3 พ.ย. เวลา 02:07 • ธุรกิจ

🎭 ทำไมเดี๋ยวนี้ “เวทีโชว์นวัตกรรม” อย่าง “Hackathon” ถึงกลายเป็นเกมที่ “คนมีของ” ไม่อยากเล่นด้วย?

เพราะเมื่อ “การระดมไอเดีย” ถูกลดทอนเหลือเพียง “พิธีกรรมสร้างภาพ” และทางรอดขององค์กรคือการเปลี่ยนจาก “จัดประกวด” สู่ “สร้างคุณค่าร่วม” อย่างแท้จริง
====
💥 Hackathon = งานนวัตกรรม...สู่พิธีกรรมที่ไร้ชีวิต?
“Hackathon” เคยเป็นคำที่เปี่ยมด้วยพลังและจิตวิญญาณของการลงมือสร้างจริง
* เป็นพื้นที่ที่คนเก่งมารวมตัวกันในเวลาจำกัด เพื่อสร้างต้นแบบ (MVP) ที่ใช้งานได้จริง ภายใน 24-48 ชั่วโมง
* แต่เมื่อคำนี้ถูกองค์กรขนาดใหญ่หยิบไปใช้ มันค่อยๆ เสื่อมพลัง จนกลายเป็นเพียงกิจกรรมโชว์ที่หมุนเวียนปีละครั้งเพื่อสร้างภาพว่า “เราก็มีนวัตกรรมเหมือนกัน”
* จากเวทีที่เคยสร้างของจริง กลายเป็นเวทีที่สร้างสไลด์ได้ดีที่สุดแทน
ในอดีต Hackathon คือพื้นที่แห่งพลังของ “ผู้สร้าง” (Maker) ที่ทำทุกอย่างด้วยมือและหัวใจ แต่ในองค์กรปัจจุบัน มันถูกกลืนด้วย KPI ด้าน PR, branding, และภาพลักษณ์ “โปรโมทให้เหมือนมีนวัตกรรมขององค์กรแต่เปลือก” มากกว่าความตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งใดจริงๆ
องค์กรจำนวนมากจัด Hackathon เพราะ “ทุกคนทำ” ไม่ใช่เพราะ “อยากทำให้เกิดผลลัพธ์จริง” และนี่คือจุดที่คำคำนี้ค่อยๆ สูญเสียจิตวิญญาณเดิม
====
🧩 Hackathon = ที่ปรึกษาราคาถูกในคราบงาน Event?
พูดให้ตรงไปตรงมา Hackathon ในหลายองค์กรวันนี้ ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างนวัตกรรม แต่เพื่อสร้าง perception  และบางครั้ง เพื่อ “ได้ไอเดียฟรีๆ” จากพนักงานและคนนอก โดยไม่ต้องจ้างที่ปรึกษาแพงๆ?
วัตถุประสงค์แฝง 3 ข้อที่หลายองค์กรไม่กล้าพูด
1. เพื่อการประชาสัมพันธ์ (PR)
* Hackathon เป็นเครื่องมือที่เร็วและถูกที่สุดในการสร้างภาพลักษณ์ว่า “องค์กรเราทันสมัย เปิดรับไอเดียใหม่ๆ” ได้โดยที่อาจจะไม่ต้องเปลี่ยนอะไรจริงๆ
2. เพื่อสูบไอเดีย (Idea Extraction)
* ผู้บริหารรู้ดีว่าคนหน้างานเห็นปัญหาจริงมากที่สุด Hackathon จึงกลายเป็นพื้นที่ให้คนเหล่านี้ “ปล่อยของ” โดยไม่รู้ตัวว่ากำลังให้คำปรึกษาฟรีโดยไม่ได้ค่าตอบแทน
3. เพื่อครอบครองผลงาน (IP Ownership)
* ไอเดียดีๆ ทั้งหมดกลายเป็นทรัพย์สินขององค์กรทันที
* ส่วนผู้เข้าร่วมได้เพียงรางวัลปลอบใจ เสื้อยืดหนึ่งตัว หรือโพสต์ LinkedIn หรือ Facebook/TikTok ว่า “ได้เรียนรู้มากมาย”
หลายครั้ง Hackathon จึงกลายเป็นการจ้างที่ปรึกษาในราคาเสื้อยืด โดยใช้คำว่า ‘โอกาส’ เป็นเหยื่อล่อคนที่อยากเปลี่ยนโลก และยิ่งเวลาผ่านไป “คนมีของจริง” ยิ่งรู้ทันเกมนี้มากขึ้นทุกที
====
🚫 เมื่อ “คนมีของ” ไม่อยากเล่นอีกต่อไป?
* ในยุคแรก Hackathon อาจยังมีแรงดึงดูด แต่ทุกวันนี้ “A-Players” รู้แล้วว่าไอเดียที่มีคุณค่าของพวกเขาไม่ควรถูกแลกด้วยคำชม, ถ้วยรางวัล, หรือภาพถ่ายในงาน PR ที่จบแล้วก็จบไป
* ผลลัพธ์คือ Hackathon เริ่มกลายเป็นสนามเด็กเล่นของคนที่ยังไม่รู้คุณค่าของตัวเอง เช่น นักศึกษาที่อยากได้โปรไฟล์, พนักงานจูเนียร์ที่ถูกส่งมาแบบจำใจ หรือคนที่อยาก “มีส่วนร่วม” แต่ไม่มีทรัพยากรให้ไปต่อจริง เป็นต้น
* เมื่อคนที่มีของจริงถอนตัวออกจากเกม องค์กรก็เริ่มได้แต่ “ไอเดียธรรมดาๆ จากคนที่ยังไม่พร้อม” และนวัตกรรมที่แท้จริงก็ไม่เคยเกิดขึ้นอีกเลย
Hackathon ที่ไม่มีคนเก่ง คือ Hackathon ที่ไม่มีอนาคต
====
🔄 จากเวทีโชว์...สู่ระบบนิเวศแห่งการสร้างคุณค่าร่วม?
ถ้าองค์กรอยากได้ “นวัตกรรมจริง” ต้องเลิกคิดแบบ “ผู้จัดอีเวนต์” แล้วเริ่มคิดแบบ “ผู้ร่วมสร้างระบบนิเวศ”
1. เปลี่ยนจาก ‘การประกวด’ เป็น ‘การบ่มเพาะ’ (Incubate, Don’t Compete)
* หยุดให้รางวัลแล้วจบ องค์กรควรลงทุนต่อกับทีมที่มีศักยภาพจริง ให้ทุน ทดลองต่อ และช่วยให้ไอเดียนั้นเกิดขึ้นได้จริงในระบบธุรกิจ เช่น โครงการภายในที่ต่อยอดสู่โปรเจกต์จริงได้ภายในองค์กรที่เกิดขึ้นได้จริง ในเวลาที่กำหนด เป็นต้น
2. เปลี่ยนจาก ‘การครอบครอง’ เป็น ‘การแบ่งปัน’ (Share, Don’t Own)
* หากไอเดียนั้นกลายเป็นผลิตภัณฑ์หรือธุรกิจใหม่ ทีมผู้ริเริ่มควรได้รับส่วนแบ่งอย่างยุติธรรม ไม่ใช่แค่ให้เงินรางวัลนิดหน่อย แต่ในฐานะ “ผู้ร่วมก่อตั้ง” ของสิ่งที่พวกเขาคิดและสร้างขึ้นจริง
3. สร้างระบบ Mentor ที่มีชีวิต
* แทนที่จะเชิญกรรมการมาฟัง Pitch หนึ่งวันแล้วหายไป ควรสร้างวง mentor ต่อเนื่องที่คนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่เรียนรู้ร่วมกัน เพื่อให้ความรู้ไม่สูญหายหลังจบ Event
4. บูรณาการนวัตกรรมเข้ากับระบบจริง (Integrate, Don’t Isolate)
* Hackathon ไม่ควรเป็นงานนอกระบบ แต่ต้องเชื่อมต่อกับหน่วยธุรกิจจริง มีเจ้าของงาน (Owner) ที่พร้อมรับไอเดียนั้นไปขยายผล ไม่ใช่ให้จบใน PowerPoint สวยๆ เท่านั้น
นวัตกรรมไม่เกิดจากพิธีกรรม แต่มาจากวัฒนธรรม และวัฒนธรรมต้องสร้างจากความต่อเนื่อง ไม่ใช่งบประมาณจัดอีเวนต์
====
🌱 เมื่อองค์กรอยากได้ “นวัตกรรม” แต่ไม่กล้าเปลี่ยน “ระบบ”?
Hackathon คือกระจกสะท้อนความจริงขององค์กรไทย เราอาจไม่ได้ขาดไอเดีย แต่เราขาด “ความจริงใจที่จะให้คุณค่า” กับคนที่สร้างมันขึ้นมา
องค์กรที่อยากเปลี่ยนจริง ต้องเริ่มจากการถามคำถามว่า  “เราจัด Hackathon เพราะอยากสร้างนวัตกรรม หรือเพียงอยากมีรูปถ่ายร่วมกับคนรุ่นใหม่?”
เพราะสุดท้ายแล้ว สิ่งที่ดึงดูด “คนมีของ” ไม่ใช่เงินรางวัล หรือเวที Pitch ที่ใหญ่กว่าใคร แต่คือ “ความไว้วางใจ” และ “พื้นที่ที่พวกเขารู้ว่าความคิดของตนจะไม่ถูกใช้โดยไม่มีเครดิต”
”อย่าจัด Hackathon แค่เป็นแค่ Event PR ว่าองค์กรมีนวัตกรรม…ถ้าคุณยังไม่พร้อมจะให้คุณค่ากับคนที่ลงมือคิดจริง”
องค์กรที่เข้าใจความหมายนี้ จะเลิกจัดเวทีโชว์ และเริ่มสร้างระบบที่ฟังจริง ลงมือจริง และร่วมสร้างจริง เพราะนวัตกรรมที่แท้จริงไม่ได้เริ่มจาก “การประกวด” แต่มันเริ่มจาก “ความเคารพต่อความคิดของคนอื่น”
#วันละเรื่องสองเรื่อง
#Innovation
#Hackathon
#CorporateCulture
#ValueSharing
#Leadership
#EmpathyInAction
#นวัตกรรม
#การเปลี่ยนผ่านวัฒนธรรม
โฆษณา