3 พ.ย. เวลา 10:35 • หุ้น & เศรษฐกิจ

รายงานภาวะตลาดประจำสัปดาห์ 27 – 31 ต.ค. 2568

ภาพรวม
  • การเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีนคืบหน้า หนุนตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น
  • ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่มีแผนจะหยุดเพิ่มกำลังการผลิตใน Q1/2026
  • Fed ลดดอกเบี้ยตามคาด แต่อาจชะลอการลดดอกเบี้ยรอบถัดไป
  • ECB และ BOJ คงดอกเบี้ยตามคาด
  • ผลประกอบการบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่แข็งแกร่งหนุนความเชื่อมั่นตลาด
สถานการณ์ตลาด
  • สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น โดย S&P 500 +0.7% และ Nasdaq +2.2% ได้แรงหนุนจากความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน และผลประกอบการที่ออกมาดีกว่าคาด ขณะที่ Fed ปรับลดดอกเบี้ยตามคาด แต่ส่งสัญญาณระมัดระวังต่อการผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติม ทำให้ตลาดเริ่มลดความคาดหวังต่อการลดดอกเบี้ยรอบต่อไป
  • ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังประชุม OPEC+ โดยมีมติเพิ่มกำลังการผลิตอีก 137,000 บาร์เรลต่อวันในเดือน ธ.ค. เช่นเดียวกันกับในเดือน ต.ค. และ พ.ย. ที่ผ่านมา แต่มีแผนจะหยุดเพิ่มกำลังการผลิตชั่วคราวในไตรมาสแรกปี 2026 เนื่องจากกังวลปัญหาอุปทานน้ำมันล้นตลาด
  • การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน
• ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนผ่อนคลายลง หลังทรัมป์และสีจิ้นผิงพบกันที่เกาหลีใต้
• ทรัมป์ประกาศลดภาษีนำเข้าจากจีนจาก 57% เหลือ 47% ขณะที่จีนตกลงกลับมาซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ และยกเลิกระงับการส่งออกแร่หายากเป็นเวลา 1 ปี โดยทั้งสองฝ่ายจะทบทวนข้อตกลงนี้เป็นรายปี นอกจากนี้ ทรัมป์ยังลดภาษีสินค้าที่เกี่ยวข้องกับสารเฟนทานิลจาก 20% เหลือ 10% หลังจีนให้คำมั่นจะปราบปรามการผลิตเฟนทานิลอย่างจริงจัง
• ยังไม่มีความคืบหน้าในประเด็น Tiktok และการเข้าถึงชิปของ Nvidia
  • การประชุมของธนาคารกลางใหญ่ 3 แห่ง ได้แก่ Fed ECB และ BOJ
• Fed: คณะกรรมการ Fed มีมติ 10 ต่อ 2 เสียง ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมาอยู่ที่ 3.75–4.0% ตามคาด พร้อมประกาศยุติการทำ QT ตั้งแต่ 1 ธ.ค. อย่างไรก็ตาม ท่าทีของ Fed ยังมีความระมัดระวังมากกว่าที่ตลาดคาด และไม่ได้ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมในเดือน ธ.ค. ทำให้โอกาสลดดอกเบี้ยรอบต่อไปลดลงจาก 92% เหลือ 69% ขณะที่ทิศทางของ Fed ยังคงอยู่ในวัฏจักรดอกเบี้ยขาลง แต่จะดำเนินนโยบายแบบ “Data Dependent” เนื่องจากสหรัฐฯ ยังอยู่ในช่วง Government Shutdown ซึ่งทำให้ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญล่าช้า และคณะกรรมการมีความเห็นต่างกัน
• ธนาคารกลางยุโรป (ECB): คงอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน หลังเงินเฟ้อทรงตัวใกล้เป้าหมายที่ 2% และเศรษฐกิจยังเติบโตต่อเนื่อง โดยประธาน ECB ระบุว่าจะตัดสินใจตามข้อมูลเศรษฐกิจของการประชุมในแต่ละครั้ง
• BOJ: คงดอกเบี้ยที่ 0.5% ตามคาด ผู้ว่าการ อูเอดะ ระบุว่าจะรอดูแนวโน้มเศรษฐกิจและค่าจ้างก่อนปรับนโยบายเพิ่มเติม โดย Goldman Sachs คาดว่า BOJ อาจขึ้นดอกเบี้ยครั้งถัดไปในเดือน ม.ค. ปีหน้า
  • รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ระบุว่า กว่า 83% ของบริษัทในดัชนี S&P 500 ที่มีการประกาศผลประกอบการออกมาแล้ว มีกำไรดีกว่าที่ตลาดคาด โดยภาพรวมกำไรของบริษัทจดทะเบียนเติบโต 10.7% เมื่อเทียบกับปีก่อน ทั้งนี้ บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่หลายแห่งมีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง เช่น
• Alphabet รายได้และกำไรโตเด่นจากความต้องการใช้ Cloud และ Generative AI
• Amazon รายได้ธุรกิจ Cloud โต 20% สูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี
• Meta กำไรต่ำกว่าคาดจากค่าใช้จ่ายพิเศษครั้งเดียว และเพิ่มค่าใช้จ่ายการลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ โดยนักลงทุนต้องการเห็นผลตอบแทนจากการลงทุนใน AI ที่ชัดเจนมากขึ้น
คำเตือน
  • เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือ และ ความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  • ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
  • ผู้ลงทุนสามารถขอข้อมูลหนังสือชี้ชวนได้ที่สำนักงานของบริษัทจัดการ หรือจาก www.krungsriasset.com หรือตัวแทนสนับสนุนการขาย หรือเจ้าหน้าที่ขายหน่วยลงทุน
ติดตามกองทุนกรุงศรี อัปเดตข่าวสาร และกิจกรรมต่างๆ ได้ที่
#KrungsriAsset #กองทุนกรุงศรี #Weeklymarketview #สรุปภาวะตลาดรายสัปดาห์
โฆษณา