เมื่อวาน เวลา 14:50 • อสังหาริมทรัพย์

ขายบ้านด้วยภาพ 3D ควรทำอย่างไรให้ดูน่าเชื่อถือ

1) ภาพ 3D ที่ดีเป็นอย่างไร ทุกท่านต้องรสนิยมถึงก่อน อย่าคิดเข้าข้างตัวเองว่า คนออกแบบบ้าน render ภาพให้มายังไงก็คืออย่างนั้นสวยนะคะ
#จำไว้ว่าถ้าเข้าข้างตัวเองมากเกินไปจะได้ขายให้ตัวเอง ให้ไปดูแบรนด์มหาชน ว่าภาพเขาเป็นอย่างไร ไม่ต้องถึงกับว่าจ้างแพงแบบเขา แต่ให้มีรูป Reference ตัวอย่าง เพื่อที่คนออกแบบบ้านจะได้ Render ภาพได้ถูกต้อง เพราะแค่มองดูก็จะรู้เลยว่าทำจากโปรแกรมอะไรค่ะ ภาพสวยก็หมายถึงความเป็นมืออาชีพ ดูภาพลักษณ์ดี ที่สำคัญนำไปออกแบบ artwork ได้ง่าย กราฟฟิกจะชอบมาก บางโครงการใช้รูปถ่ายหรือรูป 3D ที่ยังไม่renderด้วยซ้ำ ทำให้ภาพลักษณ์ออกมาดูไม่สวยงามมากๆค่ะ เต็มที่ก็ขายบ้านได้ราคาไม่เกิน 2.5 ล้านบาทค่ะ
2 ) ราคาต้องนิ่ง บวกกับโปรโมชั่นที่จูงใจ #ว่าซื้อตอนที่เป็นกระดาษกับซื้อตอนที่โครงการทำเสร็จแล้ว มันต่างกันยังไง ถ้าตอบไม่ได้ ตรงนี้ลูกค้าก็ไม่รู้สึกคุ้มค่ากับความเสี่ยงที่จะต้องจองก่อนค่ะ คำว่าราคานิ่ง ไม่ได้แปลว่ายืดหยุ่นไม่ได้นะคะ ยืดหยุ่น(ภายใน)แต่ราคาเริ่มต้นที่แจ้งขึ้นป้ายหรือยิงแอดต้องนิ่ง ย้ำอีกครั้งว่าราคาเปิดพรีเซลตอนที่เป็นกระดาษต้องคุ้มค่ากว่านะคะ หรือไม่ก็ของแถมคุ้มกว่า
ลูกค้าที่จองตั้งแต่เปิดพรีเซลต้องประคบประหงมให้มากๆ ถ้าคุณไม่ใส่ใจกับเรื่องโปรโมชั่น แล้วตอนที่เปิดขายแบบที่สร้างเสร็จ แล้วผลปรากฏว่าลูกค้าที่มาจองทีหลังก็ได้โปรโมชั่นเท่ากัน #ลูกค้าโกรธนะคะ แล้วยิ่งถ้าสร้างจริงไม่เหมือนกับในกระดาษ เตรียมตัวขายใหม่เลยค่ะ #ลูกค้ายกเลิกแน่นอน
3) บ้านที่ลูกค้าดูฮวงจุ้ย อย่าไปสร้างผิดแบบ ให้ฝ่ายขายมาร์คไว้เลย ว่าลูกค้าคนไหนมีความแรงระดับไหน จริงจังระดับไหน อาจจะแบ่งเป็นสีแดง สีส้ม สีเหลือง ก็ได้ค่ะ
4) เมื่อภาพสวย ราคานิ่ง โปรโมชั่นชัดเจน ก็มาดูเรื่องอุปกรณ์การขาย และ ภาพลักษณ์คนขาย ตรงนี้แนะนำให้ดู Agent หรือพนักงานขายดีๆนะคะ ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ถ้าโพสต์ด่า โครงการหรือลูกค้าทุกวันแบบนี้ก็ไม่เอาค่ะ อุปกรณ์การขาย ไม่ว่าจะเป็นผังโครงการทำให้ดูพรีเมี่ยม เอกสารการเสนอราคา การจอง พิมพ์ไว้ให้เรียบร้อย ระบุให้ชัดเจนใช้ถึงวันที่เท่าไหร่ในส่วนของโปรโมชั่นนี้ ไม่เช่นนั้นจะมั่วกันไปหมดเลยนะคะ
อุปกรณ์เสนอเซ็นสวยๆ แฟ้มแบบบ้าน Story โครงการ วิสัยทัศน์องค์กรหรือผู้บริหารใส่ลงในแฟ้มให้หมด การแต่งกายเวลานัดเจอกับลูกค้า อย่างน้อยควรกำหนด Theme เช่น เสื้อสีขาวแขนยาว กางเกงหรือกระโปรงแล้วแต่สะดวก รองเท้าหุ้มส้น มีป้ายหรือเข็มกลัดบริษัท กระเป๋าใส่เอกสารที่ดูดีหน่อย ไม่ใช่ถุงพลาสติกเซเว่น เป็นต้น
5)ภาพลักษณ์โครงการ อย่างน้อยถ้าไม่ได้ถมดินก็ เคลียร์หน้าดินให้เรียบร้อย ช่วงนี้ฤดูฝน ต้นไม้ขึ้นเร็ว อย่าทำแค่เฉพาะในบริเวณโครงการ ทางไปก็สำคัญนะคะ ลูกค้าบางคนเขาซื้อให้ลูกสาวอยู่ ลองคิดดูระหว่างทางไปมืดและต้นไม้รก เขาจะจองหรือเปล่า ตอนกลางคืนมืดหรือเปล่า เจ้าของโครงการต้องเคยขับรถไปดูโครงการตนเองตอนกลางคืนนะคะ คุณต้องมองในมุมมองสายตาลูกค้าที่จะเข้าอยู่อาศัยจริงๆ เมื่อเคลียริ่งหน้าดินเรียบร้อยให้ขึ้นป้าย ป้ายแนะนำให้ลงทุนโครงเหล็กไปเลย ไม่ใช่ไม้ยูคาลมฝนพัดมาก็ย้วยลงหรือเหาะไปทั้งโครงนะคะ
6)เมื่อเตรียมเสร็จทั้ง 5 ข้อแล้ว ให้มาเตรียมข้อมูลสำหรับตอบคำถามของผู้ขายที่จะต้องตอบลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการตอบแชท การโทรคุย หรือนัดเจอกับลูกค้า แน่นอนว่าก่อนทำโครงการคุณต้องมี Concept โครงการ จุดดีจุดด้อยซึ่งเจ้าของโครงการต้องเขียนออกมาก่อน แล้วมาคิดคำที่เป็นภาษาสละสลวยไว้ตอบลูกค้าให้กับผู้ขาย
ในขณะเดียวกันก็ให้ผู้ขายเขียนจุดเด่นของโครงการและบ้านแต่ละแบบ อย่างน้อยๆ 20 ข้อ ข้อดีของการจองก่อนอย่างน้อย 20 ข้อ แล้วฝึก Present ร่วมกับการเปิดแฟ้มให้ลูกค้าดู ในส่วนของการตอบแชทออนไลน์ ต้องพิมพ์คำตอบไว้แล้วซอยย่อย ให้เสมือนกับว่าเป็นการสนทนาพิมพ์ใหม่ ถ้ายังไม่ชำนาญไม่แนะนำให้ใช้บอท AI นะคะ #จะขายกระดาษ #คนอยากคุยกับคนค่ะ โดยเฉพาะโครงการเปิดใหม่ที่ไม่มีผลงานเก่าให้ลูกค้าไปดูค่ะ
7)ติดป้ายประชาสัมพันธ์ ถ้ามีให้สแกนคิวอาร์โค้ดยิ่งดี เพื่อลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษพร้อมกับการยิงแอด จากนั้น ให้มาดูข้อมูลลงทะเบียนว่ามีลูกค้าลงทะเบียนมาประมาณเท่าไหร่ แล้วให้โทรไปให้คำปรึกษาลูกค้าในเรื่องสินเชื่อและข้อมูลโครงการ แนะนำสินค้าที่เหมาะสม จูงใจมาที่โครงการเพื่อดูทำเลล็อคแปลงสวย
ทั้งนี้ การให้คำปรึกษาดังกล่าว จะช่วยแยกแยะระหว่างลูกค้าที่มีศักยภาพและไม่มีศักยภาพ หรือแม้กระทั่งเซอร์เวย์โครงการจากคู่แข่ง ซึ่งขั้นตอนการโทรไปให้คำปรึกษาลูกค้า ผู้ขายจะต้องหัดวิเคราะห์สินเชื่อก่อนนะคะ ว่าบ้านของตัวเองราคาเท่าไหร่ ลูกค้ารายได้เท่าไหร่จึงจะสามารถซื้อได้ ผ่อนชำระประมาณเท่าไหร่ จะช่วยลูกค้าให้ผ่านยังไง (สำหรับมือใหม่ แนะนำเข้าไปเรียนคอร์สสินเชื่อฟรีของครูทรายก่อนค่ะ ทักที่ LINE ได้เลย)
8 ) เมื่อเราประชาสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยสื่อสิ่งพิมพ์หรือการยิงแอด ถ้ามีลูกค้าลงทะเบียนเข้ามาเยอะแปลว่าแบบบ้านเรามาถูกทางและจำนวนปลามีเยอะ ถ้าโทรไปแล้วลูกค้าเข้ามาเยี่ยมชมโครงการน้อย แปลว่า มีปัญหาในเทคนิคการคุยและการส่งข้อมูลให้ลูกค้าค่ะ ต้องฝึกผู้ขายใหม่ แล้วถ้าส่วนใหญ่ลูกค้าที่สัมภาษณ์ไม่ค่อยมีศักยภาพ ต้องดูที่ Content ที่สื่อออกไป และกลุ่มลูกค้าในการยิงแอดค่ะ
9) ระวัง mindset ของผู้ขายดีๆ ถ้าเตรียมทั้ง 8 ข้อที่ครูทรายบอกแล้วขายไม่ได้ต้องดูความเชื่อของผู้ขายนะคะ หลายโครงการเลยที่เคยเป็นที่ปรึกษาให้ พนักงานขายบอกว่าไม่รู้จะขายยังไง คือถ้าคิดแบบนี้ต้องอธิบายให้เขาเข้าใจงานผู้รับเหมาค่ะ ผู้รับเหมาก็แทบจะไม่ต้องมีผลงานเรียกว่าขายกระดาษเหมือนกัน ทั้งที่ไม่มีที่ดินให้ปลูกบ้านตัวอย่าง ลูกค้าจ้างไปปลูกบ้านที่ที่ดินของตนเอง เขาก็ยังขายงานได้ประมาณนี้ค่ะ
.
🌲🏘️🏘️🌲
(っ◔◡◔)っ♥
𝓢𝓪𝓷𝓭𝔂 𝓢𝓾𝓹𝓲𝓽𝓬𝓱𝓪
.
#SandySupitcha
#ที่ปรึกษาโครงการบ้านจัดสรร
#ครูทรายสอนเข้าจัดสรร
#สอนจัดตั้งนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร
#ครูทรายสอนสร้างพนักงานขาย
#สอนเจ้าของโครงการให้ขายบ้านเอง
#แหล่งเงินทุนโครงการบ้านจัดสรร
#ที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการบ้านจัดสรร
โฆษณา