Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Witly. - เปิดโลกวิทย์แบบเบา ๆ
•
ติดตาม
4 พ.ย. เวลา 06:00 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
☕️ ไขความลับ “กาแฟขี้ชะมด” (Kopi Luwak) วิทยาศาสตร์พบสาเหตุที่แท้จริงของรสชาติสุดหรู
ทุกคนเคยสงสัยไหมครับว่าทำไม “กาแฟขี้ชะมด” หรือ โกปีลูวัก (Kopi Luwak) ถึงได้กลายเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่แปลกประหลาดและหรูหราที่สุดในโลก? ด้วยราคาที่พุ่งสูงถึงกิโลกรัมละ 1,000 ดอลลาร์ (กว่า 30,000 บาท) อะไรคือความลับที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังเมล็ดกาแฟที่เก็บมาจากมูลของสัตว์?
ล่าสุด นักวิทยาศาสตร์อาจค้นพบคำตอบทางเคมีที่อธิบายได้ว่า ทำไมรสชาติของมันถึงเป็นที่ต้องการของนักดื่มทั่วโลก และในขณะเดียวกัน ก็ได้ตอกย้ำถึงปัญหาด้านมืดที่น่ากังวลของอุตสาหกรรมนี้
🦝 ชะมด: วิศวกรเคมีสี่ขา
Coffee bean size of manually-harvested and scat-derived coffee beans of robusta variety in in conventional estate and organic estate.
กาแฟชนิดนี้มาจากชะมดแผงหางปล้อง (Asian palm civet) สัตว์คล้ายพังพอนที่อาศัยอยู่ในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (รวมถึงในประเทศไทย) พวกมันจะเลือกกินผลกาแฟที่สุกดีที่สุด และเมล็ดกาแฟที่ไม่ถูกย่อยก็จะถูกขับถ่ายออกมา
เพื่อทำความเข้าใจว่าเมล็ดกาแฟถูก “เปลี่ยนแปลง” ไปอย่างไรหลังจากการเดินทางผ่านลำไส้ของชะมด พาลัตตี อัลเลช ซินู (Palatty Allesh Sinu) และทีมงาน ได้เก็บตัวอย่างกาแฟจากฟาร์ม 5 แห่งในอินเดีย ซึ่งเป็นฟาร์มที่ชะมดอาศัยอยู่ตามธรรมชาติ โดยไม่มีการกักขัง
พวกเขาเก็บตัวอย่างมูลชะมดเกือบ 70 กองที่มีเมล็ดกาแฟ และยังเก็บเมล็ดกาแฟโรบัสต้าสายพันธุ์เดียวกันจากต้นโดยตรง เพื่อนำมาเปรียบเทียบองค์ประกอบทางเคมีที่สำคัญ
🔬 ความลับที่ถูกเปิดเผยในห้องแล็บ
เมื่อนำไปวิเคราะห์ พวกเขาพบว่าเมล็ดกาแฟที่ผ่านการย่อยของชะมดนั้น มีองค์ประกอบทางเคมีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน
●
ไขมันทั้งหมด (Total fat): มีปริมาณสูงกว่า เมล็ดกาแฟที่เก็บจากต้นอย่างมีนัยสำคัญ
●
คาเฟอีน, โปรตีน และกรด: มีปริมาณลดลงเล็กน้อย
ทีมวิจัยสันนิษฐานว่า ปริมาณไขมันที่สูงขึ้นนี้เองที่อาจเป็นปัจจัยหลักที่สร้างกลิ่นหอม (Aroma) และรสชาติ (Flavour Profile) ที่เป็นเอกลักษณ์ ให้กับกาแฟขี้ชะมด ในขณะที่ปริมาณโปรตีนที่ลดลง อาจส่งผลให้ความขม (Bitterness) ลดน้อยลง
พูดง่ายๆ ก็คือ กระบวนการย่อยและการหมักในลำไส้ของชะมด ได้ทำหน้าที่เป็น “โรงงานแปรรูปเคมีชีวภาพ” ชั้นเลิศ ที่ปรับเปลี่ยนรสชาติของเมล็ดกาแฟให้มีความซับซ้อนและนุ่มนวลขึ้นนั่นเอง
🔥 รสชาติที่แลกมาด้วยความทารุณ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่างานวิจัยนี้จะชี้ให้เห็นถึงความมหัศจรรย์ของกระบวนการทางธรรมชาติ แต่ก็ยิ่งตอกย้ำถึงปัญหาด้านมืดของอุตสาหกรรมนี้
กลุ่มพิทักษ์สวัสดิภาพสัตว์ได้ออกมากล่าวหาอุตสาหกรรมกาแฟขี้ชะมดมาโดยตลอดว่ามีการกักขังชะมดไว้ในกรงในสภาพที่เลวร้ายทารุณ เพื่อบังคับให้มันกินแต่ผลกาแฟเพื่อผลิตเมล็ดกาแฟป้อนตลาดโลก
ซินู (ผู้นำการวิจัย) กล่าวว่าการกักขังชะมดนั้นเป็นสิ่งที่โหดร้าย และเขาหวังว่าการค้นพบนี้จะเป็นก้าวแรกในการพัฒนากระบวนการหมักเทียม (artificial fermentation) ขึ้นมาทดแทน
“เมื่อเรารู้ว่าเอนไซม์ใดบ้างที่เกี่ยวข้องกับการย่อยและการหมัก เราก็อาจจะสามารถสร้างกาแฟขี้ชะมดแบบเทียมขึ้นมาได้” เขากล่าว
🏡 กาแฟขี้ชะมดในประเทศไทย: รสชาติหรูหรากับคำถามด้านจริยธรรม
ในประเทศไทยเองมีการผลิตและบริโภคกาแฟขี้ชะมด เช่นเดียวกับหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การค้นพบเกี่ยวกับที่มาของกาแฟชนิดนี้จึงเป็นเรื่องใกล้ตัวผู้บริโภคชาวไทยอย่างยิ่ง มันไม่เพียงช่วยให้เข้าใจถึงที่มาของรสชาติอันหรูหรา แต่ยังเป็นแรงกระตุ้นให้สังคมตั้งคำถามถึง “จริยธรรมในการผลิต” ที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง
สำหรับผู้บริโภคชาวไทยในชีวิตประจำวัน การเลือกดื่มกาแฟอย่างมีจริยธรรมกำลังกลายเป็นประเด็นสำคัญ แนวทางหนึ่งคือการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติ เช่น การเก็บมูลชะมดจากป่าโดยไม่ก่อให้เกิดการกักขังหรือเบียดเบียนสัตว์ อีกแนวทางคือการสนับสนุนงานวิจัยที่พัฒนากระบวนการสร้าง “รสชาติเทียม” ของกาแฟขี้ชะมด ซึ่งสามารถเลียนแบบรสชาติได้โดยไม่ต้องพึ่งพาสัตว์เลย
การตระหนักถึงที่มาของกาแฟที่ดื่มในแต่ละวันจึงไม่ใช่แค่เพียงเรื่องของรสชาติ แต่ยังเป็นการเลือกที่สะท้อนถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสวัสดิภาพสัตว์ ผู้บริโภคที่ใส่ใจสามารถเพลิดเพลินกับรสชาติกาแฟคุณภาพสูงได้ โดยไม่ต้องแลกมาด้วยความทุกข์ทรมานของสิ่งมีชีวิตอื่น
🎯 สรุปประเด็นสำคัญ
✅ ไขความลับรสชาติ: กาแฟขี้ชะมดมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ อาจเป็นเพราะมีปริมาณไขมันสูงกว่า (ช่วยเรื่องกลิ่นหอม) และมีโปรตีนต่ำกว่า (ช่วยลดความขม)
✅ กระบวนการย่อยคือหัวใจ: การย่อยและการหมักในลำไส้ของชะมดคือสิ่งที่เปลี่ยนแปลงองค์ประกอบทางเคมีเหล่านี้
✅ ปัญหาด้านจริยธรรม: อุตสาหกรรมนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเรื่องการกักขังและทารุณกรรมชะมดเพื่อการผลิต
✅ อนาคตคือการสังเคราะห์?: นักวิจัยหวังว่าจะสามารถถอดรหัสเอนไซม์ในกระบวนการย่อยของชะมด เพื่อนำไปสู่การสร้างกาแฟขี้ชะมดเทียมที่ไม่ต้องเบียดเบียนสัตว์ได้
💬 แล้วคุณล่ะครับ...
การได้รู้เบื้องหลังทางเคมีและประเด็นด้านจริยธรรมนี้ เปลี่ยนมุมมองที่คุณมีต่อ “กาแฟขี้ชะมด” อย่างไรบ้างครับ? และคุณคิดว่ารสชาติที่หรูหรานั้น คุ้มค่าที่จะแลกมาหรือไม่?
🔎 แหล่งอ้างอิง
1. Mitra, R., et al. (2025). Civet Robusta and natural Robusta coffee are different on key fatty acid methyl esters and total fat. Scientific Reports.
https://doi.org/qbd9
🙏 ถึงผู้อ่านทุกท่าน
หากคุณชื่นชอบและเห็นคุณค่าของงานที่ผมทำ การสนับสนุนเล็กๆ น้อยๆ จากคุณจะเป็นพลังสำคัญอย่างยิ่ง เปรียบเสมือน 'ค่ากาแฟ' ที่ช่วยต่อลมหายใจ และทำให้ผมสามารถเดินหน้าสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไปได้ เพื่อให้พื้นที่แห่งการเรียนรู้ของเรายังคงอยู่
ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความเมตตาจากทุกท่าน เพื่อให้เพจนี้ได้เดินต่อไปครับ
Link สนับสนุนค่ากาแฟ [
https://ezdn.app/witlyofficial
]
วิทยาศาสตร์
ความรู้รอบตัว
อาหาร
1 บันทึก
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
NEWS BRIEF (พฤศจิกายน 2568)
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย