สามประโยคมัดใจผู้คน
อาจจะเพราะด้วยอีโก้และอยากได้การยอมรับจากคนอื่น คนเรามักจะพูดขายตัวเองว่าตัวเองเก่งอย่างโน้น เคยทำอะไรสำเร็จอย่างนี้ รู้จักคนโน้นคนนี้เพื่อสร้างความประทับใจให้กับอีกฝ่าย พยายามพองตัวให้ใหญ่เพื่อให้อีกฝ่ายมองเห็น
แต่มานึกดีๆ เวลาใครพูดอะไรกับเราแบบนั้น เราก็มักจะไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ บางทีก็หมั่นไส้เอาด้วยซ้ำถ้าเขาพูดเกินจริง โม้เกินควร แต่ส่วนใหญ่ก็อดไม่ได้ ไม่ว่าเพราะรู้สึกไม่มั่นคง หรือรู้สึกอยากได้การยอมรับเร็วๆ ก็ตาม
แล้วถ้าพอตระหนักรู้ว่าโอ้อวดไปไม่ดีนัก แต่อยากให้อีกฝ่ายประทับใจ จำเราได้ในทางที่ดี เราควรใช้บทสนทนาหรือมีเทคนิคอย่างไรบ้าง
คุณ Vanessa Van Edwards เล่าไว้ในรายการ The Diary of a CEO ว่ามีสามประโยคที่ทำให้อีกฝ่ายประทับใจได้ง่ายๆ เพราะเป็นการแสดงถึงความใส่ใจและให้เขาเป็นคนสำคัญก่อน
— ประโยคแรกก็คือ I am thinking of you ก็เลย….
วันก่อนผมเพิ่งเขียนบทความเรื่องนี้ที่มีน้องตงตงส่ง reel เกี่ยวกับ likable ของคุณวาเนสซาคนเดียวกันนี่แหละมาให้ ตงตงขึ้นด้วยประโยคนี้ซึ่งให้ความพิเศษกว่าแค่ส่งมาเฉยๆมาก ว่าฟังเรื่องนี้แล้วผมนึกถึงพี่ก็เลยส่งคลิปนี้มาให้ ทำให้รู้สึกว่าน้องเขาอุตส่าห์นึกถึงเรา และนอกจากนึกถึงก็ยังมีความพยายามส่ง reel ให้เราอีก
ลองนึกถึงเวลาเราได้การ์ดเขียนด้วยลายมือ บอกว่าเจอไปเที่ยวแล้วเจอโปสการ์ดนี้เลยนึกถึงพี่ ก็เลยเขียนมาดู หรือไปเจอของอร่อยแล้วบอกว่าเห็นสาลี่ก็เลยส่งมาให้เพราะจำได้ว่าพี่ชอบ เป็นความใส่ใจที่ทำให้คนที่ได้รับรู้สึกพิเศษ ซึ่งจะทำให้เขาประทับใจเราไม่ลืม
ไม่ได้เกี่ยวว่าเราเป็นใคร ยิ่งใหญ่แค่ไหนเลยด้วยซ้ำ..
หลายปีก่อน คุณซิกเว่ เจ้านายเก่าผม พอแยกย้ายกันไปตามสายอาชีพตัวเองหกปี ไม่ได้คุยกันเลย มีช่วงหนึ่งได้ยินข่าวว่าคุณซิกเว่กำลังจะได้เป็นเบอร์หนึ่งเทเลนอร์ บริษัทระดับโลก ก็แค่แอบดีใจในฐานะคนคุ้นเคย
มีวันหนึ่ง ผมได้รับสายแปลกๆจากนอร์เว รับสายปรากฏว่าเป็นคุณซิกเว่ที่ไม่ได้คุยกันมาหกปี คุณซิกเว่โทรมาบอกว่า อีกสามสิบนาทีจะขึ้นรับตำแหน่งเบอร์หนึ่ง แค่อยากโทรมาเพราะนึกถึงและบอกว่า “you’re part of it” แล้วก็วางสายไป
นี่คือตัวอย่างที่ดีที่สุดในระดับใจละลายที่ผมนึกออกในประโยคนี้เลยครับ…
— ประโยคที่สองก็คือ You always…
ในบทสนทนาที่มีคนหลายคน ในการชมว่า น้องเป็นคนที่ตลกแบบนี้เสมอ พี่เป็นคนที่ใจดีแบบนี้ตลอด คุณอาเป็นคนที่มีเมตตากับทุกคนเลยนะครับ ในการใช้ประโยคแบบนี้ไม่ใช่แค่คำชมทั่วไป แต่เป็นการยืนยันอัตลักษณ์ (identity) ของบุคคลผู้นั้นในทางบวก ซึ่งเป็นคำชมที่ทรงพลังที่สุด ใครได้คำชมแบบนี้ไปก็จะประทับใจเราไม่ลืม และมองเราบวกมากๆอีกเช่นกัน
— ประโยคที่สามก็คือ you mentioned this (before)
ระหว่างการพูดคุย ถ้ามีอะไรฉลาดๆหรือคมๆแล้วเรานึกออกว่า คนตรงหน้าเราเคยพูดมาก่อน พอบอกว่าเบื้องลึกแบบนี้พี่เคยเล่ามาก่อน ไอเดียคมๆ แบบนี้น้องเคยเสนอมาแล้ว
คำให้เกียรตินี้ นอกจากจะทำให้ผู้ที่ถูกพูดถึงปลาบปลื้ม รู้สึกเป็นตัวเอกในบทสนทนาแล้ว ก็ยังรู้สึกว่าเราให้เกียรติ แถมยังจำได้อีก ยิ่งทำให้เขารู้สึกเป็นคนพิเศษขึ้นมา ความประทับใจแบบนี้ก็ยิ่งติดสนิทแน่นทนนานและทำให้เขาชอบพอเราขึ้นมาอีกหลายขั้น
คุณวาเนสซาแอบบอกทริกเล็กๆด้วยว่า การใช้สามประโยคนี้ต้องไม่ใช่พูดแบบกว้างๆ ต้องพูดถึงเหตุการณ์เฉพาะเจาะจง เพราะเป็นการตอกย้ำว่า “ฉัน” มีตัวตนในใจคุณจริงๆ
การที่เราจะใช้สามประโยคนี้ได้ดี เราเองก็ต้องละทิ้งอีโก้และความหมกมุ่นในตัวเองให้ได้ก่อน ต้องหัดสังเกตและให้ความสำคัญกับผู้อื่น ความสามารถในการใช้สามประโยคเหล่านี้จึงจะทรงพลานุภาพ
และโดยทฤษฎีของคุณวาเนสซา ยิ่งเราเริ่มหัดชอบคนอื่นก่อนเท่าใด เราเองก็จะมีคนชอบ (likable) มากขึ้นเท่านั้น ซึ่งฝืนกับความรู้สึกนึกคิดที่เราจะพยายามพองตัวให้ใหญ่ที่สุดเพื่อให้คนเห็น
หลักการของเรื่องก็คือ ต้องทำให้คนอื่นตัวใหญ่ก่อน เขาก็จะเห็นเราตัวใหญ่เอง
จะมัดใจผู้คน ต้องสละตัวตนของตัวเอง ..
ผมอยากจะสรุปแบบนี้นะครับ…
- 6
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
