13 พ.ย. เวลา 23:37 • สิ่งแวดล้อม
สะพานพระราม 9

บทเรียนที่ได้จากเพื่อนใหม่ และสะพานที่เราตั้งใจจะสร้าง

ตอนที่ 8/12 ทุกตอนเขียนอย่างตรงไปตรงมา เป็นวิชาการที่อ่านง่าย และสื่อถึงบรรยากาศจริงของวันที่พี่ป้อมตอบคอมเมนต์แต่ละคน ด้วยความระมัดระวัง อ่อนน้อม และอยากให้ทุกฝ่ายเข้าใจกัน
ช่วงสามวันที่ผ่านมา พี่ป้อมได้อ่านคอมเมนต์มากมายจากเพื่อนเก่า เพื่อนใหม่ และเพื่อนที่เพิ่งเริ่มรู้จักกันบนเฟซบุ๊ค
บางข้อความเป็นคำถามจริงจัง บางคนแสดงความไม่เห็นด้วย บางท่านเล่าประสบการณ์ตรง บางท่านก็แค่พยายามหาทางออกให้บ้านเมือง
สิ่งที่พี่ป้อมเห็นชัดที่สุดคือ ความตั้งใจดีของทุกคน
แม้จะมาจากคนละอาชีพ คนละประสบการณ์ และบางที “คนที่เจอเหตุการณ์ตรงหน้า” จะมีอารมณ์บางอย่างที่คนอื่นเข้าใจไม่หมด — พี่ป้อมก็รับฟังทุกท่านด้วยความเคารพจริงๆ ครับ
1) ความไม่เข้าใจ ไม่ใช่ความผิดของใคร
หลายคอมเมนต์พูดถึง “พร่องน้ำช้าเกินไป”
บางคนถามตรงๆ ว่า “ทำไมไม่ระบายน้ำตอน 80–90%?”
บางท่านอธิบายข้อมูลเก่า ข้อมูลใหม่ สื่อสารข้ามโพสต์กันไปมา
พี่ป้อมรู้สึกได้ว่า คนส่วนใหญ่ ยังขาดข้อมูลที่เป็นภาพรวมของทั้งลุ่มน้ำ
และความเห็นหลายแบบ แม้จะต่างกัน ก็ล้วนสะท้อน “ช่องว่างความรู้” ในสังคมไทย
เมื่อไม่มีข้อมูลเหมือนกัน มุมมองก็ย่อมไม่เหมือนกัน — ตรงนี้พี่ป้อมเข้าใจทุกฝ่ายครับ
2) การตอบคำถามของเพื่อนใหม่ ต้องใช้ทั้งความรู้ และความอ่อนโยน
พี่ป้อมพยายามตอบทุกข้อความด้วยหลักฐาน ข้อมูลจริง และเงื่อนไขทางวิศวกรรม–กายภาพ–บริหารจัดการ
แต่ขณะเดียวกัน พี่ป้อมก็ตั้งใจไม่ให้ “ข้อมูลที่ยาก” กลายเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ถามรู้สึกด้อย หรือถูกตัดบท
หลายครั้งพี่ป้อมจะเริ่มจากการขอบคุณก่อน
เพื่อให้บรรยากาศการสนทนา “อบอุ่นพอ” ที่คนจะอ่านกันจนจบ
3) ความยากที่สุดคือ การอธิบายว่า ‘เขื่อนหนึ่งไม่ได้ยืนอยู่โดดเดี่ยว’
หลายท่านติดกับดักความคิดว่า “ป่าสักตัดสินใจเองได้” หรือ “เจ้าพระยาคือคนผิด”
แต่ในความจริง ระบบน้ำคือเครือข่ายของ ต้นน้ำ–กลางน้ำ–ปลายน้ำ–ทุ่งรับน้ำ
การตัดสินใจของเขื่อนหนึ่งจะส่งผลต่ออีกเขื่อน และต่อชุมชนตอนล่าง
พี่ป้อมพยายามอธิบายให้เห็นโลกของการบริหารน้ำแบบยกชุด
ไม่ใช่แบบแยกส่วนตามที่เราเคยเห็นกันในข่าวหรือสื่อต่างๆ
4) แม้จะมีความเห็นต่าง แต่เรายังเป็นเพื่อนกันได้
มีบางคอมเมนต์แข็งแรง บางประโยคมีอารมณ์
แต่พี่ป้อมไม่ได้มองว่าเป็น “การโจมตีส่วนตัว” แต่อย่างใด
ในทุกคำตอบ พี่ป้อมสื่อชัดเจนว่า
“หมดสถานการณ์นี้แล้ว ผมหวังว่าเราจะยังเป็นเพื่อนคุยกันได้นะครับ”
คำนี้ไม่ได้พูดเล่นๆ
พี่ป้อมตั้งใจจริงว่า ถ้าเราคุยด้วยความจริงใจต่อกัน เราจะสร้างสังคมที่ถกเถียงได้อย่างมีอารยธรรมมากขึ้น และทุกคนมีส่วนร่วมในความรู้เรื่องน้ำได้มากขึ้น
5) สิ่งที่พี่ป้อมได้เรียนรู้จากทุกคอมเมนต์
คนไทยอยากรู้อยากเข้าใจเรื่องน้ำ แต่ขาด “ข้อมูลแบบอธิบายทั้งระบบ”
เวลาเกิดเหตุการณ์จริง ความกลัว–ความโกรธ–ความสับสน จะมาก่อนข้อมูลเสมอ
นักวิชาการต้องอ่อนโยนให้มากกว่าที่คิด — เพื่อให้สังคมเปิดใจรับฟัง
การตอบคอมเมนต์ไม่ใช่แค่ตอบคำถาม แต่เป็นการ “สร้างความไว้วางใจ”
และท้ายที่สุด ทุกคนอยากเห็นบ้านเมืองเดินหน้า ไม่ใช่แบ่งฝ่ายแพ้–ชนะ
6) บทสรุป — วันที่น้ำสูงเป็นโอกาสให้เราสูงขึ้นด้วยเช่นกัน
สามวันนี้ พี่ป้อมได้เรียนรู้ว่าความเห็นต่าง ไม่ได้ทำให้เราไกลกัน
แต่ช่วยให้เห็นมุมหลายด้านที่เราเองอาจไม่เคยคิดมาก่อน
น้ำเต็มทุ่งครั้งนี้ ทำให้พี่ป้อมได้เพื่อนใหม่หลายคน
รวมทั้งเพื่อนเก่าที่ห่างหายกันไป ก็กลับมาแลกเปลี่ยนกันด้วยความห่วงใย
พี่ป้อมหวังว่า เมื่อข่าวน้ำลดลง ความเข้าใจระหว่างคนไทยจะไม่ลดลงตามไปด้วย
และเราจะเดินหน้าสร้าง “วัฒนธรรมสนทนาเชิงเหตุผล” ร่วมกันต่อไปครับ 🌿💧
โฆษณา