Bourton on the Water เมืองสวยลำธารใส ในฤดูใบไม้ร่วงของชนบทอังกฤษ (UK EP.7)
หลังจากที่จบวัน ด้วยการสำรวจเมืองเล็กในชนบทที่สวยงาม เพื่อที่จะไปเที่ยวแบบเจาะลึกในวันรุ่งขึ้นแล้ว
เราก็ขับรถออกจาก Lower Slaughter เข้าสู่เมืองขนาดเล็ก(ประชากรราว 1500 คน) คือ Burford ซึ่งเป็นเมือง(Small Town) สวยอีกเมืองหนึ่งในภูมิภาคชนบท Cotswold และถือว่าเป็นประตูสู่ภูมิภาคนี้ (Gateway to the Cotswold)
Lower Slaughter
ที่เลือกพักค้างคืนที่เมืองนี้ เพราะมีเรื่องราวที่เชื่อมโยงกับหมอป็อบ เพื่อนของผู้เขียน ซึ่งเป็นหมอศัลยกรรมมือดีของโรงพยาบาลจุฬาฯ และเคยมาฝึกอบรมเป็นแพทย์เฉพาะทางที่อังกฤษ
Burford
จึงมีความผูกพันและคุ้นเคยกับประเทศอังกฤษมาก เดินทางกลับมามาเยี่ยมอังกฤษเป็นระยะสม่ำเสมอหลังจากจบการศึกษาแล้ว
ป็อบได้เคยเล่าให้ฟังถึงที่พักแบบอังกฤษขนานแท้ที่เรียกว่า B&B : Bed& Breakfast โดยได้แนะนำที่พักแห่งหนึ่งชื่อว่า PYTTS House ซึ่งอยู่ที่เมือง Burford
Pytts House
บอกว่าเป็นที่พักที่ถือว่า สวยสุดยอดแห่งหนึ่ง สำหรับการพักที่ได้บรรยากาศที่สวยงามแบบอังกฤษแท้แท้ เราจึงตัดสินใจเลือกมาพัก แล้วก็ไม่ผิดหวังเลย
เมื่อขับรถมาถึงตาม Google Maps เรียกว่าหาที่พักเกือบไม่พบ เพราะไม่มีลักษณะที่โดดเด่นว่าจะเป็นโรงแรมที่พักเลย น่าจะเป็นบ้านขนาดใหญ่ของผู้มีอันจะกินของอังกฤษเสียมากกว่า
ที่พักที่กลมกลืนกับต้นไม้
ที่พักแห่งนี้ดำเนินงานโดยคุณแอนนาคุณแม่ลูกสาม ลูกโตกันไปหมดแล้ว และเบื่อการทำงานเกี่ยวกับแฟชั่นในกรุงลอนดอน จึงมาตั้งรกรากอยู่ในชนบทที่สวยงาม
และด้วยความที่เป็นคนขยันขันแข็ง อยู่เฉยไม่ได้ จึงได้เช่าบ้านขนาดใหญ่ แล้วเปิดให้นักท่องเที่ยวมาพัก
คุณแอนนา เจ้าของ
บ้านซึ่งมี 4 ห้อง พักอยู่อาศัยเอง 1 ห้อง เปิดให้แขกเข้าพัก 3 ห้อง โดยคุณแอนนาเธอเป็นผู้ที่ดำเนินการเองทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการต้อนรับเช็คอิน การช่วยหิ้วกระเป๋าขึ้นไปส่งที่ห้อง การดูแลความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของห้องพัก ห้องน้ำ เครื่องใช้ต่างๆ
สวยสวนหลังบ้าน
ตลอดจนเป็นผู้ทำอาหารเช้า เก็บกวาด ล้างจานทำด้วยตัวเองคนเดียว ต้องบอกว่าน่าทึ่งมาก สำหรับผู้หญิงตัวเล็กเล็ก และเคยทำงานเกี่ยวกับเรื่องความสวยความงามด้านแฟชั่นมาก่อน
อาคารภายนอกเป็นหินแบบอังกฤษขนานแท้ดั้งเดิม และเลี้ยงต้นไม้ไว้เกาะผนัง ซึ่งสวยงามมาก
เราจอดรถมินิคูเปอร์พาหนะคู่ใจไว้ในซอยหน้าบ้านพักเลย เพราะเป็นซอยตัน
จอดรถหน้าบ้านพักเลย
คุณแอนนาลงมาต้อนรับขับสู้ ด้วยอัธยาศัยไมตรีอันดียิ่ง พร้อมกับหิ้วกระเป๋าเราขึ้นไปชั้นสองด้วย
เพียงแค่ได้เห็นประตูบ้าน ก็ต้องยอมรับแล้วว่าประทับใจ ในความเป็นอังกฤษหรือยุโรปตะวันตกโดยแท้
ประตูทางเข้า ดูตะวันตกมาก
เมื่อเดินก้าวพ้นประตูเข้ามา บรรยากาศก็จะเป็นบ้านเก่าแก่ของตะวันตกตามที่เราเคยเห็นในภาพยนตร์
การจัดข้าวของต่างๆภายใน ก็เป็นลักษณะของความมีประวัติศาสตร์ ร่วมกับความมีรสนิยมของตัวเจ้าของเองด้วย
ภาพหลังย่างเท้าเข้ามา สวย
เข้าไปในห้องนอนที่พักชั้นสอง ต้องบอกว่าเกินความคาดหมาย เพราะสวยงามมาก ข้าวของเฟอร์นิเจอร์ทุกอย่าง ได้รับการจัดวาง มีความผสมกลมกลืนลงตัวมาก บ่งบอกถึงรสนิยมของเจ้าของได้เป็นอย่างดี
ห้องพักแสนสวย
แล้วคุณแอนนา ก็มีเมนูให้เราเลือกอาหารเช้าว่า ต้องการอย่างไรบ้าง และเธอก็นัดเวลากับเราว่า ต้องการทานกี่โมงก็ได้
คุยกันถึงคุณหมอป็อบ แอนนาเธอจำได้ บอกว่าเป็นคุณหมอที่มาพักแล้วชอบถ่ายรูปมาก นอกจากนั้นยังจำได้เพราะชื่อจริงเป็นภาษาไทย จะมีความหมายตลกออกแปลกในภาษาอังกฤษ
เราพักอยู่ในบ้าน ที่ต้องเรียกว่าเป็นของผู้ดีเก่าในชนบทอังกฤษ ด้วยอุณหภูมิภายนอกตอนกลางคืนที่ถือว่าค่อนข้างหนาว จึงมีฮีตเตอร์ให้เราใช้ทั้งในห้องน้ำและในห้องนอนด้วย
ในเช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อเราลงมาที่ห้องอาหารก่อนเวลา ได้พบกับคุณแอนนา เธอแนะนำว่าให้ลองเดินไปชมสวนหลังบ้าน และสูดอากาศบริสุทธิ์
สวนสวยหลังบ้าน
ต้องบอกว่าสวนสวยงามมากๆ สำหรับผู้หญิงตัวคนเดียวมาดูแล สนามหญ้าที่ถูกตัดเรียบเขียวสด มีประตูทางออกด้านหลังที่เป็นชนบท
สวนสวย สนามหญ้าเขียว บ้านงดงาม
และการลงดอกไม้ที่มีสีสันต่างๆ ที่มีตัวบ้านเป็นฉากหลังสอดรับกับความสวยงามของพรรณไม้นานาชนิด ขับให้ทั้งตัวอาคารและสวนงามเด่นขึ้นมา เสริมซึ่งกันและกัน เราเก็บภาพเพลินไปเลย
มีโอกาสแวะเดินไปโบสถ์ที่ปลายซอย พบต้นไม้เปลี่ยนสีที่งดงามสดใสมาก
ใบไม้เปลี่ยนสีที่โบสถ์ข้างที่พัก
หลังจากนั้นจึงเข้ามาที่ห้องอาหาร ซึ่งก็เป็นโต๊ะไม้ยาวแบบชนบท ตกแต่งอย่างสวยงาม อุปกรณ์จานชาม ช้อนส้อม รวมทั้งอาหารที่เธอทำด้วยตนเอง สวยงาม น่าทานมาก
อาหารเช้า
ต้องบอกว่ารสชาติอาหารใช้ได้เลย ขออะไรเพิ่มก็ได้ ขอซอสถั่วเหลือง เธอก็จัดหาให้ ให้ปิ้งขนมปังก็ทำให้ รู้สึกเหมือนมาพักที่บ้านเพื่อนเสียมากกว่า
เมื่อเสร็จจากอาหารเช้าแล้ว เราจึงออกเดินทางไปเที่ยวตามที่เราตั้งใจไว้ตามแผน ที่เราสำรวจไว้ตั้งแต่เมื่อวาน เป็นเมืองเล็ก อยู่ใกล้เมืองที่เราพัก
และจะกลับมาค้างคืนที่โรงแรมแห่งนี้อีกคืนหนึ่ง รวมเป็นสองคืน
จุดแรกที่เราไปแวะของวันนี้คือ Bourton on the Water ซึ่งเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงมาก ในเรื่องบรรยากาศของเมืองชนบทขนาดเล็ก ที่มีลำธารหรือคลองสวยซึ่งน้ำใสมากๆ และได้รับการกล่าวขวัญว่าสะอาด สวยงามเป็นระเบียบอย่างยิ่งเมืองหนึ่งของอังกฤษ อยู่ใจกลางของเมืองเลย
ใบไม้เปลี่ยนสีที่งดงามยิ่ง
เป็นช่วงที่ใบไม้กำลังเปลี่ยนสี เราจึงได้เก็บภาพต้นไม้ ใบไม้ ที่กำลังเป็นสีเหลืองสดใสไปทั้งต้น
มีบางส่วนใบร่วงลงมาที่โคนต้น และอยู่ริมลำธาร เป็นภาพที่สวยงามมาก
แม้กระทั่งใบไม้ที่ร่วงแล้วก็สวยมาก
มีสะพานทอดตัวข้ามลำธารสวยหลายสะพานด้วยกัน แต่ละสะพานก็เหมาะกับการถ่ายภาพ
สะพาน
ไม่ว่าจะถ่ายมุมบนฝั่ง หรือจากบนสะพานเอง
ภาพของนกนางนวลกับป้ายบอกชื่อเมืองก็สวยน่ารักมาก
นกนางนวลและป้ายชื่อเมือง
มี Museum ขนาดเล็ก ว่าด้วยเรื่องรถยนต์ และมีกังหันน้ำแบบโบราณอยู่ติดกัน เป็นมุมที่สวยงาม พร้อมร้านขายของที่ระลึก
Museum น่ารัก
อาคารร้านค้าสองฝั่งถนน ที่ทอดตัวเรียบไปกับริมลำธารหรือคลองกลางเมือง ล้วนได้รับการอนุรักษ์และดูแลเป็นอย่างดียิ่ง
ร้านค้าสองข้างทาง
เป็นความร่วมมือกัน ทั้งตัวประชาชนเองที่อยากรักษาบรรยากาศเก่าของชนบทไว้ ร่วมกับการทำงานของภาครัฐ ที่วางระบบไว้อย่างเข้มแข็ง
ให้การปรับปรุงอาคารหรือทาสีใหม่ต้องสอดคล้องกับบรรยากาศทั้งเมืองรวมถึงการติดป้ายโฆษณา เดินสายไฟต่างๆ ก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี เจ้าของร้านค้าไม่สามารถทำอะไรตามใจฉัน แล้วอ้างสิทธิเสรีภาพเหมือนกับบางประเทศได้
ฤดูใบไม้ร่วงที่สวยงาม
ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนดังกล่าว ก็เพื่อประโยชน์ที่จะเป็นเมืองท่องเที่ยว นำมาซึ่งคุณภาพชีวิตและรายได้ ที่ทำให้ชุมชนอยู่ได้อย่างยั่งยืน
มีนกนางนวลจำนวนมาก รวมทั้งเป็ดนานาชนิด แต่จะพบว่า ไม่มีการให้อาหารกับสัตว์เลี้ยงเหล่านี้ เพราะจะก่อให้เกิดมลพิษในน้ำ และส่งกลิ่นที่ไม่สะอาด
นกนางนวล
ตลอดจนเป็นการไม่ไปรบกวนธรรมชาติการใช้ชีวิตของสัตว์เหล่านี้ ให้นกและเป็ดเหล่านี้ได้หากินเอง มิฉะนั้นก็จะตรงมาหาผู้คนเพื่อรับอาหารกันเป็นประจำ
เราเดินเก็บภาพ เก็บบรรยากาศ มาเรื่อยๆ จนมาสะดุดตากับตู้โทรศัพท์และตู้ไปรษณีย์สีแดงสด เก็บภาพมาฝากแน่นอน
แดงสดจัด
ได้แวะร้านขายขนม ซึ่งเป็นเยลลี่และลูกกวาดสีสันสวยงามมาก จนอดใจไม่ไหว ต้องซื้อมาจำนวนหนึ่ง เอาไว้ทานตอนขับรถ
ร้านลูกกวาดที่ต้องเสียเงินซื้อเพราะอดใจไม่ไหว
มีร้านไอศครีมเจ้าหนึ่ง ซึ่งน่าสนใจว่าเป็นไอศครีมพื้นเพของ Cotswold แต่ที่ต้องประหลาดใจยิ่งก็คือ
ไอศครีมสำหรับสุนัข ซึ่งทำแยกไว้ต่างหาก เราก็ถามว่าคนทานได้ไหม เจ้าของตอบว่า ไม่น่าจะทานนะครับ เราก็เลยไม่ได้ลองไอศครีมสุนัข
Ice Cream for Dog
เดินถัดมาในบรรยากาศที่เย็นสบาย ผู้คนแต่งตัวกันสวยงาม บ้านเมืองร้านรวงสวยงาม ต้นไม้ แม่น้ำลำคลอง สวยลงตัวไปหมด ทำให้เกิดความสุขเป็นอย่างยิ่ง
จำลองเมืองจริงๆลงมา
จุดถัดไปอยู่ในเมืองนี้เอง ก็คือเป็นการจำลองเมืองทั้งหมด ลงมาเป็นขนาดเล็ก โดยจัดลักษณะของบ้าน อาคาร ร้านค้า ถนน ตามของจริงทุกประการ
เมืองจำลอง
เพียงแต่ย่อขนาด ให้เล็กลงกว่าของจริง ส่วนฝีมือนั้นละเมียดละไมมาก ก่อสร้างแล้วเหมือนของจริง ที่เราเพิ่งเดินผ่านมา
ค่าเข้าชมก็ไม่แพง แนะนำว่าควรจะแวะชมเป็นอย่างยิ่ง เพราะมีความสวยงามและน่าทึ่งในฝีมือของการออกแบบ
จำลองได้เหมือนจริงมากๆ
จากนั้นเราก็เดินทางต่อไปยังอีกเมืองหนึ่ง ซึ่งอยู่ใกล้ใกล้ ซึ่งสวยงามมากอีกเช่นกัน คงจะต้องเล่าใน EP.ต่อไป
- 9
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
