9 พ.ย. เวลา 05:25
..สงสาร จิตตัวเอง เมื่อไม่มีกายเป็นมนุษย์ให้อาศัย..
รักตัวเอง หมายถึง รักจิตของตัวเอง ทีหลงเวียนว่ายตายเกิด เกิดเป็นหมาแมว ช้างเสือชะนีค้าง รูปทีเห็นด้วยสายตา รูปที่เป็นนามธรรม ไม่เห็นด้วยสายตา สัตว์นรกเปรตอสุรกาย จิตไปอยู่ในรูปนั้นมีกรรมมีแต่ทุกข์ทรมาน ยาวนาน รูปที่มีกายเป็นบุญหนุนนำ พนุงด้วยบุญกุศล ที่สร้างสะสมมา ก็รูปเทพยดาอินทร์พรหม แต่ก็ต้องมาเกิด อาศัยกายพ่อแม่เป็นมนุษย์ มาเริ่มต้นสะสมใหม่ หากพลาด ก็ไปอยายได้ เมื่อเรารู้จักเรื่องราวนี้ เราก็รักจิตของเราสร้างบุญกุศลบารมี หนี เรื่องราว เหตุที่จะไปลงอบายภูมิ
เมื่อเรารู้ว่า ธาตุทั้งสี่ บันทึกกรรมดีชั่ว เนื่องด้วยเราใช้อารมณ์ นึกคิด ไปทางใด ทางราคะ ตัณหา ทะเยอทะยาน เบียดเบียนคนนั้นนี้ ที่มีกิริยาท่าทาง ตามอารมณ์ต่างๆ หรือ เอาวิญญาณทั้งหก ใชไปทางที่ไม่ถูก เข่นตาไปมิงคนนั้นคนนี้ไม่ดี ตำหนิติเตียน ข้าดีคนเดียว .นั้นมันอารมณ์ปรุงแต่งหลอกเรา ให้ว่าตัวเองดีเลิศเลอประเสริฐสี ..เราก็ต้องรู้จัก มีสติเท่าทัน ยับยั้งอารมณ์เยี่ยงนั้น เพราะมันเป็นสีดำสีม่วง สีเวรกรรม ที่จิตเราจะต้องชดใช้เป็นทาสของกรรม ไปสู่สถานที่ทุกข์ สัตว์อบาย
เราก็สงสารจิตตัวเอง .โอ้ว..ไปอย่างนั้น ทุกข์ทรมาน เราก็มาทางนี้ เห็นพระกว้กมือเรียก มาทางนี้ๆ ชี้ทางให้ไปสวรรค์ ไปถึงพระนิพพาน
ท่านชี้ให่สร้างบุญกุศล ชี้รอยทั้งสี่ รอยของพระให้ไปฝึกหัด ยินเดินนั่งนอน ฝึกให้กายนิ่งๆ จิตนิ่ง นำธาตุทั้งสองของคุณบิดามารดา ที่ได้มาชาตินี้ (เป็นหมาแมวมันทำไม่ได้) นำมาเสร้างบุญบารมี เดินหนีกรรม ยืนเดินนั่งนอนภาวนาพุทโธ จิตดวงเดียว ไม่่อะไรปรุงแต่ง ไม่ไฟเผาผลาญ ไฟราคะตัณหาต่างๆ มันเผากายทรมานมั้น เหมือนกิ้งกื่อถูกน้ำร้อน แต่จิตก็รับรู้ไฟไม่ได้ .นั่นแหละ เค้าเรียกว่า กรรมปิดบังจิต ก็สร้างกรรมต่อไป
เมื่อได้ มีโอกาส พบเห็นจิตที่ทุกข์ทรมาน เป็นเปรตอสุรกาย สัมภเวสี ..สัมผัสรับรู้ ความทุกข์ทรมานของเค้าได้ เราก็กลัว .เราจะไปอาศัยในรูปนั่นมั้ย .บางทีไปงานศพ ..มายืนเรียงกันเป็นแถว ตัวดำๆ มายืนใกล้ มันแผ่ความร้อน แสบร้อน เหมือนเดืนกลางแดดในทะเลทราย หาความเย็นไม่ได้ ..เอ. สงสัยเค้ามาบอกว่า อย่าไปอยู่อย่างเค้านะ . อุตส่าห์มาขอบุญกุศล ..เราก็ ..สร้างบุญกุศล จะได้ไม่อยู่กับผู้ที่มีขอบุญ มันทุกข์ทรมาไม่มีหยุดเลย .สงสารจิตของตัวเอง
โฆษณา