‘สงครามหมู’ จุดกำเนิดสงครามที่เริ่มต้นจากหมูตัวเดียว
รู้หรือไม่… หนึ่งในความขัดแย้งระหว่างประเทศที่แปลกประหลาดที่สุดในประวัติศาสตร์โลก ไม่ได้เริ่มจากทองคำ ทรัพยากร หรือการล่าอาณานิคม แต่เริ่มจาก “หมู” ธรรมดาเพียงตัวเดียว
หมูหลงทางกับสวนมันฝรั่ง
เรื่องราวนี้ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร ในเหตุการณ์ที่เรียกว่า “Pig War” หรือ “สงครามหมู” ซึ่งเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1859 บนเกาะซานฮวน ดินแดนเล็ก ๆ ใกล้ชายแดนสหรัฐ–แคนาดา
ในปี 1859 ผู้คนจากทั้งอังกฤษและอเมริกันย้ายเข้ามาตั้งถิ่นฐานบนเกาะซานฮวน แต่เส้นแบ่งพรมแดนบนแผนที่ยังไม่ชัดเจน ทำให้ทั้งสองฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์ว่าตนเองเป็นเจ้าของเกาะ
บ่ายวันหนึ่ง เกษตรกรชาวอเมริกันชื่อ ลายแมน คัตเลอร์ พบว่ามีหมูของพ่อค้าชาวอังกฤษมา “ขุดสวนมันฝรั่ง” ของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาเตือนหลายครั้งแล้ว แต่หมูก็ยังกลับมาอีก จนสุดท้ายเขาตัดสินใจทำสิ่งที่กลายเป็นจุดชนวนความวุ่นวาย…
“เขายิงหมูตัวนั้นตาย”
คัตเลอร์บอกว่า “มันกินมันฝรั่งของฉัน ฉันเลยยิงมัน”
ส่วนเจ้าของหมูชาวอังกฤษตอบว่า “งั้นคุณคงไม่ว่า ถ้าผมยิงคุณเพราะคุณกินหมูของผม”
การถกเถียงเล็ก ๆ ระหว่างเพื่อนบ้าน กลายเป็นประกายแรกของความขัดแย้งระหว่างสองประเทศ
จากหมูตัวเดียว สู่ประเด็นการเมืองระหว่างประเทศ
พอเรื่องถึงหูทหารอังกฤษบนเกาะ พวกเขาต้องการจับกุมคัตเลอร์ แต่ชาวอเมริกันบนเกาะไม่ยอม และร้องไปยังรัฐบาลสหรัฐว่าอังกฤษ “ละเมิดสิทธิ์อาณาเขต”
ผลคือ…รัฐบาลทั้งสองฝ่ายส่งทหารเข้ามาตั้งฐานบนเกาะเดียวกัน ทหารอังกฤษส่งเรือรบติดอาวุธเข้าประชิด
ส่วนฝ่ายสหรัฐส่งกองกำลังของตนขึ้นฝั่ง
ในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ เกาะเล็ก ๆ ที่มีหมูเป็นประชากรส่วนหนึ่ง กลับมีปืนใหญ่ทหารเรือกว่า 3 ลำ และกองกำลังทหารทั้งสองฝ่ายยืนเผชิญหน้ากันแบบไม่กะพริบตา
กองทัพสองประเทศเกือบได้ยิงกันจริง
แม่ทัพของสหรัฐในพื้นที่คือ วิลเลียม แฮร์นีย์ ชายผู้ขึ้นชื่อว่ามีอารมณ์ร้อนและมักตัดสินใจรวดเร็วเกินไป เขาสั่งส่งทหารกว่า 60 นาย พร้อมปืนใหญ่ขึ้นเกาะทันที ก่อนประกาศว่าจะ “ปกป้องพลเมืองอเมริกันไม่ว่ากรณีใด ๆ”
ฝ่ายอังกฤษนำโดยพลเรือเอก โรเบิร์ต เบย์นส์ ผู้ซึ่งโกรธที่สหรัฐยกทหารขึ้นเกาะที่อังกฤษก็อ้างสิทธิ์อยู่ เขาเตรียมพร้อมสั่งยิงอย่างเต็มรูปแบบ
เกาะซานฮวนจึงกลายเป็น “สนามรบที่กำลังรอการเริ่มต้น”
ทหารทั้งสองฝ่ายจ่อปืนใส่กัน เรือรบปักหัวทะเลใกล้ชายฝั่ง
เพียงรอคำสั่งยิงจากผู้บังคับบัญชา
นักประวัติศาสตร์กล่าวว่า เพียงคำสั่งเดียวนั้นก็สามารถนำไปสู่สงครามระหว่างสหรัฐและอังกฤษ เพราะ “หมูตัวเดียว”
เมื่อผู้นำใหญ่ทั้งสองฝ่ายรู้ว่าเรื่องนี้ “ไร้สาระเกินไป”
โชคดีที่ในที่สุด เรื่องราวที่เกิดขึ้นไปเข้าหูของผู้นำระดับสูงทั้งสองฝ่าย และพวกเขาต่างมองว่าสงครามครั้งนี้ “ไร้เหตุผลที่สุดเท่าที่จะเกิดขึ้นได้”
ประธานาธิบดีสหรัฐ เจมส์ บูเคแนน สั่งให้ลดกำลังทหารลง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการปะทะ
ในขณะเดียวกัน ฝ่ายอังกฤษก็เห็นด้วยว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่จะสู้เรื่องหมูตัวเดียว
ทั้งสองประเทศจึงตกลงกันว่า ทหารทั้งสองฝ่ายจะประจำอยู่บนเกาะร่วมกัน แต่ไม่ให้ยิงกัน เกิดเป็นการปกครองร่วมกัน “Joint Military Occupation” ซึ่งดำเนินยาวนานกว่า 12 ปี
สงครามหมู จึงเป็นสงครามที่…
ไม่มีผู้บาดเจ็บ
ไม่มีผู้เสียชีวิต
ไม่มีการยิงกันแม้แต่นัดเดียว
ผู้เสียชีวิตเพียงรายเดียวจากสงครามนี้คือ “หมูตัวนั้น”
รูปปั้นหมูสำฤทธิ์ ณ อุทยานประวัติศาสตร์แห่งชาติเกาะซานฮวน
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
