วันนี้ เวลา 08:00 • ธุรกิจ

‘Rally Movement’ ลุ้นสิ้นปีแตะ ‘พันล้าน’ กำไรโตหมื่นเปอร์เซ็นต์ภายใน 1 ปี

จาก 16 ล้าน เป็น 400 ล้าน ภายในปี 1 ปี! คุยกับ “ปั๊ม-นิธิศ และ “เค้ก-อภิพรรณ” ผู้ก่อตั้ง “Rally Movement” เริ่มจากร้านมัลติสโตร์ สู่การปั้นแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเอง โตแรงสุดๆ เพราะกระเป๋าทรง Bucket ผลิตเท่าไหร่ขายหมดเท่านั้น ปีหน้าเตรียมออกนอกประเทศครั้งแรก มองเศรษฐกิจไม่ดีแต่คนยังไม่หยุดช้อป เชื่อตลาดเมืองไทยยังไปได้อีก
ท่ามกลางเศรษฐกิจซบเซา ผู้บริโภคคิดแล้วคิดอีกกว่าจะควักเงินในกระเป๋าออกมาจับจ่าย แต่ไม่ใช่กับกระเป๋าจาก “Rally Movement” ที่ผลิตมาเยอะเท่าไหร่ก็ขายหมดเกลี้ยงภายในระยะเวลาไม่ถึง 5 นาที หลายคนไปไม่ถึงหน้าทำจ่ายด้วยซ้ำ ก็ต้องพบว่า สินค้าหมดไปเรียบร้อยแล้ว
นี่คือปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับกระเป๋าจาก “Rally Movement” ทุกทรง ทุกแบบ จนทำให้ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของแบรนด์มากกว่า 50% มาจากการขายกระเป๋า และเชื่อหรือไม่ว่า ผลประกอบการและกำไรสุทธิของแบรนด์ก็เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า รายได้ของ บริษัท แรลลี มูฟเมนต์ จำกัด ปี 2567 อยู่ที่ “459 ล้านบาท” ขณะที่ปีก่อนหน้าอยู่ที่ “16 ล้านบาท”
และในปีนี้ “ปั๊ม-นิธิศ วงศ์สวัสดิ์” และ “เค้ก-อภิพรรณ มงคลพาณิชยกิจ” ยังบอกกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ด้วยว่า เป้าหมายที่คุยกันในทีม คือต้องการโตแบบเท่าตัวจากปีที่แล้ว แต่ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ปีนี้ปิดยอดที่พันล้าน ถ้าทำได้คงเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งตามแผนของปีหน้า “Rally Movement” ตั้งใจพาแบรนด์ไทยชิมลางต่างประเทศเป็นครั้งแรกด้วย
กว่าจะมาเป็น “Rally Movement” เค้กและปั๊มเรียนจบจากคณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทั้งคู่เจอกันตั้งแต่เข้าเรียนชั้นปีที่ 1 “เค้ก” เคยทำแบรนด์เล็กๆ เป็นของตัวเองมาก่อน ชอบงานด้านแฟชั่นตั้งแต่เด็กจึงเลือกเรียนสาขามัณฑนศิลป์ (แฟชั่นดีไซน์) กระทั่งทั้งคู่เรียนจบจึงชักชวนมาทำแบรนด์ ด้วยเม็ดเงินลงทุนคนละ 15,000 บาท
“เค้ก” บอกว่า ทั้งคู่เริ่มจากเล็กๆ เท่าที่มีทุน ลงเงินรวมกันสุทธิ 30,000 บาท ก็ได้สินค้าชิ้นแรกๆ เป็นกางเกงเพียงไม่กี่ตัว แต่การเริ่มจากสเกลเล็กๆ ก็มีข้อดีที่ทำให้เจ้าของโตตามแบรนด์ทัน ธุรกิจขยับขยายไปเรื่อยๆ พร้อมกับการมีแบรนดิ้งที่ชัดเจน โดย “ปั๊ม” เป็นคนออกแบบโลโก้ที่มีหน้าตาแบบนี้มาตั้งแต่วันแรก
ที่ใช้คำว่า “Rally” เพราะมองว่า เป็นชื่อภาษาอังกฤษที่รูปประโยคสวย อ่านง่าย คนเห็นแล้วจำได้ในคราวเดียว นำมาปรับใช้กับแพทเทิร์นได้ มีความ “Catchy” ไม่ซ้ำใคร ด้วยความเป็นนักเรียนศิลปะจึงชอบงานตัวอักษรอยู่แล้ว “ปั๊ม” นำชื่อ “Rally” มาเล่นกับโปรดักต์ตั้งแต่วันแรก ซึ่งมองอีกนัยหนึ่ง คำๆ นี้ก็มีความหมายที่ดีในตัว สื่อถึงการตอบโต้ เคลื่อนไหว ไม่อยู่นิ่ง สอดคล้องกับคาแรกเตอร์แบรนด์
“Rally Movement” เริ่มต้นขึ้นพร้อมๆ “gloc” มัลติแบรนด์สโตร์ที่มีจุดเริ่มต้นในย่านอารีย์ ก่อนจะไปอยู่บนห้างสรรพสินค้าชื่อดังหลายแห่ง ทั้ง “เซ็นทรัลลาดพร้าว” และ “เซ็นทรัลชิดลม” จนมาถึงช่วงที่โรคระบาดใหญ่เกิดขึ้น ห้างต้องปิดให้บริการชั่วคราว พร้อมกันนั้นก็ตัดสินใจปิดกิจการ “gloc” ไปด้วย
เค้กและปั๊มหันมาโฟกัส “Rally Movement” มีไม้ตายเป็น “Knitwear” หรือผ้านิตที่โดดเด่นด้วยเนื้อสัมผัสและลวดลายการถักทอ สินค้าตัวแรกที่ทำให้แบรนด์เริ่มมีชื่อเสียง คือ “ผ้าคาดผม” เสื้อผ้าหลายๆ รุ่นที่กลายเป็นไวรัล อย่างเสื้อยืดคอกลมสกรีนโลโก้ก็เป็นสินค้าขายดีไม่แพ้กัน ธุรกิจไต่ระดับตั้งแต่หลักล้านจนมาถึงหลักสิบล้านเรื่อยมา จนเข้าสู่ปีที่ 7 “เค้ก” คิดอยากทำกระเป๋า เพราะมองว่า อย่างไรผู้หญิงกับกระเป๋าก็เป็นของคู่กัน
1
เธอเริ่มหา “Pain Point” ในตลาดว่า มีช่องว่างตรงไหนที่พอจะแทรกตัวเข้าไปได้บ้าง สุดท้าย “เค้ก” เริ่มจากพื้นฐานที่สุด คือเรื่องฟังก์ชันและเทคโนโลยีการผลิตที่แบรนด์มีในตอนนั้น หลายปีที่ผ่านมาแฟชั่นกระเป๋าใบจิ๋วได้รับความนิยม สวยงามจริงแต่ใส่ของได้ไม่ครบถ้วน จึงคิดว่า ถ้าอย่างนั้นลองทำกระเป๋าที่สวยด้วย จุของได้เยอะด้วยดีกว่าหรือไม่ จึงเป็นที่มาของ “Rally Bucket Bag” รุ่นแรก
“ตอนนั้นไม่มีใครทำกระเป๋าทรงเดียวกับเราเลย ซึ่งจริงๆ Bucket เป็นทรงพื้นฐานที่มีตั้งแต่ยุค ’60-’70 แต่การที่เราหยิบขึ้นมาเพราะอยากได้กระเป๋าที่ไม่มีช่องอะไรเลย เพื่อให้ใส่ของได้เยอะที่สุด ในตลาดไทยตอนนั้นรวมถึง Global แบรนด์ที่กำลังมาแรงมากๆ จะเป็นกระเป๋าไซซ์มินิไปจนถึงไซซ์จิ๋วใส่ได้แค่เหรียญ เราเองก็เป็นหนึ่งในคนที่ใช้ของพวกนั้นเหมือนกัน ก็ทำให้ต้องพกกระเป๋าอีกใบแยกไว้เสมอ เลยรู้สึกว่า ถึงจุดหนึ่งบางวันก็ไม่อยากพกกระเป๋าสองใบ เรารวมได้มั้ยที่ทั้งสวยด้วยแล้วก็ตอบโจทย์ด้วย”
อ่านต่อ:
โฆษณา