26 ต.ค. เวลา 15:53 • ความคิดเห็น
มันยากลำบากจริงๆนะ
ในการยอมปล่อยมือ
จากสิ่งอันเป็นที่รักยิ่ง
นั้นไม่ใช่การเลือกข้าง
ระหว่าง "ความคิด"
หรือ "การกระทำ"
แต่มันลึกซึ้งมากสำหรับ
กระทู้ปราบเซียนที่ให้คน
อ่อนด้อยปรัชญาอย่างPata
คิดตอบ
คือว่าง่ายๆมันรวมเอาทั้ง
สองมิติเข้าไว้ด้วยกันลึกซึ้ง
มันยากที่จะตอบให้โดนใจ
กินใจที่สุดมั้งสองมิตินั่น
ในชั้นของ"ความคิด" นั้น
เราต่อสู้กับพันธนาการ
ของอัตตาซึ่งผูกมัดความสุข
และความสมบูรณ์ของตนเอง
ไว้กับสิ่งที่เราเรียกเป็น 'ของฉัน'
ความยากอยู่ที่การเปลี่ยน
ผ่านจากความรักแบบ
ปรารถนาการครอบครอง
ไปสู่ความรักแบบปรารถนา
ดีโดยไม่หวังผลตอบแทน
ไม่อยากถูกความงดงาม
ป้ายยาว่าการทำใจยอมรับ
คือ 'ความกล้าหาญทางปัญญา'
ที่จะตระหนักว่า การปล่อยมือไม่ใช่การยุติความรัก
แต่ยกระดับความรักให้
บริสุทธิ์ยิ่งด้วยการอนุญาต
ให้อิสระแก่ผู้ที่รักให้เขา
ได้เป็นไปตามครรลอง
ของเขา
แม้ว่าเส้นทางนั้นจะไม่มีเรา
อยู่ด้วยก็ตามนี่คือการยอม
รับว่าความรักที่แท้จริงไม่จำ
ต้องคู่ไปกับการเป็นเจ้าของ
แต่แม้ว่าจิตใจจะยอมรับ
ความจริงนี้แล้วความยาก
ลำบากรุนแรงและกินใจที่สุด
ก็มาถึงในตอนที่กำลังจะต้อง“ปล่อย"นี่ละคือช่วง
เวลาแห่ง“การฉีกขาดทาง
จิตวิญญาณ”
คิดดูเต๊อะความรู้สึกและ
ความผูกพันทั้งหมดที่เคย
ใช้วันเวลาร่วมกันถักทอ
ไว้ถูกดึงออกอย่างเฉียบพลัน
ความเจ็บปวดในขณะนี้นั้น
ไม่ใช่เรื่องเหตุผลอีกต่อไป
แต่มันคือแรงต้านของสัญชาตญาณความผูกพัน
ที่ไม่ต้องการสูญเสีย
ความยากที่แท้จริงจึงอยู่
ที่ในห้วงเวลาที่ร่างกาย
และจิตใจกำลังกรีดร้อง
ปฏิเสธการสูญเสีย'
การปล่อยมือในขณะที่
ยังรักอย่างสุดหัวใจจึง
เป็นทั้งบทพิสูจน์ให้เห็น
ถึงความกล้าหาญใน
การเผชิญหน้าความจริง
และเป็นการเสียสละที่
ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ความรัก
แบบไม่เรียกร้องอันใด
เราเลือกที่จะเจ็บปวด
แทนคนที่เรารักหวังดี
ห่วงใยอย่างที่สุด
กระมังน้อ!
แค่คิดก่ะทำใจบะได้
แล้วละน้อ
โฆษณา