Why We Buy
เจอหนังสือเก่าในตู้หนังสือ เล่มนี้ไม่ได้ถูกคัดออกไปบริจาคตอนจัดบ้านเพราะรู้สึกว่าน่าจะยังมีประโยชน์
เมื่อคืนลองเปิดผ่าน ๆ ดู ส่วนใหญ่ใช้ไม่ได้แล้ว เทคโนโลยี disrupt พฤติกรรมผู้ซื้อไปหมด
แต่หากตีความลึก ๆ แล้ว พบว่าสิ่งที่ยังเหมือนเดิมคือ หลายครั้งเราตัดสินใจซื้อด้วยอารมณ์
เรามักจะตอบด้วยเหตุผลที่ดีเสมอเวลาที่คนใกล้ตัวหรือเราถามตัวเองว่าซื้อมันเพราะอะไร แล้วโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เวลามีคนนอกถาม
ไม่ใช่แค่ของราคาไม่แพง ตัดสินใจง่าย อย่างเวลาที่มีการ live ขายของแล้วเราซื้อเพื่อเป็นการแสดงออกว่าเราเชียร์ใคร แต่ของใหญ่ ๆ อย่างรถ บ้าน คอนโดนี่แหละตัวดีเลย ทุกคนบอกตัดสินใจด้วยเหตุผลทั้งนั้น
- ช่อง TikTok สัมภาษณ์เด็กมหาลัยที่สยามว่าทำไมเลือกสะพายกระเป๋าแบรนด์เนมราคาหลายหมื่นใบนี้ ตอบว่า เพราะมันใหญ่ดี ใส่อะไรได้หลายอย่าง
- ทำไมซื้อรถรุ่นนี้ เพราะสเปคดี สวยถูกใจ ระบบปลอดภัยสูง
- ซื้อบ้านที่นี่เพราะทำเลใกล้ที่ทำงาน โรงเรียนลูก สภาพแวดล้อมดี มั่นใจในตัว developer
- เลือกโรงเรียนนี้ให้ลูกเพราะหลักสูตรดี สังคมดี เหมาะกับพัฒนาการและได้ภาษา
เหตุผลมันมีอยู่แล้ว แต่ยอมรับเถอะหลายครั้งจุดสุดท้ายที่ต้องตัดสินก็ใช้ความรู้สึก ทั้งที่เจ้าตัวอาจไม่รู้ตัวเองก็ได้
นี่ไม่ได้หมายถึงของราคาสูงอย่างเดียวนะ แต่หมายถึงคนซื้อเพราะแบรนด์นี้ concept นี้เหมาะกับ character ของฉันด้วย
สินค้าที่ผลิตจากของรีไซเคิล ถ้ามีระบุชัดเจนว่ารีไซเคิลมา โอกาสที่คนซื้อเพราะอยากแสดงให้สังคมเห็นว่ารักสิ่งแวดล้อมก็จะสูงกว่าแบบไม่ระบุ ยกเว้น branding ดีจนคนรู้จักสินค้านี้ดีอยู่แล้ว
ไม่ว่าเวลาจะเปลี่ยน พฤติกรรมคนจะเปลี่ยนไปตามยุคแค่ไหน แต่ความต้องการการยอมรับในสายตาคนอื่นของมนุษย์ยังคงอยู่ในทุกยุคสมัย
จริง ๆ แล้วคนไม่ได้ซื้อเพราะ function หรือ คุณภาพชีวิตเสมอไป
แต่ซื้อเพราะมันเป็น ภาษาทางสังคม ที่บอกว่า ฉันก็อยู่ในกลุ่มนั้นเหมือนกัน
และทุกวันนี้โซเชียลมีเดียทำให้พื้นที่แสดงตัวตนกว้างกว่าเดิมหลายเท่า มันเลยยิ่งมีความสำคัญกว่าในยุคก่อน
คนที่เข้าใจจุดนี้ ยังไงก็ยังขายของทุกอย่างได้ในทุกยุคสมัย เพราะแม้พฤติกรรมเปลี่ยนแต่สันดานมนุษย์ยังคงเหมือนเดิม แค่หาความต้องการลึก ๆ ของกลุ่มลูกค้าให้เจอ
และศาสตร์ Branding ยังไม่ตาย…
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
