วันนี้ เวลา 02:36 • ธุรกิจ

“ความพร้อมของ MK ในการทำ Buffet ต้องบอกว่า ตอนนี้เรา พร้อมมาก ๆ ยิ่งได้ทำ Buffet เรายิ่งสนุก

ยังมีอะไรใหม่ ๆ ให้เราทำอีกเยอะเลย”
-คุณธีร์ ธีระโกเมน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
คุณธีร์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เล่าไว้ในคลิปวิดีโอ “ความลับ หลังบ้าน MK ตัวพลิกเกม ตลาดบุฟเฟต์” ในรายการ Snapshot ของลงทุนแมน
BrandCase สรุปกลยุทธ์ธุรกิจสำคัญ ออกมาได้เป็น 3 ข้อ
1. ระบบหลังบ้านที่แข็งแกร่ง สเกลทั่วประเทศได้ทันที
แม้ว่าตลาดสุกี้บุฟเฟต์จะมีการแข่งขันที่ ดุเดือดมาก แต่ MK มองว่าการเข้าสู่ตลาดช่วงนี้นั้นไม่ช้า
เพราะความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน ในการขยายสาขาของ MK ก็มีสูงมากเช่นกัน
ไล่ตั้งแต่
- ระบบครัวกลาง
- ระบบซัปพลายเชน
- ระบบโลจิสติกส์
- ระบบการฝึกอบรม
ทำให้เมื่อตัดสินใจจะทำ MK ก็สามารถ สเกลได้ทั่วประเทศได้ทันที ไม่ยาก
2. ใช้ข้อมูลเพื่อแบ่งกลุ่มลูกค้า ตาม Segment ที่ชัดเจน
MK ใช้กลยุทธ์การเปิดตัวแบบ ทำไป เก็บ Data ไป ก่อนที่จะปูพรมทั่วประเทศ
โดยเริ่มจากทำแคมเปญ “หมู มาราธอน” ที่เมื่อเราสั่งชุดหมูเริ่มต้น 385 บาท ก็สามารถจ่ายเพิ่มคนละ 159 บาท เพื่อสั่ง 4 เมนูหมูขายดี ได้แบบไม่อั้น
ต่อมาก็เป็นแคมเปญ “ซีฟูด มาราธอน” ที่เมื่อเราสั่งชุดหมูเริ่มต้น 385 บาท ก็สามารถจ่ายเพิ่มคนละ 199 บาท เพื่อสั่ง 4 เมนูซีฟูดขายดี ได้แบบไม่อั้น
เมื่อรวบรวมฟีดแบ็กได้ระดับหนึ่งแล้ว MK จึงเริ่มเปิดตัวบุฟเฟต์ 299 บาท เพื่อตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มใหญ่ โดยปูพรมในรอบแรก 254 สาขาทั่วประเทศ
จากนั้น หลังจากฟังเสียงลูกค้า ผ่าน Social Listening และคอมเมนต์ที่หน้าร้านแล้ว พบว่ามีกลุ่มลูกค้าที่ยินดีจะจ่ายเพิ่มเพื่อเมนูที่หลากหลายหรือเมนูที่พวกเขาชอบ
MK จึงสร้าง Premium Buffet เพิ่มขึ้นมา เพื่อแบ่งกลุ่มลูกค้าให้ชัดเจนขึ้นอีก 3 ระดับ คือ
- MK Lover ราคา 499 บาท มีมากกว่า 80 เมนู
- Premium Buffet ราคา 699 บาท มีมากกว่า 100 เมนู
- Ultimate Buffet ราคา 899 บาท มีมากกว่า 130 เมนู
3. ใช้ข้อได้เปรียบด้าน Supply Chain มาเป็นจุดแข็ง
แม้มีครัวกลางแห่งเดียวที่บางนา แต่ MK ก็สามารถบริหารจัดการและส่งสินค้าได้ทั่วประเทศ ส่งผลให้สามารถควบคุมทั้งคุณภาพ และความสดใหม่ ได้สม่ำเสมอ
- มีการควบคุมซัปพลายเชนเพื่อให้ผักที่เก็บจากฟาร์ม ส่งถึงสาขาได้ภายในเวลา ไม่เกิน 24 ชั่วโมง
- ทุกขั้นตอนในซัปพลายเชน จะมีการควบคุมอุณหภูมิอยู่เสมอ ตั้งแต่การผลิต การขนส่ง จนถึงการจัดเก็บที่สาขา เพื่อรักษาความสดใหม่ของวัตถุดิบ
- มีการใช้ Data และ AI ในการช่วยสั่งของ รวมถึงคาดการณ์ สต๊อกล่วงหน้า 30-60 วัน เพื่อควบคุมสต๊อก และลดของทิ้งให้น้อยที่สุด ทำให้ MK ไม่เคยมีปัญหาวัตถุดิบเหลือเยอะผิดปกติ
- ด้วยความสัมพันธ์กับซัปพลายเออร์บางรายยาวนานเกือบ 30 ปี และการสั่งซื้อในปริมาณมากทำให้เกิด Economies of Scale
พร้อมทั้งหาซัปพลายเออร์ใหม่ ๆ เพื่อรักษาความมั่นคงของการจัดการซัปพลายเชน
สรุปกลยุทธ์สู้สงครามสุกี้บุฟเฟต์ของ MK อีกที แบบสั้น ๆ
1. ใช้ระบบหลังบ้านที่แข็งแกร่ง เพื่อสเกลทั่วประเทศได้ทันที
2. ใช้ข้อมูลเพื่อแบ่งกลุ่มลูกค้าตาม Segment ที่ชัดเจน
3. ใช้ข้อได้เปรียบด้าน Supply Chain มาเป็นจุดแข็ง
ทั้งหมดนี้ ก็ทำให้เกิดผลลัพธ์หลายอย่างที่ MK ก็คาดไม่ถึง เช่น ลูกค้ากลับมาทานซ้ำ เพิ่มขึ้นถึง 300%
หรือเห็นว่ามีลูกค้าบางราย กลับมาทานบุฟเฟต์บ่อยถึง วันเว้นวัน
รวมถึงได้ลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ ภายในร้าน เช่น กลุ่มนักเรียน
สุดท้ายนี้ คุณธีร์ยังบอกอีกว่า
“ตอนนี้เราตอนนี้ เราพร้อมมาก ๆ ที่จะขยาย ยิ่งได้ทำ Buffet เรายิ่งสนุก ยังมีอะไรใหม่ ๆ ให้เราทำอีกเยอะเลย” ซึ่งก็คงต้องติดตามดูกันต่อไป ว่า MK จะมีอะไรใหม่ ๆ มาเซอร์ไพรส์เราในอนาคตอีกบ้าง..
Reference
-รายการ Snapshot ตอน “ความลับ หลังบ้าน MK ตัวพลิกเกม ตลาดบุฟเฟต์” ดูเต็ม ๆ ได้ที่ลิงก์นี้
โฆษณา