10 พ.ย. เวลา 17:59 • หุ้น & เศรษฐกิจ

Risk Management ที่นักลงทุนส่วนใหญ่ “ไม่ทำ” แต่สำคัญที่สุดในการอยู่รอด

ถ้าถามว่าสิ่งไหนแยก “นักลงทุนที่อยู่รอดในตลาด” ออกจาก “นักลงทุนที่หายไปจากตลาด” คำตอบคืออย่างเดียวเลยคือ การบริหารความเสี่ยง (Risk Management)
หลายคนสนใจผลตอบแทน สนใจหุ้นตัวไหนจะขึ้น ซื้อทองตรงไหน หรือถือคริปโตอะไร แต่สิ่งที่คนส่วนใหญ่ “มองข้าม” คือการวางแผนว่า…ถ้ามันไม่เป็นไปตามที่หวัง เราจะเสียหายได้มากที่สุดเท่าไหร่?
บทความนี้จะพาไปดูว่า นักลงทุนส่วนใหญ่พลาดตรงไหน และเราควรปรับอย่างไรเพื่ออยู่รอดยาว ๆ
1.ไม่กำหนด Cut Loss ชัดเจน
ปัญหาอันดับหนึ่งของนักลงทุนคือ ปล่อยให้ขาดทุนมาก แต่รับกำไรนิดเดียว เวลาราคาลง เรามักปลอบใจตัวเองว่า “เดี๋ยวมันก็ขึ้นกลับมาแหละ” แล้วถ้ามันไม่ขึ้นล่ะเราจะทำยังไง?
วิธีแก้:
กำหนดจุดตัดขาดทุนก่อนกดซื้อเสมอ
อย่าเลื่อนจุดตัดขาดทุนตามอารมณ์
ถ้าหลุดระดับที่ตั้งไว้ ให้ตัดตามระบบ
2.ลงทุนหนักเกินไปในสินทรัพย์เดียว
หลายคนเชื่อมั่นเกินไป จนลงเงิน 50–100% ในหุ้นตัวเดียว หรือเหรียญเดียว แบบ “ทุ่มหมดตัว”
ปัญหาคือ ถ้าผิดทางครั้งเดียว อาจจบพอร์ตทั้งชีวิตได้
วิธีแก้:
ไม่ควรลงเกิน 10–20% ของพอร์ตในสินทรัพย์เดียว
กระจายความเสี่ยงตามสินทรัพย์: หุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ ทองคำ กองทุนตราสารหนี้ ฯลฯ
3.ไม่มี Position Sizing
เวลาซื้อส่วนใหญ่คือซื้อแบบตามใจ เช่น 1 แสนก็ใส่ 1 แสนเลย หรือมีเท่าไหร่ใส่เท่านั้น
แต่นักลงทุนระดับมืออาชีพ เขาจะคำนวณเสมอว่า…
ถ้าขาดทุนตามจุด Cut Loss จะเสียไม่เกินกี่ % ของพอร์ต
เช่น บางคนใช้กฎ เสี่ยงครั้งละไม่เกิน 1–2% ของพอร์ต
4.ไม่ตั้ง Stop-Loss หรือ Stop-Limit
นักลงทุนหลายคนซื้อแล้วปล่อยยาว ไม่มี Stop อะไรทั้งสิ้น
ถ้าเจอข่าวร้าย ตื่นมาพอร์ตอาจแดงทั้งวันแบบไม่ทันตั้งตัว
วิธีแก้:
ใช้ Stop-Loss เพื่อป้องกันขาดทุนหนัก
หรือใช้ Trailing Stop เพื่อ "ล็อกกำไร"
5. ไม่มีแผนรับมือ Worst Case Scenario
นักลงทุนส่วนใหญ่มักคิดถึงกำไร แต่ไม่คิดถึงกรณีเลวร้ายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น.
ถ้าหุ้นที่ถืออยู่เจอข่าวงบการเงินพัง มีปัญาหาจะทำอย่างไร
ถ้าคริปโตถูกเทขายทั้งตลาดล่ะ จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
ถ้าดอลลาร์แข็งจนกระทบสินทรัพย์อื่นผลกระทบจะมากน้อยแค่ไหน
นักลงทุนที่อยู่รอด คือคนที่เตรียมแผนไว้ล่วงหน้าเสมอ ว่า scenario ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต มันไม่แน่นอนเพราะมันเป็นไปได้ทุกทิศทาง
6. ไม่ตรวจสอบอารมณ์ตัวเองเวลาลงทุน
หลายครั้งพอร์ตการลงทุนพังไม่ใช่เพราะแผนไม่ดี แต่เพราะอารมณ์
กลัวพลาดเลยรีบซื้อ โดยไม่วางแผนและคิดไตร่ตรองให้รอบครอบ ว่าสถานการณ์นี้สามารถลงทุนได้หรือไม่
กลัวขาดทุนเลยไม่ยอม Cutloss
เห็นเพื่อนได้กำไรเลยทุ่มตาม
ดีใจมากจน Overtrade
การลงทุนที่ดีต้อง “ควบคุมอารมณ์” ให้ได้มากกว่าควบคุมกราฟ
7. ไม่ยอมรับว่าตลาดคาดเดาไม่ได้
นักลงทุนส่วนใหญ่เชื่อว่าตัวเองเดาถูก
แต่ความจริงคือ… ตลาดคาดเดาไม่ได้ 100%
Risk Management คือสิ่งเดียวที่เราควบคุมได้
คุณควบคุมผลลัพธ์ไม่ได้ แต่คุณควบคุม “ความเสียหายสูงสุด” ได้เสมอ
Risk Management ไม่ใช่เรื่องเสริม แต่คือ “หัวใจของการอยู่รอด”
คุณไม่จำเป็นต้องชนะทุกครั้ง
แต่คุณต้องอยู่รอดให้ได้นานที่สุด
สุดท้าย คนที่อยู่ในตลาดนานพอ คือคนที่กำไรเสมอ
ท่านใดสนใจที่จะสมัครสมาชิกเพื่อรับบทวิเคราะห์ที่ใช้ในการเทรด และสัญญาณการเทรด กดลิงค์ข้างล่างนี้เพื่อทำการสมัคร👇
โฆษณา