7 ชั่วโมงที่แล้ว • ข่าวรอบโลก

มาซาโยชิ ซันขึ้นแท่น ‘รวยที่สุดในญี่ปุ่น’ หลังมูลค่าหุ้น AI ทะยานฟ้า

‘มาซาโยชิ ซัน’ แห่ง SoftBank กลับมาผงาดเป็น ‘เศรษฐีอันดับหนึ่ง’ ของญี่ปุ่น ด้วยพลัง AI หลังทุ่มลงทุนมหาศาลใน OpenAI, TSMC และโครงสร้างพื้นฐาน AI ทั่วโลก จนมีมูลค่าทรัพย์สินพุ่งแตะ 1.7 ล้านล้านบาท แซงหน้า ‘ทาดาชิ ยาไน’ เจ้าของ Uniqlo
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า จากผลตอบแทนของหุ้นปัญญาประดิษฐ์อันงดงามที่ “มาซาโยชิ ซัน” (Masayoshi Son) เข้าลงทุน ส่งผลให้ตัวเขามีความมั่งคั่งแซงหน้า “ทาดาชิ ยาไน” มหาเศรษฐีเจ้าของแบรนด์ Uniqlo จนกลายเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในญี่ปุ่น
ในปีนี้ มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของซันเพิ่มขึ้น 248% มาอยู่ที่ 55,100 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1.7 ล้านล้านบาท (ณ วันพุธ) มากกว่าทรัพย์สินของมหาเศรษฐียาไนประมาณ 23 ล้านดอลลาร์
ความมั่งคั่งของซันที่ทะยานขึ้นนี้ มาจากราคาหุ้นของ SoftBank ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว โดยซันถือหุ้นอยู่ประมาณหนึ่งในสามของบริษัท มหาเศรษฐีวัย 68 ปีรายนี้ดูแลพอร์ตการลงทุนเทคโนโลยีระดับโลก ตั้งแต่ผู้ผลิตชิปไปจนถึงสตาร์ทอัพ และได้เริ่มต้นทุ่มเงินลงทุนอย่างหนักในปีนี้ เพื่อวางตำแหน่งบริษัทให้เป็นศูนย์กลางของกระแส AI บูมระดับโลก
ราคาหุ้น SoftBank ปรับตัวขึ้นในวันพุธ หลังบริษัทถูกระบุว่าเป็น หนึ่งในองค์กรที่สนใจเปิดโครงการลงทุนในสหรัฐระหว่างการเยือนโตเกียวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซันได้กลายเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนชาวต่างชาติคนสำคัญของทรัมป์ในแวดวงธุรกิจระดับโลก โดยได้ให้คำมั่นตั้งแต่ต้นปีว่า จะลงทุนในสหรัฐ มูลค่าสูงถึง 100,000 ล้านดอลลาร์
ในข้อตกลงครั้งใหญ่ที่สุดของซันในตอนนี้ บริษัทมีแผนการลงทุนมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์ใน OpenAI และโครงการมูลค่า 500,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างศูนย์ข้อมูล และโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ทั่วสหรัฐ โดยร่วมกับผู้พัฒนา ChatGPT (OpenAI), Oracle Corp. และ กองทุน MGX จากอาบูดาบี
นอกจากนี้ ซันยังมองหาโอกาสร่วมมือกับ Taiwan Semiconductor Manufacturing Co. (TSMC) เพื่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมมูลค่า “ล้านล้านดอลลาร์” ในรัฐแอริโซนา ที่จะเน้นการพัฒนาเทคโนโลยี AI และหุ่นยนต์
ทั้งนี้ กำไรที่เชื่อมโยงกับ OpenAI, Arm Holdings และการลงทุนใน AI รายอื่น ๆ ได้ช่วยหนุนราคาหุ้นของ SoftBank ให้แข็งแกร่งขึ้น โดยหุ้นของบริษัทได้กลายเป็นเหมือน “ตัวแทน” ของกระแสการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ที่กำลังเฟื่องฟู
ดีลใหม่ ๆ ของซันยังรวมถึง
- การลงทุน “สุดเซอร์ไพรส์” 2,000 ล้านดอลลาร์ใน Intel Corp
- การเข้าซื้อธุรกิจหุ่นยนต์ของ ABB มูลค่า 5.4 พันล้านดอลลาร์
- การเพิ่มการลงทุนใน Nvidia และ TSMC อีกด้วย
นักวิเคราะห์จาก Bloomberg Intelligence อย่างเคิร์ก บูดรีมองว่า “ทุกสิ่งที่เกี่ยวกับ AI กำลังพุ่งขึ้น และความเชื่อมโยงของ SoftBank กับ OpenAI ก็เป็นแรงขับสำคัญ โดยเฉพาะเมื่อบริษัทนั้นมีข้อตกลงร่วมกับ Broadcom และ AMD ที่ช่วยหนุนการปรับตัวขึ้นของตลาดโดยรวม”
สำหรับซัน ซึ่งเป็นชาวเกาหลีเชื้อสายญี่ปุ่น เกิดในปี 1957 เริ่มต้นเส้นทางผู้ประกอบการของเขาขณะศึกษาที่สหรัฐ ด้วยการพัฒนา พจนานุกรมอิเล็กทรอนิกส์ ที่ต่อมาเขาได้ขายให้กับบริษัท Sharp ในราคาประมาณ 1 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นดีลที่สร้างชื่อให้กับเขาอย่างมากในเวลานั้น
หลังกลับมาญี่ปุ่น เขาได้ก่อตั้งบริษัท SoftBank ในปี 1981 โดยเริ่มจากการเป็นผู้จัดจำหน่ายซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ ก่อนที่ตลอดกว่า 40 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจจะขยายตัวกลายเป็นกลุ่มบริษัทข้ามอุตสาหกรรม ที่ครอบคลุมทั้งโทรคมนาคม การชำระเงินดิจิทัล และการลงทุนด้านเทคโนโลยี
โฆษณา