10 พ.ย. เวลา 04:49 • ข่าว

คนไทยที่ดื่มนมวัว แล้วท้องเสียถ่ายเหลว ส่วนใหญ่ไม่ใช่การแพ้นมวัว

จากดราม่าที่กำลังเป็นไวรัลกันทั้งเมืองในขณะนี้ เรื่องที่สังคมเกิดการเข้าใจผิด จนนำไปสู่การด้อยค่าการดื่มนมวัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งนมวัวของไทย
1
ซึ่งเป็นผลมาจาก Influencer บางท่าน ที่อาจจะมีความรู้ความเข้าใจไม่ลึกซึ้ง ไม่ครบถ้วนถูกต้องเพียงพอ เกี่ยวกับเรื่องการผลิตนมวัวของไทย ไปจนถึงเรื่องความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการแพ้นมวัว
ถือเป็นบทเรียนครั้งสำคัญ ทั้งของสังคมไทยเอง และของ Influencer ว่า เราคงต้องกลั่นกรองพิจารณากันอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าเป็นความรู้ทางวิชาการ ซึ่งมีหลักการที่ชัดเจน ก่อนที่จะเชื่อ หรือก่อนที่จะนำความรู้ความเข้าใจเหล่านั้นไปเผยแพร่ต่อสาธารณะ จนเกิดการยึดถือปฏิบัติ
แต่วันนี้ ในฐานะเป็นหมอผู้เชี่ยวชาญทางด้านโรคภูมิแพ้ จะขออนุญาตกล่าวถึงเรื่องการแพ้นมวัวที่ถูกต้องดังนี้
1) การแพ้นมวัว (Cow’s milk Allergy) ถือว่าเป็นการแพ้อาหาร (Food Allergy) ชนิดหนึ่ง
2) การแพ้อาหาร เป็นหนึ่งในการแพ้ของ 5 อวัยวะหลัก ที่สามารถเกิดโรคภูมิแพ้ได้
3) โรคภูมิแพ้ ประกอบด้วย
3.1 ระบบทางเดินอาหาร ได้แก่ การแพ้ยา แพ้อาหาร
3.2 ระบบทางเดินหายใจส่วนต้น ได้แก่ จมูก ที่เราเรียกกันว่า แพ้อากาศ
3.3 ระบบทางเดินหายใจส่วนปลาย ได้แก่ หลอดลม ที่เราเรียกว่าหอบหืด หรือหลอดลมไวเกิน หรือหลอดลมหดตัว
3.4 ระบบผิวหนัง ได้แก่ ผื่นแพ้ หรือลมพิษบางชนิด
3.5 ลูกตา ได้แก่ เยื่อบุตาอักเสบจากโรคภูมิแพ้
4) อาการภูมิแพ้ของทั้ง 5 ระบบอวัยวะดังกล่าว ถือว่าเป็นโรคเดียวกันคือ โรคภูมิแพ้
5) โรคภูมิแพ้มีสาเหตุเกิดจาก ภูมิต้านทานขยันทำงานเร็วเกิน ทำงานมากเกินไป โดยไม่สมเหตุสมผล
6) โดยปกติแล้ว ภูมิต้านทานจะทำงานต่อสู้ขับไล่สิ่งที่เป็นอันตรายกับร่างกายมนุษย์ เช่น แบคทีเรีย ไวรัส แต่จะไม่ทำการขับไล่ต่อสู้กับสิ่งที่ไม่เป็นอันตราย อาทิเช่น อากาศ อาหารชนิดต่างๆ เป็นต้น
3
7) กล่าวเฉพาะเรื่องการแพ้นมวัว กรณีที่เป็นโรคภูมิแพ้ของจริง ก็คือภูมิต้านทานของร่างกายต้องมีปฏิกิริยาไวเกิน มองว่านมวัวเป็นสิ่งที่เป็นอันตรายเป็นโทษ เช่นเดียวกับแบคทีเรีย ไวรัส แล้วก็ทำการส่งสัญญาณให้เจ้าตัวคนนั้น มีอาการที่ไม่สบายหรือผิดปกติ เพื่อที่จะไม่ดื่มอีก เช่น อาจจะมีผื่นแพ้ ลมพิษขึ้น ปากบวม ตาบวม ปวดท้อง อาเจียน ไปจนกระทั่งถึงขั้นหลอดลมหดตัว จับหอบ และอาจเสียชีวิตได้
1
8) แต่คนไทยส่วนหนึ่ง จะมีอีกลักษณะหนึ่ง ที่ถ้าดื่มนมวัวแล้ว อาจจะมีอาการท้องอืดและมีถ่ายเหลว ในกรณีนี้ ส่วนใหญ่แล้วไม่ใช่โรคภูมิแพ้หรือการแพ้นมวัวที่แท้จริง
1
9) หากแต่อาการถ่ายเหลวดังกล่าว เกิดจากการที่คนทางเอเชียโดยเฉพาะคนไทย ขาดเอนไซม์แลกเตส (Lactase) ในลำไส้สำหรับย่อยน้ำตาลแล็กโตส (Lactose) ที่มีอยู่ในนมวัว จึงเรียกอาการดังกล่าว ซึ่งไม่ใช่โรคภูมิแพ้หรือโรคแพ้นมวัวจริง เรียกว่ามีภาวะ Lactose Intolerance
1
10) Lactose Intolerance ก็คือเมื่อดื่มนมวัวซึ่งมีน้ำตาลแล็กโตสแล้วย่อยไม่ได้ ทำให้น้ำตาลแล็กโตสนั้น ผ่านเข้าไปจนถึงลำไส้ใหญ่ และดึงดูดน้ำเข้ามาหาตัวเอง ทำให้อุจจาระบริเวณลำไส้ใหญ่เป็นของเหลว จึงเกิดอาการถ่ายเหลวหรือท้องเสียขึ้น
1
11) จะเห็นได้ว่า การถ่ายเหลวดังกล่าวเกิดจากการไม่มีเอนไซม์ย่อยน้ำตาลแล็กโตส ไม่ได้เกี่ยวข้องกับภูมิต้านทานทำงานขยันเกินไป ตามคำจำกัดความของโรคภูมิแพ้ จึงไม่ถือว่าเป็นโรคภูมิแพ้ และถือว่าไม่ใช่การแพ้นมวัว หากแต่เป็นการขาดเอนไซม์ในการย่อยน้ำตาลในนมวัว
12) การดูแลรักษาจึงแตกต่างกัน ผู้ที่ขาดเอนไซม์ดังกล่าว ถ้าค่อยค่อยดื่มนมวัว ทีละเล็กทีละน้อย ให้ร่างกายค่อยค่อยปรับตัว ก็จะสามารถสร้างเอนไซม์ขึ้นมาย่อยน้ำตาลในนมวัวได้ ก็จะทานนมวัวได้ในที่สุด หรืออาจเลือกทานนมวัวที่นำน้ำตาลแล็กโตสออกไปแล้ว
ส่วนคนที่แพ้นมวัวจริง จะต้องใช้วิธีตรงกันข้ามคือ ต้องหลีกเลี่ยงเป็นหลักอย่างต่อเนื่องยาวนาน ในเด็กเล็กๆก็อาจจะมีโอกาสหายและกลับมาดื่มได้
1
โดยในระหว่างที่หลีกเลี่ยงนมวัว ก็เปลี่ยนไปรับโปรตีนทางอื่น เช่น โปรตีนจากพืช หรืออาจจะดื่มนมที่ย่อยสลายโปรตีนของนมวัวที่เป็นตัวกระตุ้นภูมิแพ้ รวมถึงอาจจะดื่มนมที่ทำมาจากถั่วเหลืองหรืออัลมอนด์ทดแทนได้
กล่าวโดยสรุป
คนไทยส่วนใหญ่ที่ดื่มนมวัว แล้วถ่ายเหลวท้องเสีย มักจะไม่ได้เป็นโรคภูมิแพ้คือแพ้นมวัวจริง แต่เป็นภาวะคนขาดเอนไซม์ในการย่อยน้ำตาลในนมวัว
โฆษณา