3 พ.ย. เวลา 14:34 • ปรัชญา
..ตัวความยึดถือ มันซ่อนเร้น เป็นกรรมที่ซ่อมเร้นในทรัพย์สินเงินทอง ที่ต้องใช้อารมณ์ต่างมากมายก่ายกอง ไปหามายึดถือ ยิ่งยุคนี้ ไม่หาก็ไม่ได้ ..อดไม่อะไรให้ใช้ ..เวลาไปหามามันเหนื่อยมั้ย . หามายึดถือ .ทำให้เกิดตายนับชาติไม่ได้
การที่เราเกิดมา ได้ฟัง เรื่องราวพระเวสสันดร พระสิทธัตถะ มันเกิดความสงสัย เยิ่งเรื่องราวพระเวสสันดร ท่านให้ทาน แจกทาน จนต้องนำพา คู่ชีวิต อีกทั่งสองกุมาร ไปอยู่ป่า ทั้งยังมีเรื่องราวชูชก มาขอสองกุมาร .เรื่องที่จะยกพระชายา พระนางมัทรี ให้เป็นทาน จนร้อนไปถึง พระอินทร์จำแลงกาย มาขอ ..สุดท้าย ท่านก็กลับมาอยู่เวียงวัง
พอมาชาติพระสิทธัตถะ ท่าน..ไม่ชวนใครไปด้วย ท่านทิ้งเวียงวัง ทรัพย์สิน ชายากุมารเข้าป่า เป็นเพราะอะไร ท่านจึ้งทิ้ง . ท่านมองไปที่ บุญกุศลที่ทำมา ยิ่งทำก็ยิ่ง เกิดมา ร่ำรวย ยศศักดิ์ ..ต้องเกิดมาใช้ ไม่สามารถที่จะยุติการเกิดได้ เกิดมาชาตินี้ ท่านก็ทิ้งทั้งหมดไม่เอามาใช้อีกแล้ว เจ้าป่า ไปนั่ง ทำกายนิ่ง จิตนิ่ง .ทำไปทำมา .จิตท่านก็บรรลุไปถึงธรรม เป็นองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า สาวกท่านก็ทำตามท่าน เอ.มันน่าสงสัย ทำไม่ท่าน ทิ้งทรัพย์สมบัติ เวียงวัง
เราก็ค่อยมาทบทวน ..เรื่องราวความโลภโกรธหลงที่มันเกิดในตัวตน ในกายมันพาไปยึดไปหา วัตถุสิ่งของ .ต่างๆในโลก เอามายึดถือ เอามาใช้ อ้อ..มันมีกรรม ซ่อนเร้นในวัตถุของโลก ทรัพย์สินเงินทอง มันก็มีกรรมซ้อนเร้อน หามาได้ ก็ต้องมาเกผ็บซ่อนในกระเป๋า เอาไปวาง ก็เป๋าหาย มันก็ทุกข์วุ่นวาย ..เพราะฉะนั้น เมื่อหามาได้เราก็แบ่งปันไปสร้างทานบ้าง ทำบุญไว้ บำรุง ที่เรียกว่า พระศาสนา ฝากไว้ในศาสนา
คราวนี้ เมื่อเรามาเจอพระองค์ หนึ่ง ท่านก็บอกให้ทำ บอกวิธีทำบุญ นำกายพ่อแม่ ไปนั่งหน้าพระ ฝึกหัด นั่งพับเพียบกราบพระ เอากายบิดามารดามากราบ ท่านสอนเรื่องการเอาจิตมากราบพรั เอาจิตมาทำบุญ ก็ค่อยทำฝึกทำไป ด้วยเงินวันละบาท กรวดน้ำอุทิศกุศล .เอ..พอทำไปก็ได้เรียนรู้เรื่องราวจิตวิญญาณมาขอบุญกุศล ..นั่งหน้า ก็มีผู้หญิงชุดขาว เดินมา นั่งตรงหน้า ยกมือพนม นั่งเรียบร้อย พอเห็น..ก็รู้ว่า เค้ามาขอส่วนบุญ พอนึกในใจ ขอให้เค้าอนุโมทนาบุญกุศล ผู้หญิงสองคนนั้นก็หายไป
จากนั้นก็มีเรื่องราว ให้เรียนรู้ว่า แท้จริงนั้น บุญเป็นอย่างไร ก็ค่อยได้เรียนรู้ เรื่องราวแสงสีของบุญ เป็นสีเหลืองทอง แผ่กระจาย ไปถึงจิตวิญญาณ..จิตที่เค้าทุกข์ เค้าได้รัยแสงบุญ ก็ทำให้หายทุกข์ร้อน เหมือนได้กินอาหาร อิ่มเอิบ ทำดีๆ เค้าก็สามารถอยู่ได้เป็นเดือน ก็ค่อยเรียนรู้ขึ้นมา
พอได้เรียนรู้ บุญกุศล เราก็รู้จักกรรม อ้อ กายเรานั้นมันมีแต่กรรม ที่รับได้กายนี้ เพื่อให้จิตเราสร้างบุญกุศลบารมี โดยใช้กายนี้ ทำมันขึ้นมา ให้กายกรรม นี้เป็นกายบุญ ..จิตจะได้ไปอาศัย ในกายบุญ เมือหมดชาตินี้ไป ก็มีกายบุญ กายของเทพยดาอินทร์พรหม คอยรองรับให้จิตออกจากายนี้ไปอาศัย
เมื่อหมดชาตินี้ ทุกสิ่งเอาไปไม่ได้ แม้แต่กายนี้ เราก็ค่อยแปรสภาพ วัตถุสิ่งขของนั้นให้เป็นทานเป็นบุญเกิดขึ้น หากเราไม่ทำเราก็ไม่มีเสบียงติดตัวไป เพราะก็ไปงานคนตายมาหลายงาน จิตที่เค้าออกจากร่าง ไปที่ลำบาก บางคนตายปุ๊บเป็นเปรตปั๊บทำไมถึงเป็นเช่นนั้น
เราก็ได้เรียนรู้ของเรามา ว่า บุญกุศลนั้นทำได้ตอนมีกายเป็นมนุษย์ครบอาการสามสิบ ..พร้อมทั้งจิตที่สติสัมปชัญญะ รู้จักบุญ ..เราก็ทำของเราไป .คนอื่นเค้าจะทำหรือไม่ทำ ไม่ใช่เรื่องของเราเพราะเราเกิดมา เพื่อต้องการบุญกุศลบารมี .ใครก็ทำให้ไม่ได้ เรื่องของกายที่เปลืองแปลงในอนาคต เราก็ต้องสร้างมันขึ้นมาเอง
ใครจะหมิ่นบุญกุศล ไม่สร้างไม่ทำ เรื่องของการใช้กายของเค้า ไม่ใช่กายของเรา เรารู้ว่า เราได้กายนี้ เค้าให้มาสร้างบุญกุศล ไม่ใข้สร้างแต่กรรม ..เราก็ทำของเราไป กลัวจิตออกจากกระกระโดดลงนรก ไปทุกข์อีกยาวนาน
เรื่องจิตที่หมดกายมนุษย์ มันน่ากลัว..อย่าประมาท ละเลย สร้างบุญกุศล วันหนึ่ง ไม่รู้วันไหน เราต้องตายๆ จิตต้องออกจากกาย .เตรียมที่พักอาศัยหรือยัง ..หมาที่เราเลี้ยง เอ..มันมีจิตไปอาศัย . ทำไมมันเหมือนฟังรู้เรื่อง . มันน่าจะมีนิสัยมนุษย์ติดตัวมา มีตา มีหูจมูกลิ้นกายใจ ครบเหมือนคนเลย .เอ..จิตมนุษย์มาอาศัยในรูปหมามั้ยนี่ ..บางตัวใจดี บางตัวก็อุตส่าห์เลี้ยง ..มันก็กัดเจ้าของ..
โฆษณา