ตัวอย่างเช่น Unilever ใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลซัพพลายเชนจากกว่า 190 ประเทศ เพื่อคาดการณ์ความต้องการสินค้าได้ล่วงหน้าหลายสัปดาห์ ขณะที่ Morgan Stanley ใช้ AI สรุปคำแนะนำทางการเงินให้ที่ปรึกษาได้ในไม่กี่วินาทีจากฐานข้อมูลขนาดมหาศาล
สิ่งเหล่านี้สะท้อนว่า AI ไม่ใช่เพียงเทคโนโลยี แต่คือระบบประสาทที่ทำให้ “องค์กรทั้งองค์กรคิดเป็นหนึ่งเดียว” และนี่คือประเด็นที่ Gartner เตือนผู้นำทั่วโลก “ในอีกไม่เกิน 2 ปีข้างหน้า องค์กรจะไม่ได้แข่งขันกันที่ว่าใครใช้ AI ได้เร็วกว่า แต่ที่ว่าใคร ‘เข้าใจ AI’ และ ‘บริหารมันอย่างมีธรรมาภิบาล’ ได้ดีกว่ากัน”
* ลองนึกถึงองค์กรระดับโลกอย่าง Microsoft หรือ Siemens ที่ไม่ได้มองเทคโนโลยีเป็นแค่เครื่องมือ แต่สร้าง “สถาปัตยกรรมเชิงระบบ” ให้ทุกแพลตฟอร์มและทีมทำงานร่วมกัน ตั้งแต่ข้อมูล ความปลอดภัย ไปจนถึงการพัฒนานวัตกรรมแบบข้ามสายงาน นี่คือภาพของ System Architect ตัวจริงที่ออกแบบให้ทุกจุดแข็งต่อยอดกันได้
* ผู้นำยุคใหม่จึงต้องมองภาพรวมให้ครบวงจร ทั้งรากฐาน (The Architect) การเชื่อมโยงเทคโนโลยี (The Synthesist) และการคุ้มครองความไว้วางใจ (The Vanguard) พร้อมกัน เหมือนนักวางระบบเมืองอัจฉริยะที่รู้ว่าการสัญจรต้องสอดคล้องกับพลังงานและความปลอดภัยของพลเมือง
ผู้นำยุคใหม่ต้องเป็นทั้ง The Architect, The Synthesist และ The Vanguard ในคนเดียวกัน เพื่อสร้างองค์กรที่ไม่เพียง “ฉลาดและยืดหยุ่น” แต่ยัง “น่าเชื่อถือและยั่งยืน” ในโลกที่เปลี่ยนทุกวัน