อาทิตย์ยังไม่ดับ แต่ตัวเราดีบไปเสียก่อน.
โลกนี้ ที่จริงแล้วบริสุทธิ์ มีดวงอาทิตย์ ขึ้นแล้วก็ตก มานาน ก็ไม่รู้ว่า จิตนั่นมีต้นกำเนิดมาจากไหน ดินฟ้าอากาศ จึงบันดาล ให้จิต มาอาศัยในรูป ตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ รูปร่างใหญ่โต ก็มีความโหดเหี้ยม กัดกิน ซึ่งกันและกัน เดาๆ ว่าเป็นเพราะจิตนั้นมีความโลภ ดินฟ้าอากาศก็นำพา ไปมีการปรุงแต่ง ร่างกาย เป็นรูปนั้นรูปนี้ ตามจิตที่สะสมบุญกรรมมา ให้จิตนั้นไปอาศัยในรูปต่างๆ มด แมลง กุ้งหอย จนพัฒนารูปดีๆ ให้เกิดขึ้น รูปที่สามารถ รู้จักดีและชั่วได้
..ไม่เหมือนรูปสัตว์ รู้จักดีชั่วไม่ได้ โลกเค้าก็มีรูปที่ดินฟ้าอากาศ สมมุติขึ้นมา ให้จิตนั้นไปอาศัย ปรุงแต่ธาตุดินน้ำลมไฟ ที่มาประกอบเป็นรูป ที่เค้าเรียกว่า สังขารกรรม มีวิญญาณทั้งหก ให้จิตที่ถูกกักขังอยู่ในรูป รับเรื่องราวตาย มีอารมณ์นึกคิดปรุงแต่ง ให้จิตหลงใหล ไปตามสิ่งที่เกิดขึ้นในรูปให้เกิดการยึดถือ อุปโลกน์อะไรต่างๆ แล้วจิตนั้น ก็ทำไปตามอารมณ์นึกคิด โดยมิได้กลั่นกรอง ว่าดีขั่วอย่างไร จะมีอะไรเกิดขึ้นมา กับสิ่งที่ธาตุทั้งสี่ปรุงแต่งอารมณ์นึกคิด มีความโลภโกรธหลง ไหลมาเทมา ในกายที่อาศัย
จิตนั้นก็ทำไปตามใสิ่งไหลมา ..ไหลมาจากบุญกรรมที่ทำมา .เคยสะสมมา เคยชอบใช้จนเป็นนิสัย นะอยู่กับธาตุทั้งสี่มาปรุงแต่ง ประกอบเป็นสังขาร ในคำว่า สัตว์โลก ที่มีรูปให้อาศัยชั่วขณะหนึ่ง มีพระอาทิตย์ขึ้น อาทิตย์ตก วนเวียน เป็นวันเป็นเดือนปี ก็วนเวียน นับวันเดือนปี กี่วันกี่ปีนะ จะหมดเวลา หมดโอกาส มาเห็นดวงอาทิตย์ขึ้นและตกอีก
เมื่อจิตออกจากกาย ดินฟ้าอากาศก็นำธาตุทั้งสี่ ที่เป็นหลักฐาน ไปประกอบในที ต่างๆ ไม่มีกายเหมือนมนุษย์อีก การรับรู้อะไรต่างก็แปรเปลื่วนไป ตามวาระของกรรม ที่ธาตุทั้งสี่ไปประกอบให้ ที่นรก ที่สวรรค์ ที่ขอบๆ ดินฟ้าอากาศก็นำพาไปประกอบให้ ที่นรกบ้าง ที่สวรรค์บ้าง ที่เค้าว่า สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ด้วยบุญบาแที่ทำมา
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
