5 ชั่วโมงที่แล้ว • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

บทความเรื่อง “The State of Generative AI Adoption in 2025”

โดย Alexander Bick, Adam Blandin และ David Deming (13 พ.ย. 2025) จาก Federal Reserve Bank of St. Louis ให้ข้อมูลดีครับ
การใช้งาน Generative AI เพิ่มขึ้นมากในสหรัฐฯ ทั้งในวงงานและนอกงาน
• ในเดือน ส.ค. 2024 พบว่าอัตราการใช้งานอยู่ที่ 44.6% ของประชากรอายุ 18-64 ปี (หลังปรับข้อมูลย้อนหลัง) 
• ในเดือน ส.ค. 2025 พบว่าอัตราเพิ่มเป็น 54.6% 
• แยกรูปแบบ: งาน (“at work”) เพิ่มจาก ~33.3% → ~37.4% ในช่วง 12 เดือน  ; นอกงาน (“non-work”) เพิ่มจาก ~36.0% → ~48.7% 
• ส่วนชั่วโมงงานที่ใช้ Generative AI: จาก 4.1% (พ.ย. 2024) → 5.7% (ส.ค. 2025) ของชั่วโมงงานทั้งหมด
• หลังจากเปิดตัว ChatGPT เป็น mass-market 3 ปีมาแล้ว (นับจากประมาณปลาย 2022) — พบว่าอัตราใช้งาน 54.6% สูงกว่าอัตราการใช้งานพีซี (PC) ที่ 19.7% เมื่อ 3 ปีก่อนของ IBM PC (1981) และสูงกว่าอัตราใช้งานอินเทอร์เน็ตที่ 30.1% เมื่อ 3 ปีก่อนของการเปิดเชิงพาณิชย์ (1995/6-98)
ถ้าอ่านแล้วงงหน่อย ผมแปลให้อีกที เทียบง่ายๆ คือ
สามปีหลังเปิดตัว ChatGPT มีผู้ใช้เกินครึ่งประเทศ (ในสหรัฐอเมริกา)
สามปีหลังเปิดตัวพีซี IBM มีคนใช้อยู่ 19%
สามปีหลังเปิดตัวอินเทอร์เน็ตยุคแรก มีคนใช้ 30%
ในขณะที่คนส่วนใหญ่จินตนาการว่า AI มันเปลี่ยนโลก แต่ผลสำรวจจริงกลับพบว่า
ผลกระทบต่อผลิตภาพแรงงาน (Productivity)
• ผู้ใช้ถูกรายงานว่า ถ้าไม่มี Generative AI พวกเขาคงต้องใช้เวลามากขึ้นเพื่อทำงานให้เสร็จ เมื่อรวมคนทั้งแรงงาน พบว่าการ “ประหยัดเวลา” เทียบได้กับ ~1.6% ของชั่วโมงงานทั้งหมด 
• เมื่อนำเข้าในแบบจำลองผลิตภาพแรงงาน พบว่า Generative AI อาจเพิ่มผลิตภาพแรงงานได้สูงสุดประมาณ 1.3% นับตั้งแต่การเปิดตัว ChatGPT
• นอกจากนี้ ในระดับอุตสาหกรรม พบว่าอุตสาหกรรมที่มีการใช้งานสูงก็มีผลิตภาพเติบโตเร็วขึ้น (R ≈ 0.32) 
• อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนเน้นเตือนว่า “ความสัมพันธ์” ไม่ใช่ “เหตุ → ผล” โดยง่าย เพราะมีหลายปัจจัยอื่นแทรกอยู่
ใครสนใจไปอ่านเปเปอร์เต็มๆ ได้ครับ
โฆษณา