12 พ.ย. เวลา 06:00 • ข่าวรอบโลก

สิงคโปร์ชาติแรก เก็บ “ภาษีเชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน” จากผู้โดยสาร

สิงคโปร์เตรียมเก็บ “ภาษีเชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน” จากผู้โดยสารเครื่องบิน โดยผู้ที่เดินทางระยะไกลจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มอีกคนละ 260-1,000 บาท
สำนักงานการบินพลเรือนสิงคโปร์ เปิดเผยว่า เตรียมดำเนินการจัดเก็บ “ภาษีเชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน” โดยอัตราภาษีเชื้อเพลิงจะแตกต่างกันไปตามเส้นทางและชั้นโดยสาร
ผู้โดยสารชั้นประหยัด หรือชั้นอีโคโนมี (Economy) และพรีเมียมอีโคโนมี (Premium Economy) ที่เดินทางในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนจะจ่ายเพิ่ม 1 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 25 บาท ขณะที่เที่ยวบินระยะไกลไปยังทวีปอเมริกา จะมีค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 10.40 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 260 บาท
เครื่องบินโดยสารในสิงคโปร์ (แฟ้มภาพ)
ส่วนผู้โดยสารชั้นธุรกิจ (Business Class) และชั้นหนึ่ง (First Class) จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมที่อาจสูงสุดถึง 41.60 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือ 1,000 บาท สำหรับเที่ยวบินระยะไกล
โดยสิงคโปร์จะเริ่มบังคับใช้มาตรการภาษีดังกล่าวกับตั๋วโดยสารที่จำหน่ายตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2026 สำหรับเที่ยวบินที่ออกเดินทางจากสิงคโปร์ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. ปีเดียวกัน เป็นต้นไป
แต่มาตรการนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารที่แวะเปลี่ยนเครื่องที่สิงคโปร์แต่อย่างใด ส่วนเที่ยวบินขนส่งสินค้าจะถูกเก็บภาษีในอัตราส่วนตามน้ำหนักที่คิดเป็นกิโลกรัม
แม้ข้อมูลจากคณะกรรมาธิการยุโรปจะระบุว่าอุตสาหกรรมการบินจะปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพียง 1.2% ของโลก แต่การลดคาร์บอนในอุตสาหกรรมนี้ถือเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมาก เนื่องจากความต้องการเดินทางที่สูงขึ้น สวนทางกับต้นทุนเชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน หรือ SAF ที่ยังสูงลิ่ว และมีปริมาณการผลิตที่จำกัดมาก
ข้อมูลจากสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) พบว่า แม้การผลิตเชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืนจะขยายตัวถึง 2 เท่าเมื่อปี 2024 แต่ก็ยังคิดเป็นสัดส่วนเพียง 0.3% ของเชื้อเพลิงเครื่องบินไอพ่นทั้งหมด
นอกจากนี้ ความเคลื่อนไหวของของสิงคโปร์ยังเกิดขึ้นในช่วงเดียวกับการประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติ COP30 ที่บราซิล และแม้ตัวเลขภาษีจะดูสูง แต่ก็ยังต่ำกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ในตอนแรก ซึ่งรัฐบาลเคยประเมินไว้ที่ 3-16 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือ 50 บาท ถึง 400 บาท แต่เนื่องจากต้นทุนเชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืนในตลาดโลกปรับตัวลดลง จึงทำให้สามารถกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่าคาดได้
ส่วนเงินจากค่าธรรมเนียมก้อนนี้จะถูกนำไปใช้ซื้อเชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน ซึ่งส่วนใหญ่ผลิตจากวัสดุชีวภาพทางการเกษตร โดยสิงคโปร์ตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนการใช้เชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืนจาก 3% เป็น 5% ในปี 2030
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
โฆษณา