12 พ.ย. เวลา 14:00 • ข่าวรอบโลก

วัฒนธรรม “สร้างข่าวดี” ในประเทศอำนาจนิยม

จริงๆมีข่าวเกี่ยวกับจีน ที่เป็นประเด็นลักษณะนี้อยู่ก่อน
ที่อยากจะเขียนมาหลายวันแล้ว แต่ไม่อยู่ไทย
ก็คือ เรื่องของเรือบรรทุกเครื่องบิน “ฟูเจี้ยน”
พอดีมีข่าวเรื่องสะพานถล่มเข้ามาก่อน
เลยขอยกยอดเรื่องฟูเจี้ยนเป็นพรุ่งนี้ก็แล้วกัน
แต่ ทั้งสองข่าว มีความเกี่ยวข้องกันบางอย่าง
ในแง่การสร้าง “ข่าวดี” หรือโฆษณาชวนเชื่อ
ผ่านสิ่งที่จีนเรียกว่า ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
…ซึ่งจริงๆแล้ว มันไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นเลย ถ้าเราเข้าใจ…
…และในบางกรณี อย่างสะพาน นี่คือความเสี่ยงต่อชีวิต
ของชาวบ้านเสียด้วยซ้ำไป….
สะพานเมฆ ที่กำลังกลายเป็นควัน ….
สะพานที่กำลังเป็นข่าวนี้ ขื่อว่าสะพานหงฉี
อยู่ในมณฑลเสฉวน ที่จะเชื่อมไปทิเบตทางตะวันตกเฉียงเหนือ
มันเปิดตัวไปเมื่อต้นปีอย่างยิ่งใหญ่
ทางการจีนเองก็ตีข่าวใหญ่โต ว่านี่คือสุดยอดสะพาน
เนื่องจากมันมีความสูง และความยาว มากกว่าที่ใครๆ
บนโลกนี้เคยทำ ในภูมิประเทศแบบนี้
ด้วยความอยู่บนที่สูง มันเลยมีชื่อที่คนจีนเรียกกัน
ว่าสะพานเมฆ หรือสะพานในเมฆ
แต่…ในขณะที่เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่
บรรดาวิศวกรจีน และทั่วโลก ก็มองว่ามันมีปัญหาแน่
แค่ว่าเมื่อไหร่เท่านั้น ในวงการวิศวกรรมจีนเอง
ก็วิจารณ์เรื่องนี้หนักมาก
และแน่นอน เมื่อเป็นโครงการของรัฐ ใครก็ไม่กล้าพูดมาก
ให้เสี่ยงคุกตาราง ในระบบของจีนเอง
เปล่า…มันไม่ใช่เรื่องความอ่อนด้อย
หรือล้ำหน้าทางเทคโนโลยีวิศวกรรม
แต่มันอยู่บนกฎพื้นฐานของการฝืนไปรับความเสี่ยง
จากปัจจัยทางธรรมชาติมากเกินไป
และยังมีการเพิ่มความเสี่ยง จากอ่างเก็บน้ำใกล้เคียง
อีกต่างหาก
ทางการจีน ไม่เคยสนใจคำทัดทานทางวิศวกรรมนี้
…แล้วมันก็มีปัญหาอย่างรวดเร็ว ไม่ผิดจากที่บรรดาวิศวกร
ทั้งจีน และวิศวกรผู้สนใจจากทั่วโลกได้คาดไว้….
ปัญหาที่สุดของสะพานนี้ ไม่ใช่ลักษณะของมัน หรือเทคนิค
การออกแบบทางวิศวกรรม
แต่ปัญหาจริงๆ คือสภาพแวดล้อมมันไม่เหมาะสม
เนื่องจากภูเขาแถวนี้ มีดินที่ไม่มีความเสถียรมากนัก
เกิดดิน หินถล่มอยู่บ่อยครั้ง หรืออีกนัยคือชั้นดินมีการไหวตัว
ขาดความเสถียรเป็นอย่างมาก
1
มันเป็นสิ่งที่ไม่มีมนุษย์ที่ไหน เปลี่ยนแปลกธรรมชาติได้
อย่างน้อยก็ด้วยเทคโนโลยีปัจจุบัน
และการออกแบบดีแค่ไหน มันก็ช่วยได้ไม่มากนัก
เพราะไม่มีใครรู้ว่า ธรรมชาติ จะเคลื่อนตัวมาเล่นงาน
สิ่งก่อสร้างเหล่านี้ ในลักษณะใด มันไม่มีใครคาดเดาไม่ได้
ในทางปฏิบัติ ดินถล่ม อยู่นอกเงื่อนไขการออกแบบทางวิศวกรรมเสมอ เพราะถือว่า อะไรก็ตามที่ตั้งอยู่บนพื้นที่
ที่ไม่เสถียร”มากจนเกินไป” ย่อมไม่มีทางแก้ไขได้
1
หรือก็คือ เปรียบเทียบง่ายๆว่า คงไม่มีใครไปตอกเสาเข็ม
ลงบนดินเลนเหลวๆ นั่นเอง
…แม้กรณีนี้ ดินจะไม่แย่ขนาดนั้น แต่ก็ต้องถือว่า มีความเสี่ยง
มากจนเกินกำลังทางวิศวกรรมจะแก้ไขได้…
…ดังนั้น จึงไม่มีใครสร้างสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่มากๆ
ในพื้นที่ลักษณะแบบนี้ อย่างที่จีนทำ….
…หรือ ไม่ใช่ว่าไม่มีใครทำได้ แต่ทำแล้วเสี่ยงต่อชีวิต
ของประชาชนที่ต้องใช้งาน เขาก็ไม่ทำกันนั่นเอง….
ว่ากันว่า จีนนั้นพยายามทำทุกอย่างให้ดูใหญ่โต
และเป็นสิ่งที่ฝรั่งไม่ทำ เพื่อแสดงให้คนของเขาเห็น
ว่าพวกเขามีศักยภาพที่ดีกว่าฝรั่ง หรือชาติอื่น
พวกวิศวกร มักมีคำพูดกันขำๆ ว่าจีนแหกทุกกฎ
ของ ACI ( American Concrete Institute
(สถาบันคอนกรีตอเมริกัน) ) ที่ใช้กันทั่วโลกรวมถึงไทย
เพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองนั้นเก่งกว่าพวกฝรั่ง และไม่จำเป็นต้อง
ไปเชื่อกฎเกณฑ์ที่ฝรั่งวางไว้
ผล มันอาจสวยงามในแง่ความพิสดาร รวดเร็วจนน่าทึ่ง
เนื่องจากกฎเหล่านี้มีข้อหยุมหยิมมาก การที่จีนตัดกฎเหล่านี้
ออกไป ทำให้พวกเขาทำอะไรได้เร็วกว่าฝรั่ง ซึ่งเข้มงวด
แต่ในแง่คุณภาพ มันทำให้อาคารจีนส่วนมาก
มีมาตรฐานความแข็งแรงที่ค่อนข้างต่ำ และเสี่ยงอย่างมาก
ในหลายแห่ง แม้แต่ที่มีชื่อเสียง
ที่น่าขำเช่นกัน คือ งานสถาปัตยกรรมเด่นๆของจีน
กลับใช้มาตรฐานเหล่านี้ทั้งหมด และเข้มงวดมากเสียด้วย
เช่น กรณีของสนมกีฬารังนก , สนามบินปลาดาว ฯ
ซึ่งเหล่านี้ อยู่ภายใต้การดูแลของทีมงานฝรั่งทั้งหมด
มันทำให้คุณภาพของงานก่อสร้างจีน มีสองมาตรฐาน
คือ ทั้งดี และเลว ซึ่งมันแทบไม่มีความแน่นอนเลย
ว่าจีนยึดมาตรฐานตรงไหนกันแน่
ข่าวอาคาร สิ่งก่อสร้างจีนพัง ความจริงมันก็มีเรื่อยๆแหละ
อย่างสะพานนี่ก็เยอะและบ่อย
ซึ่งเหตุผลมันไม่มีอะไรมากกว่า จีนนั้นพยายามทำให้ตัวเอง
ดูเก่ง เพื่อเล่นกับกระแสชาตินิยมมากจนเกินไป ต้องเร็ว
ต้องใหญ่อยู่เสมอ เพื่อเอาไว้โม้กับชาวโลก
อันนี้ทางด่วนถล่มในหูหนาน https://www.topnews.co.th/news/189818
ในทางปฏิบัติ หากจีนทำตามมาตรฐานการสร้างสิ่งต่างๆ
หรือการทดสอบต่างๆ เท่าที่ฝรั่งทำกันจนเป็นปกติ
พวกเขาก็ไม่สามารถทำให้เร็วกว่า หรือใหญ่กว่า
ฝรั่งไปได้มาก เหมือนที่เป็น
การสร้างเพื่อโฆษณาชวนเชื่อเหล่านี้นี่เอง
ที่ทำใหขัอจำกัดในการทำงาน ของผู้รับปฏิบัติจากรัฐ
มันบีบอยู่ ทำให้จีนต้องมองข้ามมาตรฐานต่างๆไป
เพื่อให้เสร็จตามเป้าหมาย ระยะเวลา ที่ไม่สอดคล้อง
กับหลักวิศวกรรมจากรัฐบาล
จะบอกทำไม่ได้ตามหลักวิศวกรรม ถ้าทำแบบนั้น
ในระบบอำนาจนิยม คุณก็ต้องรับโทษ คนรับผิดชอบก็ซวยอีก
คนทำกลัว ก็เน้นเสร็จแบบชุ่ยๆ
หน่วยงานย่อยกลัวผู้บังคับบัญชา ก็รับงานมาส่งต่อ
นี่คือระบบที่จีนเป็น และมันเป็นแบบนี้มาตลอด
สุดท้าย จีนจึงเต็มไปด้วยของที่เสร็จ ใช้ได้
แต่ไม่รู้ว่าใช้ได้แค่ไหน นานเท่าไหร่อยู่เต็มไปหมด….
อันนี้ทางยกระดับในกุ้ยโจว
มันคือวัฒนธรรมสร้างข่าวดี ที่นิยมกันใยชาติอำนาจนิยม
เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถยอมรับความด้อยกว่าได้
การจะกด หรือจำกัดเสรีภาพคน คุณต้องมีเหตุผลในลักษณะนี้
เพื่อบอกว่า เสรีภาพที่ชาวบ้านต้องยอมเสียไป จะมีแต่สิ่งดีๆ
ที่กลับไปหาพวกเขา และต้องไม่มีคำว่าผิดพลาดในสารบบ
ดังนั้น เราจะเห็นว่า ทางการจีนแทบไม่เคยมีข่าวร้ายเลย
หากไม่จนต่อหลักฐานจริงๆ เหมือนกรณีนี้ พวกเขาจะเงียบ
…ซึ่งคนซวยที่สุด ก็คือชาวบ้านนั่นแหละ…
แล้วไอ้สะพานนี้ เดี๋ยวจีนก็ต้องซ่อม ด้ายงบประมาณอีกมาก
…ซึ่งแน่นอน ว่าจีนคงซ้อมสำเร็จนั่นแหละ…
…แต่ประชาชนเขากล้าใช้ไหม และมีคุณภาพแค่ไหน
มันก็ต้องมาว่ากันอีกที เวลามันจะให้คำตอบเอง….
แล้ว….
นี่ก็ใกล้มากนะ กับจุดที่จะสร้างอภิมหาเขื่อน
ที่กำลังเป็นประเด็น
วิศวกรจีนเองไม่เห็นด้วย ทางอินเดียปลายน้ำก็ไม่เห็นด้วย
ก็เพราะสภาพแวดล้อมที่จะสร้าง มันเป็นแบบนี้แหละ
…สะพานยังไม่รอด แล้วเขื่อนมันใหญ่กว่านี้เป็นร้อยเท่า…
…มันจะรอดไหมล่ะนั่น …พังขึ้นมานี่ ไม่อยากจะคิดเลย ….
ข่าว
โฆษณา