1 ชั่วโมงที่แล้ว • ปรัชญา
เรื่องคำว่า ศาสนา มันก็เป็นเรื่ิองราว ที่เค้าสอนให้มนุษย์เห็นออกเห็นใจ ช่วยเหลือเกื้อกูลกันกัน ในยุคดึกดำบรรพ์ เค้าไม่มีจิตที่ดีมาเกิด เค้าก็หากินกันไปตามสภาพแวดล้อม มีแต่ความหฤโหด เข่นฆ่ากัน ก็มีจิตที่ดี มาเกิด ก็ช่วย สอนเรื่องราวของควมาเห็นอกเห็นใจกัน อย่างพระกฤษณะ
. เพราะมนุษย์เกิดมา เสาะแสวงหาอำนาจ แย่งชิง เข่นฆ่า ทำลายกันเอง อยากเป็นใหญ่ แบ่งพรรค แบ่งพรรคแย่งชิง กันเอง แม้เป็นพี่น้อง ก็แย่ง เข่นฆ่ากันตาย..สงครามมันก็ต้องเกิด เกิดเพราะความทะเยอทะยาน ความโลภโกรธหลง ความตายเป็นที่สุด ..พออผู้มีอำนาจรวบรวบ สมัครพรรคพวก ทรัพย์สมบัติมากเข้า ทั้งบริวาร ก็จะรีด ผู้ที่ด้อยกว่า ใครไม่เห็นด้วย ก็เห็นเค้าเป็นศัตรู
โลกมันก็วนเวียนกันอยู่เพียงแค่ เจริญแล้วก็เสื่อม สร้างใหม่ นานไปก็เสื่อม ไปตามกาลเวลา ตามวาระของจิตที่มีกรรม มาอาศัยกายพ่อแม่เป็นมนุษย์ บ้างก็ไปได้พ่อแม่เป็นสัตว์ การไปเกิด.ได้กายพ่อแม่เป็นมนุษย์ ก็นิสันดานเวรกรรม ติดมากับธาตุทั้งสี่ประกอบเป็นสังขารกรรม เกิดมาอาการครบสามสิบสอง กรือ ไม่ครบ เกิดตามสถานที่แตกต่างกันไป มีภาษาสื่อสารแตกต่างกันไป
เกิดมาแต่ละครั้ง เค้าก็มีเรื่องราวที่สติปัญญา ..ที่สะสมมา ในการเรียนรู้ไม่เหมือนกัน เหมือนมีครูคนเดียวกัน นักเรียนก็เรียนับครูคนเดียวกัน แต่เวลาสอบ ก็ได้คะแนนได้ไม่เท่ากัน แล้วเรื่องความสามารถต่างๆความถนัด ก็ไม่เหมือนกันเลย
คราวนี้ เรื่องของสมาธิ เค้าก็มีการ ฝึกหัด กันมาหลายยุค ฤาษี ชีไพร่ ..พ่อที่ยึดที่ผี ก็ท่องคาถา ..บูชา อยากได้ฤทธิ์ ที่เพ่งกสิน ก็มา ..เค้าก็ว่า สมาธิ ได้ฌานนั้นนี้ไต่อันดับไป จนอัปปณาสมาธิ จิตเป็นหนึ่ง ..ไม่มีอารมณ์ ไม่มีกายปรากฏ เหมือนตัวตนนั้นหายไป แต่นั่น.ก็เป็นเรื่องของสมาธิ ที่จะต้องนำมาฝึกหัดเรียนรู้จักเรื่องอารมณ์กรรม ตัวกระทำต่างๆ ที่เป็นเรื่องราว นามธรรม ไปจนถึงเรื่ิองรางของธาตุทั้งสี่ เรื่องราววิญญาณทั้งหก ..ก็อาศัยคำว่า สมาธิมาเรียนรู้ขึ้นด้วยจิตของตนเอง
คราวนี้ หันมาดูสมาธิ ที่พระท่านถึงธรรม จิตเป็นสมาธิ ตัดขาดอารมณ์ โลภโกรธหลง เรื่องราคะตัณหา ให้จิตพ้นทุกข์ ..ยึติการเกิดแก่เจ็บตาย เรื่องของสมาธิของจิตที่อาศัยกายนั้น กายที่มีอารมณ์ปรุงแต่ง นั่นมันไหลมาจากกรรม ที่อยู่กับธาตุทั้งสี่ เรื่องของสมาธิ ที่จะไปทำอย่างนั้น ได้เป็นเรื่องราวของจิตที่สะสมบุญกุศลบารมีมา ท่านจึงกระทำได้ สมาธิแบบนี้ การปฏิบัติแบบนี้ ก็เป็นเรื่องราวขององค์พระสิทธัตถะ ที่ท่านไปกระทำขึ้น ..จนจิตหลุดพ้น ยุติการเกิด
ในชีวิตประจำวัน นั้น คนเรา มันมีแต่อารมณ์นึกคิด .สติสัมปชัญญะของจิต ก็ไม่เกิด มีแต่ยึดอารมณ์ ที่ปรุงแต่งขันธ์ห้า ท่าก้างขยุ้มจิต ..ที่อาศัยอยู่ในกาย ..จิตนั้น เป็นทาส ของอารมณ์กรรมตัวกระทำ .ตลอดไปจนตาย ก็ไม่รู้จักจิตของตัวเอวได้เลย จิตออกจากกายก็ไปทุกข์ทรมาน
มีคนเพียงน้อยนิดที่สนใจ ฝึกหัด ในเรื่องราวศาสนา .แล้วก็ฝึกหัด ..แล้วเราก็เกิดในยุคที่เลย ต้นศาสนา ไม่เคยเห็นว่า ยุคต้นๆ ศาสนา เค้าทำกันอย่างไรบ้าง ในคำว่า ปัญญาสมาธิ ..ทำกันอย่างไร จึงสามารถยุติการเกิด คราวนี้ คนที่ไม่สนใจว่า จะยุติการเกิด เค้าก็ไม่สามารถที่จะเสาะแสวงหา ทางยุติการเกิด ..เค้าก็ไม่กระตือรือร้น ที่หาทาง ที่เส้นทาง ของจิตให้ยุติการเกิด
เรื่องศาสนา นั้นก็มีเรื่องราว ของการเวียนว่ายตายเกิด ..ชี้ทางให้..ให้จิต นั้นไปสู่สถานที่ๆมีความสุข .คราวนี้ คนที่ไม่รู้จัก ..จิตเค้าถูกปกปิดด้วยอารมณ์ ..จิตคนเรานั้น พูดคำว่าอารมณ์ได้ จิตเคยเห็นอารมณ์ในตัวตนมั้ย ..นั่นก็เป็นเรื่องของสมาธิที่เค้าทำไป จนเห็นอารมณ์ตัวอารมณ์นั้นมีรูปร่าง ลักษณ์อย่างไร ทำไมคนเราจึงเป็น ..จิตเป็นทาสของอารมณ์ ..
1
โฆษณา