28 ต.ค. เวลา 13:53 • หนังสือ

แมรี ป๊อปปิ้นส์ Mary Poppins

“แมรี ป๊อปปิ้นส์” เป็นวรรณกรรมเยาวชนคลาสสิกที่เปี่ยมด้วยจินตนาการและอบอวลด้วยความอบอุ่นของครอบครัว ผลงานเรื่องนี้เขียนโดย พี. แอล. ทราเวอร์ส (P. L. Travers) นักเขียนหญิงชาวออสเตรเลีย–อังกฤษ ซึ่งตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1934 เรื่องราวของพี่เลี้ยงเด็กผู้ลึกลับที่มีเวทมนตร์ได้นำพาความมหัศจรรย์และความสุขกลับมาสู่ครอบครัวหนึ่งที่เกือบสูญเสียสายใยแห่งความรัก
เรื่องย่อ
เรื่องราวเกิดขึ้นที่ บ้านเลขที่ 17 ถนนเชอร์รีทรี เลน ในกรุงลอนดอน ครอบครัว “แบงก์ส” ซึ่งประกอบด้วยคุณพ่อ จอร์จ แบงก์ส พนักงานธนาคารผู้เคร่งระเบียบ คุณแม่ วินนิฟรีด แบงก์ส ผู้สนับสนุนสิทธิสตรี และลูกสองคนคือ เจน กับ ไมเคิล รวมถึงน้องแฝดเล็ก ๆ บ้านหลังนี้เคยอบอุ่น แต่เมื่อพ่อหมกมุ่นกับงานและแม่ไม่ค่อยมีเวลา เด็ก ๆ ก็เริ่มซุกซนและดื้อรั้น จนพี่เลี้ยงคนแล้วคนเล่าลาออกไป
ในวันที่ลมแรงพัดกระหน่ำ ครอบครัวกำลังสิ้นหวังกับการหาพี่เลี้ยงใหม่ ทันใดนั้น หญิงสาวผู้หนึ่งโผล่มาพร้อมลมตะวันออก เธอสวมหมวกประดับดอกไม้ เสื้อคลุมเข้ารูป ถือร่มที่มีก้านจับเป็นหัวนกแก้ว และถือกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ที่ดูธรรมดาแต่สามารถหยิบของได้ไม่รู้จบ เธอแนะนำตัวว่า “แมรี ป๊อปปิ้นส์” และขอเข้าทำงานในทันที
ตั้งแต่แมรีเข้ามา เด็ก ๆ ก็รู้ว่าชีวิตของพวกเขาจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เธอมีนิสัยเข้มงวด พูดตรงไปตรงมา แต่กลับมีเสน่ห์และลึกลับอย่างน่าประหลาด แมรีพาเด็ก ๆ ออกเดินทางในโลกที่เหนือจินตนาการ ทั้งการลอยขึ้นไปบนอากาศกับ ลุงอัลเบิร์ต ที่หัวเราะจนลอยได้ การเดินเข้าไปในภาพวาดถนนสายหนึ่งและใช้ชีวิตในนั้นเหมือนของจริง การพูดคุยกับสัตว์ในสวนสาธารณะ หรือแม้แต่การขึ้นไปเยี่ยมชายบนหลังคาที่คอยทำความสะอาดปล่องไฟ
สิ่งที่ทำให้เรื่องราวน่าหลงใหลคือ แมรีไม่เคยยอมรับว่าเธอใช้เวทมนตร์เลยแม้แต่ครั้งเดียว เธอมักพูดว่า “ทุกอย่างเป็นเรื่องธรรมดา” และทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่สิ่งที่เด็ก ๆ พบเจอเต็มไปด้วยความอัศจรรย์
ระหว่างที่เธอดูแลเด็ก ๆ นั้น แมรียังช่วยให้ครอบครัวแบงก์สกลับมาใกล้ชิดกันอีกครั้ง คุณพ่อเริ่มเข้าใจความสำคัญของการอยู่กับลูก ๆ มากกว่าการทำงาน คุณแม่เลิกกังวลเรื่องสังคมและหันมาใส่ใจครอบครัว ส่วนเด็ก ๆ ก็เรียนรู้ที่จะช่วยเหลือผู้อื่น เช่น การซื้ออาหารให้นกพิราบหน้าวิหารเซนต์พอล ซึ่งเป็นหนึ่งในฉากที่อบอุ่นและสื่อถึง “การมองเห็นคุณค่าของสิ่งเล็กน้อยในชีวิต”
เมื่อเวลาผ่านไป ลมที่พาแมรีมาเริ่มเปลี่ยนทิศ เธอรู้ดีว่าหน้าที่ของตนเสร็จสิ้นแล้ว วันหนึ่งแมรี ป๊อปปิ้นส์ก็เก็บของ ใช้ร่มคันเดิมลอยหายไปบนท้องฟ้า ทิ้งไว้เพียงความทรงจำและร่องรอยของเวทมนตร์ที่ไม่มีใครลืม
แง่คิดและคุณค่าของเรื่อง
“แมรี ป๊อปปิ้นส์” เป็นมากกว่านิทานเด็ก เพราะสะท้อนความจริงของชีวิตครอบครัวและจิตใจของผู้ใหญ่ที่เริ่มหลงลืมความฝันในวัยเด็ก เธอเป็นสัญลักษณ์ของ “สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลง” ที่ปลุกให้คนกลับมามองเห็นความสุขในสิ่งเรียบง่าย และตระหนักถึงพลังแห่งความรักและความเข้าใจ
เรื่องนี้ยังสอนให้เห็นว่า เวทมนตร์ที่แท้จริงอาจไม่ใช่การร่ายคาถาหรือบินได้ แต่คือความอ่อนโยนและความเอาใจใส่ที่เรามอบให้แก่กัน
บทสรุป
“แมรี ป๊อปปิ้นส์” คือวรรณกรรมที่งดงามเหนือกาลเวลา ถ่ายทอดด้วยถ้อยคำเรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง ทำให้ผู้อ่านรู้สึกเหมือนได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง เรื่องนี้ไม่เพียงสร้างความสุขให้กับผู้อ่านทั่วโลก แต่ยังเป็นเครื่องเตือนใจว่า ความรัก ความฝัน และจินตนาการ คือเวทมนตร์ที่อยู่ในใจของเราทุกคน
โฆษณา