ทำดีเสมอตัว
คนที่ทำงานลักษณะทำดีเสมอตัวนี่ จะมีกำลังใจพัฒนาหรือทำอะไรใหม่ๆ นี่ไม่ง่ายนะครับ ….
มีงานบริการหลายอย่างในไทยที่ทำดีก็ไม่ได้มีใครชมอะไรเท่าไหร่นัก แต่ผิดพลาดขึ้นมารับรองโดนด่าหูดับตับไหม้ ส่วนใหญ่ก็เพราะความคาดหวังและความเคยชิน ถ้าไม่ไปเมืองนอกแล้วรู้สึกถึงประสบการณ์ที่ห่วยกว่า มีการเปรียบเทียบถึงจะนึกขึ้นได้ แต่กลับมาไทยก็จะลืมๆกันไป
ผมเคยอยู่ในการให้บริการแบบนี้อยู่สองครั้ง การให้บริการโทรคมนาคมกับการธนาคารก็มีลักษณะนั้น ถ้ามีเน็ตให้ใช้เร็วๆ ไม่สะดุดโทรออกได้ปกติก็ไม่มีใครนึกถึง ถ้าระบบธนาคารโอนเงินได้ทันทีไม่สะดุด ก็ไม่มีใครสนใจอะไร แต่อย่าล่มอย่าหนืดละกัน รับรองโดนด่าติดเทรนด์ทวิตเตอร์แน่ ไม่เกี่ยวกับว่าจะล่มน้อยที่สุดในโลก หรือเร็วสุดในเอเชียก็ตาม
แต่เวลาไปเมืองนอกหลายประเทศก็จะคิดถึงระบบโทรคมนาคมกะธนาคารไทย แถมระบบรักษาพยาบาลถ้าไปเจ็บไข้ได้ป่วยว่าดีกว่าจริง ผมเพิ่งไปยุโรปนี่เห็นชัดมากๆ
แต่มีระบบสาธารณูปโภคอีกประเภทที่สุดยอดแห่งการทำดีเสมอตัว ไปเมืองนอกก็จะไม่รู้สึกอะไร ถ้าไม่เจอกันจั๋งๆกับตัวเองโดยบังเอิญ
ผมไปอิตาลีรอบนี้เมื่อสองอาทิตย์ก่อนเจอเข้าพอดี ไปซื้อรองเท้าตรงบันไดสเปนแล้วไฟดับ พนักงานร้านบอกให้กลับมาใหม่สามชั่วโมง กลับมาก็ยังดับอยู่ ไปๆ มาๆ เขาบอกว่าที่นี่ดับบ่อยมากและปกติใช้เวลาครึ่งวันกว่าจะกลับมา
ก็เลยนึกถึงระบบไฟฟ้าเมืองไทยขึั้นมาว่ามีดับบ้าง ไม่บ่อยแต่ซ่อมเร็ว ติดเร็วกว่าเยอะมากๆ
ผมมาขึ้นเวทีกับผู้บริหารของการไฟฟ้านครหลวง (MEA) วันนี้โดยไม่ได้คาดหวังอะไรจากคำว่ารัฐวิสาหกิจที่มีภาพช้าๆ โบราณอยู่ในหัว แต่พอได้ฟังความคิดและสิ่งที่ MEA ทำและกำลังจะทำแล้วก็อดประหลาดใจไม่ได้
ผมไม่เคยเจอรัฐวิสาหกิจที่พูดถึงลูกค้าเยอะขนาดนี้ และเข้าใจความต้องการของลูกค้า เตรียมรับมือกับโลกใหม่ได้ดีเหมือนกับเอกชนที่เก่งๆ ผมสงสัยถึงขนาดไปถามน้องๆว่าทำไมที่นี่ถึง customer centric จัง ก็ได้ความประมาณว่าเป็นนโยบายและความเอาจริงเอาจังของผู้บริหารระดับท้อปมาหลายปีแล้ว ก็เลยพอเข้าใจได้
MEA ดูแลสามจังหวัดหลัก กรุงเทพ สมุทรปราการและนนทบุรี ดูตั้งแต่ลูกค้าบ้านเรือนจนลูกค้าบริษัท นิคมต่างๆ เอาไฟจาก EGAT มาปรุงให้เกิดคุณภาพที่เสถียร สม่ำเสมอแล้วจ่ายต่อ พัฒนาไปไกลมากตั้งแต่ใช้ทั้ง AI ทั้งจิตวิญญาณการให้บริการของพนักงาน รู้เร็ว ซ่อมเร็ว มี app ติดต่อได้หลายช่องทาง 24 ชั่วโมง เตรียมเรื่องไฟสะอาดไว้พร้อมมาก เป็น green energy มีแผนห้าปีที่ฟังแล้วก็เออแฮะ เข้าใจบริบทโลกใหม่มากๆ
ก็เลยนึกไปถึงว่า ความเข้มแข็งของ MEA นั้นอาจจะเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของประเทศก็ได้ ถ้าได้รับการสนับสนุนอย่างจริงจัง
เพราะว่าในโลกใหม่ที่ประเทศไทยต้องการการลงทุนจากต่างประเทศมากๆ เพราะเครื่องยนต์เก่าดับไปหลายเครื่องแล้ว การได้การลงทุนจากการเติบโตของ AI นั้น เราคงไม่ได้พวกส่วนสติปัญญาการพัฒนา model อะไรเท่าไหร่ แต่น่าจะได้ส่วนท้ายที่เป็น data center เป็นหลักที่ต้องการพลังงานไฟมากและเสถียร แถมต้อง green อีกด้วย
ผมคุยกับลูกค้า MEA ที่ทำ data center คนหนึ่งเขาก็บอกว่าไทยกำลังได้เปรียบ สิงคโปร์ มาเลย์ เพราะเรามีไฟเยอะ เสถียร และราคาไม่แพง และได้เปรียบเวียดนามเพราะเราเสถียรกว่า ก็เป็นโอกาสประการแรก
ประการที่สองก็คือบริษัทใหญ่ๆที่มาตั้งโรงงานในไทยกับนิคมอุตสาหกรรมยุคนี้ โดยเฉพาะบริษัทไฮเทคทั้งหลาย เรื่องแรกที่เขาต้องมีเลยก็คือไฟฟ้าที่เสถียรและสะอาด เป็น dealbreaker กันเลยทีเดียว ไฟฟ้าก็เลยกลายเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักของการลงทุนจากบริษัทเหล่านี้
ประการสุดท้ายก็คือการส่งออกไปตลาดอย่างยุโรปหรืออเมริกาที่นับวันจะต้องมี green component ว่าผลิตแล้วมีคาร์บอนเท่าไหร่ สะอาดหรือไม่ การที่รัฐวิสาหกิจไทยริเริ่มในการผลิตและส่ง green energy ได้ก็จะทำให้การส่งออกสะดุดน้อยลง และยังพอรักษาสถานภาพการส่งออกไว้ได้บ้างเมื่อรวมกับปัจจัยอื่น
ไฟฟ้าที่ดูเหมือนเป็นเรื่องทำดีเสมอตัว จะกลายเป็นยุทธศาสตร์เอา เมื่อมานั่งคิดดีๆ
ผมก็เลยอยากให้กำลังใจทาง MEA ที่ผมเปรียบว่าทำหน้าที่เหมือนปิดทองหลังพระอยู่ว่า บทบาท MEA นั้นจะไม่ใช่แค่ทำดีเสมอตัวอีกต่อไป แต่สิ่งที่ MEA กำลังทำและวางแผนนั้น จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ระดับยุทธศาสตร์ชาติถ้ามีฝ่ายการเมืองเห็นความสำคัญ
และอีกส่วนก็รู้สึกประทับใจและสบายใจขึ้นเมื่อได้ยินรัฐวิสาหกิจดีๆที่มี customer mindset แบบนี้ที่อยากเอามาเผยแพร่กันในวันนี้ด้วยครับ
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
