแบบอาคารมาตรฐานของกรมสามัญ ฯ
มักเป็นอาคารสี่ชั้น span ยาวพอสมควร และมีส่วนยื่น
ค่อนข้างยาว(พวกกันสาดซีเมนต์หล่อ เป็นคานยื่น)
อันนี้คุณภาพเหล็ก จะค่อนข้างน่าห่วงมากเหมือนกัน
โดยเฉพาะ หากเวลามันผ่านไปสักพักแล้ว
ก็ลูกหลานเรานั่นแหละ ที่จะต้องเสี่ยงกับระเบิดเวลาพวกนี้
…เพียงเพราะกฎหมายโง่ๆ ที่บางคนเปิดช่องไว้หลายปีก่อน…
…ซึ่งจะเพราะอะไรก็ไม่รู้ล่ะนะ แต่คงไม่ใช่เพื่อคนไทยแน่…
ผมพูดจริงๆนะ ถ้าไอ้บริษัทพวกนี้ มันจะฟัอง
แล้วยังไงรัฐไทยก็ต้องจ่ายมันสามพันล้านเพราะแพ้คดี
…ก็สู้จ่ายให้มันไปเลย แล้วเลิกขายของมันดีกว่า…
…มันก็น่าจะดีกว่าคนไทยทุกคนน่ะนะ…
แล้วถ้าแบนเหล็กจีนได้นี่
ผมว่าผู้ประกอบการไทยนี่กราบเลยแหละ….
1
…เพราะมันไม่เคยมีประโยชน์ สร้างแต่ปัญหามาหลายปีแล้ว…
…ให้มันไปสามพันล้านแล้วจบๆ มันดีกว่าจริงๆนะ…
แล้วไปตามไล่เบี้ย สาปแช่งเอากับไอ้คนทำเรื่องไว้หลายปีก่อน
…ไอ้คนที่ชอบพูด “ก็ใครทำไว้ล่ะ !” …ไอ้คนนั้นแหละ….😑
ภาพหัวโพสต์ต้นฉบับ : FB เจาะลึกทั่วไทย
โฆษณา