3 ชั่วโมงที่แล้ว • ข่าว

อย.เผยผลตรวจ "ยาดมหงส์ไทยสูตร 2" เจอจุลินทรีย์ปนเปื้อน

หมอปอดเตือน 3 ข้อรับเชื้อจุลินทรีย์ผ่านยาดม
เมื่อวันที่ 28 ต.ค. นายวิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการ ปฏิบัติราชการแทน เลขาธิการคณะกรรรมการอาหารและยา (อย.) ลงนามในประกาศ อย. วันที่ 20 ต.ค. 2568 เรื่อง ผลการตรวจสอบผลิตภัณฑ์สมุนไพร ยาดมผสมสมุนไพร ตราหงส์ไทย สูตร 2 เลขทะเบียนที่ G 309/62
เก็บตัวอย่างจากสถานที่ผลิตผลิตภัณฑ์สุนไพร หงส์ไทยพาณิชย์ รุ่นการผลิต : 000332 วันที่ผลิต : 09/12/2024 วันที่สิ้นอายุ : 08/12/2027 ส่งตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
พบเป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพรผิดมาตรฐานในรายการทศสอบการปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์ Total Aerobic Microbial Count,Total Combined Yeasts and Mould Count และ Clostridium spp. ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง เกณฑ์มาตรฐาน ค่าความบริสุทธิ์ หรือคุณลักษณะอื่นอันมีความสำคัญต่อคุณภาพ
ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพรผิดมาตรฐานตามมาตรา 60 (2) โดยผู้ใดผลิตผลิตภัณฑ์สมุนไพรผิดมาตรฐาน อันเป็นการผ้าฝืนมาตรา 58 (2) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท ตามมาตรา 103
และผู้ใดชายผลิตภัณฑ์สมุนไพรผิดมาตรฐานอันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 58 (2) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 104 แห่งพ.ร.บ.ผลิตภัณฑ์สมุนไพร พ.ศ.2562
ขอให้ประชาชนระมัดระวังในการซื้อหรือบริโภคผลิตภัณฑ์สมุนไพรดังกล่าว
ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาอยู่ระหว่างพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำความผิดต่ดต่อไป
เตือน 3 ข้อรับเชื้อจุลินทรีย์ผ่านยาดม
ด้าน รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงกรณียาดมสมุนไพรยี่ห้อดังพบการปนเปื้อนสารจุลินทรีย์ จะมีผลกระทบกับร่างกายอย่างไร ว่า เรื่องนี้ต้องแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ
1. ปริมาณที่ได้รับเข้าสู่ร่างกายมากน้อยแค่ไหน
เพราะปกติคนเราหายใจก็มีการเอาเชื้อโรคเข้าไปทุกเมื่อเชื่อวันอยู่แล้ว ดังนั้นถ้าปริมาณเชื้อโรคไม่เยอะ และร่างกายคนเราปกติดี ภูมิคุ้มกันโรคดี ก็สามารถกำจัดเชื้อได้ ไม่ก่อโรคอะไร
2. หากรับชื้อเข้าสู่ร่างกายเยอะ แล้วยังมีร่างกายไม่แข็งแรง เช่น ป่วยเบาหวาน เป็นโรคไตเรื้อรัง คนกินยากดภูมิ เมื่อรับเชื้อเยอะก็อาจจะทำให้หลอดลมอักเสบ หรือปอดอักเสบได้
3. เชื้อไม่เยอะ แต่หากคนที่รับเชื้อร่างกายไม่แข็งแรง ภูมิคุ้มกันโรคต่ำมาก ๆ เช่น ผู้ติดเชื้อเอชไอวี คนเปลี่ยนถ่าย ปลูกถ่ายอวัยวะมา หรือ เป็นมะเร็งต้องให้เคมีบำบัดที่ได้ยากดภูมิฯ เยอะ ต่อให้รับเชื้อเข้าไปไม่เยอะก็อาจจะเป็นอันตรายได้
เมื่อถามว่า คนไทยมีพฤติกรรมสูดดมยาดมตลอดเวลา ถือว่ามีความเสี่ยงได้รับผลกระทบจากเชื้อจุลินทรีย์ระดับใด รศ.นพ.นิธิพัฒน์ กล่าวว่า กรณีเช่นนี้ก็จะเพิ่มโอกาสรับเชื้อ ถ้าร่างกายแข็งแรงดี สูดครั้งหนึ่ง ไม่ได้สูดหนักๆ ติดกันหลายครั้ง เช่น 1 ชั่วโมงสูดดมไม่แรง ครั้ง สองครั้งก็ไม่มีความเสี่ยง ซึ่งก็ต้องไปดูองค์ประกอบ 3 ข้อที่ว่านั้น
แต่โดยธรรมชาติ ยาดม ยาหม่องจะมีฤทธิ์ยับยั้งการเติบโตของเชื้อโรคอยู่แล้ว จะเกิดก็ต่อเมื่อมีการเก็บรักษาไม่ดีทำให้มีการปนเปื้อน จมูกสกปรก สูดดมแล้วเอาฝาปิดเลย เชื้อโรคก็คาอยู่อย่างนั้น
เมื่อถามต่อว่า ถ้ามีการใช้ผลิตภัณฑ์มาเป็นเวลานาน แล้วมีความกังวลจะสามารถสังเกตตัวอย่างไรได้บ้าง รศ.นพ.นิธิพัฒน์ กล่าวว่า เบื้องต้นต้องมีการสังเกตตัวเองว่า จมูกเราสกปรกหรือไม่ เมื่อสูดดมยาดมแล้วควรทำความสะอาดแล้วค่อยปิดฝา เมื่อเปิดใช้อีก ก็ควรจะสังเกิดว่ามีสี มีกลิ่นผิดปกติหรือไม่ รอบๆ ผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ไม่ควรใช้ยาดดมค้างปี โดยทั่วไป ยาดมหลังเปิดใช้แล้วก็ไม่ควรใช้เกิน 3 เดือน
“การใช้ยาดม ยาหม่อง เครื่องสูดหอมต่างๆ อันที่หนึ่งคือ ใช้เมื่อเท่าที่จำเป็น เวลาไปพื้นที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวก หรือเวลาคัดจมูกนิดหน่อย อย่าใช้พร่ำเพรื่อ เพราะสารเหล่านี้ถึงแม้ว่าจะไม่มีเชื้อโรคก็ก่อให้เกิดอันตรายได้ สองถ้ายาดมสกปรกก็ไม่ควรใช้ หลังเปิดใช้นานแล้วก็ไม่ควรใช้ต่อ อย่าไปเสียดาย สามถ้าเรามีภูมิคุ้มกันผิดปกติก็ต้องระมัดระวังว่าจะมีการติดเชื้อขึ้นมาได้” รศ.นพ.นิธิพัฒน์ กล่าว
โฆษณา