Eudaimonia ของซิกเว่ เบรกเก้
Eudaimonia เป็นคำปรัชญาของอริสโตเติ้ลในการดำรงชีวิตในฐานะมนุษย์ที่เกิดมาครั้งเดียว มีความหมายว่า เราควรจะดำรงชีวิตอย่างมีคุณค่า ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่จริงๆ (live life at the fullest) ใช้ชีวิตให้สอดคล้องกับศักยภาพของตัวเอง เพื่อที่จะไม่ต้องเสียดายที่เกิดมา อริสโตเติ้ลถึงกับสอนว่าเป็นเป้าหมายสูงสุดในการเป็นมนุษย์เลยด้วยซ้ำ
แล้วการใช้ชีวิตแบบ Eudaimonia ในการทำงานของโลกปัจจุบันนั้นคืออะไร….
ผมได้มีโอกาสสนทนากับคุณซิกเว่เมื่อวันก่อนถึงบทบาทใหม่ในฐานะที่เป็นซีอีโอกลุ่มทรู ในวัยหกสิบกลางนั้นดูท้าทายเป็นอย่างมากสำหรับงานที่ยากและท้าทายขนาดนั้น แต่ซิกเว่ก็ดูมีพลัง สนุก และอยากทำอะไรเต็มไปหมด
ซิกเว่เล่าว่า มีสถิติถึงซีอีโอทั่วโลกส่วนใหญ่จะมีอายุงานประมาณ 4 ปีก็จะหมดแรง เพราะงานซีอีโอเป็นงานที่หนัก แบกความรับผิดชอบสูงมาก แต่ซิกเว่เป็นซีอีโอต่างกรรมต่างวาระ ต่างบริษัทตั้งแต่ไทย อินเดีย จนถึงบริษัทระดับโลกอย่างเทเลนอร์มา 18 ปีแล้ว
อะไรที่ขับเคลื่อนซิกเว่ ทำให้เขายังมีพลังอยู่ตลอดเวลา เมื่อเข้าสู่บั้นปลายชีวิตในอีกสิบยี่สิบปีข้างหน้า มีอะไรที่มองย้อนมาแล้วเขาจะไม่เสียใจที่ทุ่มเทชีวิตให้กับงานที่หนักและแบกภาระหน้าที่ความรับผิดชอบขนาดนี้
ซิกเว่ตอบว่ามีสามอย่างที่เขาน่าจะภูมิใจเมื่อมองย้อนกลับมาจากอนาคต และน่าจะเป็นคำตอบว่าทำไมเขาถึงยังทำงาน ยังทุ่มเทและยังสนุกอยู่ในตอนนี้ ซิกเว่ตอบว่าไม่ใช่เพราะตัวเลข หรือเป้าหมายกำไรอะไรทั้งสิ้น แต่เป็นเรื่องที่ใหญ่กว่านั้นมาก
อย่างแรกคือ เขาจะไม่เสียใจเลยในทุกบทบาทที่ทำมาเพราะเขา “do my best” หรือทำอย่างเต็มที่ทุกครั้ง ไม่เคยไม่ใส่เต็ม และไม่เคยสงสัยในตัวเองว่าทำเต็มที่หรือไม่ ซึ่งเป็นคำตอบเดียวกับที่ผมถามคุณบุญคลี ปลั่งศิริ อดีตซีอีโอผู้ที่ได้รับการยอมรับนับถือในวงกว้างว่าจะแนะนำอะไรให้กับเด็กรุ่นใหม่ คุณบุญคลีก็บอกว่าให้ทำแต่ของดี ทำให้ดีที่สุด ถ้าไม่ดีอย่าทำอย่างเด็ดขาดแล้วจะไม่เสียใจเลยเมื่อเวลาผ่านไป
อย่างที่สองก็คือ เขาจะภูมิใจกับชีวิตที่ผ่านมาเพราะเขาได้สร้างความแตกต่าง (make the difference) ให้กับองค์กรที่เขาอยู่มาโดยตลอด ตอนที่ทำงานกับเขาที่ดีแทค ซิกเว่สนุกกับการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมองค์กร ทุ่มเทกับการฟื้นฟูบริษัทที่แทบจะไม่มีทางรอดจนเติบใหญ่ วันที่เขาเดินเข้ามากับวันที่เขาออกไป บริษัทได้เปลี่ยนอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ และไม่ใช่เฉพาะกับดีแทคแต่เป็นทุกที่ที่เขาเข้าไปนำทัพมาตลอด
อย่างที่สามก็คือ เขาได้สร้างคน (coach people to their fullest potential) เขาภูมิใจกับผลผลิตที่เขาได้สร้างคนเก่ง พัฒนาให้ลูกน้องเก่งขึ้นมาก เขาชอบเรียกตัวเองว่าเป็นโค้ชด้วยซ้ำ เพราะโค้ชไม่ต้องเล่นเอง โค้ชมีหน้าที่ที่ทำให้ทีมชนะด้วยการทำให้นักกีฬาเก่งขึ้น ใช้ศักยภาพตัวเองอย่างเต็มที่ ซึ่งผมเองก็เป็นหนึ่งในผลผลิตของคุณซิกเว่เพราะรู้เลยว่าตัวเองพัฒนาขึ้นมากเพราะซิกเว่คอยแนะ คอยสอน คอยให้โอกาส และก็มีอีกหลายคนที่คงรู้สึกคล้ายกัน
สามอย่างนี้เป็นสิ่งที่ทำให้คุณซิกเว่ยังสนุกและทุ่มเทกับการเป็นซีอีโอ งานที่หนักและเผาพลังงานมากที่สุดงานหนึ่ง แต่คุณซิกเว่ดูจะมีพลังเพิ่มขึ้นด้วย และก็คงจะตรงกับที่อริสโตเติ้ลแสวงหา
เพราะเมื่อใดที่เรามีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเอง เราก็จะสามารถใช้ศักยภาพที่มีสร้างตำนานจนเมื่อช่วงท้ายของชีวิตก็จะไม่เสียดายที่เกิดมาและรู้สึกว่าตัวเองได้ทำเต็มศักยภาพของเราแล้ว
Eudaimonia ของใครหลายคนก็น่าจะอยู่แถวๆการที่ทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อมีโอกาส ทำเพื่อให้มีผลกระทบเชิงบวกกับผู้อื่นในวงกว้าง และทำเพื่อสร้างคนรุ่นใหม่ของสังคม ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหนหรืองานอะไรก็ตาม
เพื่อให้พอละครชีวิตของแต่ละคน ไม่ว่าจะเล่นบทบาทอะไรเรื่องไหน เมื่อใกล้จบละครนั้นแล้วก็จะไม่เสียดายที่เกิดมาอย่างแน่นอน …
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
