9 พ.ย. เวลา 04:56 • ปรัชญา
คำว่า ธาตุรู้ รู้อะไรน่ะ ธาตุนั้นรู้จักดีชั่วเป็นเรื่องราว ดีชั่ว เป็นโคลนตม จิตก็อยู่กับโคลนตม ที่เกิดมาทุกภาพทุกชาติ ที่ว่า ธาตุทั้งสี่เป็นผู้ที่บันทึกไว้ จิตแต่ดวง ก็มีธาตุทั้งสี่ บันทึกเรื่องราวต่างๆ ไปเกิดที่นั้นที่นี้ สะสมบุญกรรมมา ไม่เหมือนกันเลย เมื่อเกิดได้กายมาเป็นมนุษย์ จิตนั้นอาศัยภายในกาย ที่ได้ธาตุทั้งสองมาเป็นมนุษย์ ตั้งต้นกำเนิดให้ได้กายมา ธาตุุทั้งสี่ที่สะสมมาด้วยบุญกรรม ก็มาประกอบ เป็นสังขารมนุษย์ขึ้นมา แล้วธาตุทั้งสี่ ก็ดูดจิต ให้มาอาศัยกายที่ก่อกำเนิดในท้องแม่
พอกายหญิงชายนี้ หลุดจากท้องแม่ปุ๊บ จิตก็ลงจุติ ..เข้าไปสถิตย์อยู่ใกายพ่อแม่เป็นมนุษย์ การได้กายเป็นมนุษย์หญิงชาย หรือ ว่า ไม่เต็มหญิง เต้นชาย ก็มาจากนิสัย ที่เคยสะสมมา ในอดีต
เมื่อจินนั้นมาอาศัยกาย เข่น กายมนุษย์ นั่น ก็เริ่ใต้นใหม่ เรียนรู้ใหม่ การกินการนอน ภาษา ก็ฝึดหัดเริ่มต้นใหม่ จดตำใหม่ เรียนรู้ใหม่ ไปเกิดกับพ่อแม่เป็นใบ้ ..จะเรียนรู้พูดอย่างไร หรือ เกิดหูหนวก ก็ไม่ไม่ได้ยินเสียงพ่อแม่
คราวนี้ จิตที่อาศัยในกายนั้น จะเรียนรู้ รับรู้ จดจำ อะไร ก็ต้องอาศัยวิญญาณทั้งหก ตาเห็นรูป หูได้นินเสียง ส่งไปเป็นคลื่นไปที่สมอง สมองส่งไปที่จิต จิตส่งต่อลงไปที่ธาตุทั้งสี .ที่ีการจดจำ บันทึก .สิ่งไหลลงไปที่ธาตุทั้งสี่ ก็สะกิดสิ่งที่จดจำสะสม เป็นอารมณ์นึกคิด ย้อนกลับสู่จิต เป็นอารมณ์นึกคิด ส่งไปให้จิต จิตก็ส่งกระจายขึ้นไปที่หัว หน้าตา เสมือนเป็นศูนย์รวม ที่หัวมีอะไรบ้าง ตาหูจมูกลิ้นปากกายใจ แล้วสมองก็เป็นเพียงผู้รับรู้ ไปตามอารมณ์นึกคิดต่างๆ
คราวนี้ เรื่องราวของการบันทึกในธาตุุทั้งสี่ เค้าบันทึกอย่างไร บันทึกเป็นสีดำสีม่วง เนื่องด้วย ..โลกนี้เป็นมายากรรม .ด้วยอารมณ์ที่เราใช้ไปยึดไปเอาเข้ามา มีอารมณ์โลภโกรธหลง อารมณ์อยากต่างๆ ไปเอามาเป็นภาระ .ทั้งหนั่นมีการใช้กายวาจาใจ ไปทำให่คนอท่นเค้าทุกข์ ไปเอารัดเอาเปรียบ แม้กานช่วยเหลือ เกื้อกูล ด้วยอารมณ์อยากต่าง อยากให้คนนั้นเป็นเย่างนั้นอย่างนี้ พ่อแม่ทำให้ได้ดีงใจ ก็ไม่พอใจ มันมีการบันทึกตลอด
เรื่องราวนี่ เมือเราปฏิบัติธรรมไป ธรรมท่านก็แสดงให้ดู สอนเป็นภาพ สอนที่ไหน ก็ในกสยเรานั้นแหละ ให้จิตเรา ทำความเข้าใจ กายที่เราอาศัย ..
คราวนี้ เรื่องราวของธาตุทั้งสี่ จิตของผู้ที่ ฝึกหัด สร้างบุญกุศลตามรอยองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จิตของท่านมีแสง ท่านก็ทำกายนิ่งๆๆ จิตเผย ไม่มีอารมณ์นึดคิด จิตมีแสงของธรรม เมื่อกายนิ่ง จิตนิ่งได้ สีที่ติดอยู่กับธาตทั้งสี่ ก็ลอยขึ้นมา อาศัยจิตที่นิ่งๆมีแสง .ส่องไปที่สีที่ธาตุทั้ง ก็มีแสงธรรมหนุนนำ ข่วยกระจายสี..นั้นเป็นเหตุเป็นผล กรรมอะไรหนอที่ติดอยู่กับธาตุทั้งสี่ ..จิตนั้น มีปัญญา เป็นธรรม ก็คลี่คลาย ให้ธาตุทั้งสี่ นั้นบริสุทธิ์ผุดผ่อน เป็นจิตที่มีปัญญาธรรม ที่จะใช้ ไปในการยุตืการเกิดแก่เจ็บตาย
แล้วเรื่องราวของธาตุ ยังต้องไปดู เรื่องราวของธาตุแต่ละธาตุ ธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ .. เรื่องราวของสีแสง ที่เกิดขึ้น ก็ต้องไปเรียนอีกมากมายก่ายกอง เค้าจึงว่า กว่า จะถึงเส้นชัย พระอรหันต์ ต้องใช้เวลาสะสมกันมา สร้างบุญกุศลบารมี เป็นอสงไขยๆๆกว่าจิต จะพ้นบ่วงกรรม สลัดกรรมนำเกิดออกไปได้ .
จิตทีเป็นอินทร์เป็นพรหม..ท่านก็ยังต้องมาเกิด เวลามีการสร้างบุญกุศล มีพระสูงมาสอนธรรม บรรยายธรรม จิตของท่านมีแสงรัตนะ ทวยเทพที่ท่านมาฟัง ท่านก็ได้สัมผัส รับรู้จดจำ บันทึกที่ธาตุทั้งสี่ของท่าน เมื่อเกิดมาเป็นมนุษย์ ท่านก็สามารถต่อ สานต่อ การสร้างบุญกุศลได้
เมื่อเจอเจอกัลยาณมิตร สะกิดจิต เหมือน พระสารีบุตร เจอพระอัสสชิ เพียงคำว่า สิ่งต่างๆไหลมาแต่เหตุ ก็เข้าไปสะกิดจิตของท่านได้ ด้วยสะสมบุญกุศลบารมี มากับธาตุทั้งสี มีปัญญาธรรมสะสมมา หากเป็นเรานะหรือ คำพูดแต่นี่ จะเข้าใจอะไรได้ . แล้วไปปฏิบัติจนบรรลุเป็นพระอรหันต์.อัครสาวกพระพุทธเจ้า
โฆษณา