Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เรียนไป เขียนไป
•
ติดตาม
14 พ.ย. เวลา 12:00 • การศึกษา
สอบเข้ามหาลัยได้ก็สบายยย—ซะที่ไหนล่ะ
ตอนมัธยมทุกคนน่าจะเคยโดนเป่าหูกันมาบ้าง “ตั้งใจเรียน ตั้งใจอ่านหนังสือนะ เดี๋ยวสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้หนูก็สบายแล้ว” หรือ “อู้ยเดี๋ยวติดคณะนู้นนี้ อู้ยสบายเรียนแปบเดียวจบมาได้งานแน่นอน” บลาๆๆ…. แล้วที่ว่ามาทั้งหมดเนี่ยมันจริงหรือเปล่านะ
เอาล่ะในฐานะเฟรชชี่ปี 1 เรามาดูกันดีกว่าว่าเมื่อเราก้าวออกจากรั้วโรงเรียนเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยสุดปังที่เราทุ่มเททั้งแรงกาย แรงใจ (และเงินพ่อแม่) เพื่อก้าวเข้ามาถึงจุดนี้แล้วเนี่ย ชีวิตมันจะต่างกับอยู่ในโรงเรียนแค่ไหนกันเชียว
1. การเรียน📔
คงเป็นสิ่งแรกที่ต้องพูดก่อนเลย เมื่อก่อนตอนเรียนมัธยมเราเคยรู้สึกว่าตารางเรียนแต่ละวันมันช่างแน่นเอี้ยดเหลือเกิ๊นน— ในหนึ่งวันเรียนทั้งคณิต ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ ไทยสังคม อะไรก็ไม่รู้เต็มไปหมด แต่พอเข้ามามหาวิทยาลัยแล้วตารางเรียนกลับหดหาย เหลือแค่วันละ 1-3 วิชา แต่รู้มั้ยเกิดอะไรขึ้น… มันเรียนวิชาละ 2 ชม.จ้าา เหล่านักเรียนที่ทั้งชีวิตเคยเจอแต่คาบละ 50 นาทีถึงกับกระอักเลือดเล็กน้อย ราวกับยัดเนื้อหาทั้งเทอมลงในคาบเดียว แถมอาจารย์บางท่าน(ส่วนใหญ่)จะสอนเร็วมากก
ถ้าไม่เคยอ่านมาก่อนหรือเป็นเนื้อหาใหม่ในชีวิตรับรองว่าตามไม่ทันแน่นอน
ดังนั้นสิ่งหนึ่งที่เพิ่มเข้ามาคือ การทบทวนบทเรียนในแต่ละวัน เพราะการเรียนแค่ในห้องจะไม่พออีกต่อไป หลังเลิกเรียนแต่ละวันคนส่วนใหญ่จะไปนั่งห้องสมุด หรือหอ ทบทวนบทเรียนในวันนั้น หาข้อมูลจากแหล่งอื่นๆ เพิ่มเติม ดังนั้นสกิลหนึ่งที่ควรฝึกไว้คือ “เรียนด้วยตนเอง SDL” ในมหาลัยใช้สกิลนี้เยอะจริงๆ ไว้จะมาอธิบายเพิ่มเติมในบทความหน้านะครับ
อนึ่ง…. อีกสิ่งที่แปลกไปเล็กน้อยคือตอนอยู่โรงเรียนคุณครูจะเดินมาสอนเราถึงห้อง แต่ในมหาลัยเราต้องเดินไปหาอาจารย์ตามห้องในตารางสอนน้า ดังนั้นก่อนเรียนก็ต้องออย่าลืมวางแผนและดูห้องเรียน ดูตึกให้ดีไม่งั้นจะหลงไปเรียนกะใครก็ไม่รู้เอา (จากประสบการณ์ตรง แหะๆ)
2. สังคม
จริงแล้วเรื่องนี้เป็นอะไรที่พูดยากมาก เพราะแต่ละที่ก็มีความแตกต่างกันไป ในมหาลัยถ้าเรามาคนเดียวแอบรู้สึกว่าจะมีโอกาสเมคเฟรนกับเพื่อนใหม่ได้ยากกว่าตอนมัธยมนะ เพราะด้วยความที่เราเรียนเป็น sec ทีละหลายๆคน หรือบางวิชาก็อาจมีหลายคณะ คนที่นั่งก็อาจจะเปลี่ยนตำแหน่งนั่งไปเรื่อยไม่เหมือนตอนมัธยมที่นั่งโตีะไหนก็โต๊ะนั้น ในห้องเล็ก ฟีลแบบเออชั้นต้องคุยกะคนนี้แหละนั่งโต๊ะข้างกันทุกวัน แต่ในมหาลัยมันไม่ช่ายย เลยคิดว่าแอบยากกว่านิดนึง 🤏🏼
แต่สิ่งสำคัญที่อยากย้ำทุกคนที่เข้ามาใหม่คือ “เลือกคบเพื่อนดีๆ” เป็นสิ่งสำคัญที่สุดของชีวิตมหาลัยเลยแหละ เพราะถ้าน้องได้เพื่อนไม่ดีตั้งแต่ปี 1 อีก 3 หรือ 5 ปีที่เหลือเราจะพังไปด้วย ดังนั้นอย่าลืมสแกนดีๆ มีเพื่อนน้อยยังดีกว่ามีเพื่อนพาออกนอกลู่นอกทางน้า
แต่พูดถึงบางคณะเช่นคณะเรา ถ้าจะไม่มีเพื่อนเลยชีวิตก็ลำบากอยู่เพราะเรียนยากมากก ถ้ามีเพื่อนดีๆ ค่อยช่วยติวช่วยเตือนจะเป็นอะไรที่เลิศศ ดังนั้นหาเพื่อนไว้แต่เนิ่นๆ จะเป็นการดีที่สุดจ้า
3. อิสรภาพ 🕊️
เดาว่านี่คงเป็นไฮไลต์ของชีวิตมหาวิทยาลัยเลยแหละ ชีวิตที่เริ่มห่างพ่อแม่ มีเงินใช้ และที่สำคัญคืออิสรภาพพพพ จะเรียน จะเล่น จะเที่ยวก็มีแต่เพื่อน ไม่มีคนมาบังคับให้ไปเรียน ไม่มียามคอยดักห้ามออกนอกเขตโรงเรียนก่อนเวลา แถมบางวิชาอาจารย์ยังใจดีอัดคลิปการสอนไว้ให้ จะไม่เข้าเรียนก็ยังได้
แต่แน่นอนว่ามันก็ต้องแลกมากับความรับผิดชอบต่อตัวเอง เพราะจะไม่มีใครมาตามงาน ตามสอบ คะแนนได้เท่าไหนก็คือเท่านั้นไม่มีการปัดขึ้นปัดลงใดๆ ดังนั้นรับผิดชอบชีวิตตัวเองนะจ๊ะ
อย่างที่ว่าแหละครับ ตัวผมเองก็เพิ่งขึ้นปี 1 มาได้ไม่นานคงยังบอกความแตกต่างอะไรไม่ได้มาก แต่ 3 ประเด็นนี้เป็นสิ่งที่มาจากประสบการณ์ตรงของตัวเองแล้วก็อยากถ่ายทอดให้น้อง ๆ ได้เห็นภาพคร่าวๆ ว่าชีวิตมหาลัยมันเป็นยังไง เข้ามาแล้วจะต้องเจอกับอะไรบ้าง ยังไงก็หวังว่าน้องจะแฮปปี้กับชีวิตที่น้องเลือกกันทุกคนนะครับ
เพราะเราแก้ไขอดีตไม่ได้ แต่เราเลือกอนาคตตัวเองได้(บางครั้ง)
เรียนไป เขียนไป
การเรียนรู้
การศึกษา
มหาวิทยาลัย
บันทึก
1
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย