Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เรื่องเล่าเมาเมาแมน
•
ติดตาม
20 พ.ย. เวลา 14:24 • ข่าวรอบโลก
ฟูเจี้ยน ยักษ์กระดาษแห่งแปซิฟิก??? (จบ)
หลังจากนำเสนอข้อมูลทางเทคนิคที่ถูกตั้งข้อสังเกตุไปแล้ว
ในสองตอนที่ผ่านมา
ในตอนนี้ก็จะมาสรุปกันนะครับ ถือเป็นตอนจบของซีรี่ย์นี้กัน
โดยสรุปแล้ว ผมต้องขอชี้แจงก่อน
ว่าการตั้งข้อสังเกตของผู้เชี่ยวชาญ และความเห็นส่วนตัว
ไม่ได้มีเพื่อจะบอกว่า เรือฟูเจี้ยนนั้นใช้งานจริงๆไม่ได้
มันไม่มีคำถามตรงนั้น เพราะในแง่การใช้งานจริง
มันทำได้แน่นอน หลักฐานต่างๆ มันก็ชัดเจน
สิ่งที่วิเคราะห์กัน อยู่บนหลักคิด ถึงแง่ประสิทธิภาพที่แท้จริง
ว่ามีมากแค่ไหน ส่งผลอย่างไรต่อดุลในแปซิฟิกมากกว่า
และเพราะฟูเจี้ยน มีลักษณะที่ย้อนแย้งในหลักวิศวกรรม
ค่อนข้างมาก ผลสรุปจากการวิเคราะห์มันจึงดูไม่ดีนัก
หากมองที่ประสิทธิภาพโดยรวมของมัน
หรืออีกความหมายหนึ่งง่ายๆ
คือฟูเจี้ยนนั้น ใช้งานได้แน่
แต่คงไม่มีประสิทธิภาพ มากพอที่จะเปลี่ยนแปลง
ดุลอำนาจในแปซิฟิก ให้ได้มากอย่างที่จีนหวังนั่นเอง
…นั่นคือผลสรุป โดยอิงกับหลักวิศวกรรมต่างๆ
ตามที่ได้เขียนไปแล้ว ในสองตอนที่ผ่านมา….
ด้วยประสิทธิภาพของฟูเจี้ยน มันไม่สามารถเพิ่มอำนาจการรบ
ให้กับกองทัพเรือจีนได้มากนัก ด้วยข้อจำกัดทางเทคนิค
ทางสหรัฐจึงยังไม่มองมันเป็นภัยคุกคามอะไรนัก
ซึ่งยิ่งถ้าพิจารณาภาพรวมของกองเรือบรรทุกเครื่องบินจีน
ทั้งสามลำ ที่จะมีผลต่อแปซิฟิกโดยรวมแล้ว
มันก็ยิ่งไม่ใช่อะไรที่สหรัฐต้องกังวลมากนักในปัจจุบัน
เพราะทั้ง เหลียวหนิง และซานตง ไม่สามารถใช้งาน
ร่วมกับเครื่องบินระดับล่องหนของจีนได้ มีดีที่สุด
คือ JF-16,17 ที่สามารถขึ้นลงได้ และไม่สามารถ
ปล่อยเครื่องบินตรวจการได้
ลักษณะนี้ สหรัฐและพันธมิตรเช่นญี่ปุ่น ที่มีเครื่องบินล่องหน
จะยังได้เปรียบมากแบบมหาศาล ในกรณีการรบแบบตั้งรับ
หมายความว่า ลำพังตัวเรือบรรทุกเครื่องบิน สองลำแรก
ของจีน ไม่สามารถเป็นภัยคุกคามต่อฐานทัพ หรือเรือบรรทุก
เครื่องบินสหรัฐ ที่มี F-35 ประจำการอยู่ได้นั่นเอง
ส่วนฟูเขี้ยนนั้น แม้สามารถทำงานร่วมกับเครื่องบิน
ล่องหนรุ่นใหม่ของจีนได้ แต่ข้อสงสัยเรื่องประสิทธิภาพ
ของมัน ก็น่าเชื่อได้ว่า จะไม่เพิ่มประสิทธิภาพมากนัก
ให้กับกองเรือในตอนนี้ หากไม่ปรับปรุงแก้ไข
ดุลอำนาจในแปซิฟิกของสหรัฐที่วางไว้
สิ่งที่สำคัญกว่าเรือบรรทุกเครื่องบินก็คือฐานทัพ
ในที่ต่างๆ ที่ล้อมทางออกทะเลของจีนอยู่
สิ่งที่สหรัฐและพวกกังวล คือ ขีปนาวุธของจีน
ไม่ใช่เรือบรรทุกเครื่องบินเหล่านี้
ในทางปฏิบัติ เมื่อจีนไม่สามารถแบกเครื่องบินรุ่นใหม่
ออกไปได้มากๆ ด้วยเรือบรรทุกเครื่องบิน สหรัฐและญี่ปุ่น
จึงไม่ต้องกังวลกับส่วนนี้มากนัก และการขึ้นจากฐานในจีน
ก็อยู่นอกพิสัยบินไป-กลับ ของเครื่องบินรบจีน
ในแง่กำลังการครองอากาศ เรือทั้งสามลำของจีน
จึงมีผลน้อยมากต่อดุลอำนาจในแปซิฟิกนั่นเอง
…ดุลอำนาจของจีน ต่อสหรัฐและพวก ปัจจุบันที่มีผลที่สุด
ก็คือขีปนาวุธ การมาของฟูเจี้ยน ไม่สามารถเปลี่ยนแปลง
จุดนี้ เพื่อเพิ่มน้ำหนักการครองน่านฟ้าได้มากเท่าที่หวัง ….
…และนั่น ทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมของกองเรือจีน
ยังจำกัดไปด้วย เนื่องจากไม่มีเครื่องบินคุ้มกัน
ที่มีประสิทธิภาพได้เปรียบสหรัฐ หรือญี่ปุ่นที่ปล่อยออก
มาจากเรือและฐานทัพได้นั่นเอง ….
(ญี่ปุ่นมีเรืออิซุโมะ ที่สามารถโหลด F-35 Bได้ราวๆ 15 ลำ
แม้มันจะถูกขึ้นบัญชีว่าเป็นเรือพิฆาตอเนกประสงค์ บรรทุก
เฮลิคอปเตอร์ก็ตาม)
แต่ถึงแบบนั้น จีนก็ไม่ได้เสียเปล่า
เพราะแม้ฟูเจี้ยนจะมีจุดบอดมากมาย และไม่สามารถ
มีประสิทธิภาพ จนถึงจุดเปลี่ยนแปลงดุลอำนาจได้
อย่างที่จีนหวัง
แต่มันคือหัองทดลองขนาดใหญ่ ที่ความล้มเหลว
เป็นเพียงเรื่องธรรมดา ที่จะต้องเกิดขึ้นบ้าง
โดยเฉพาะว่านี่คือลำแรกของจีนเอง ที่เปลี่ยนโมเดลอาวุธ
จากแบบของโซเวียต มาก็อปปี้ไปตามแนวทางของสหรัฐ
มันเป็นความผิดพลาด ที่ทำให้เกิดการเรียนรู้
ซึ่งองค์ความรู้นี้สำหรับจีนแล้ว ประเมินค่าไม่ได้
หากพวกเขาต้องการขึ้นมาทางบชั้นสหรัฐ
มันน่าจะเป็นการจ่ายที่คุ้มค่าของจีน ไม่ใช่การเสียเปล่า
ซึ่งถ้าว่ากันตามจริง แม้ฟูเจี้ยนจะมีประสิทธิภาพ
ไม่ได้อย่างที่หวัง แต่ถ้าคิดว่านี่คือลำแรก แล้วได้ขนาดนี้
ก็ต้องถือว่านี่ประสบความสำเร็จอย่างมากแล้ว
…และจะเป็นรากฐานของกองเรือจีนทั้งหมดในอนาคตได้…
กองเรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์
คือสิ่งที่จำเป็นมากของจีน เมื่อดูจากยุทธศาสตร์ของพวกเขา
เนื่องจากจีนต้องการแผ่ขยายอิทธิพลไปถึงโพ้นทะเล
เช่น แอฟริกา และอเมริกาใต้
การจะหาพวก และการันตีความปลอดภัยให้พันธมิตรได้
มันทำให้จีนจำเป็นต้องมีเรือบรรทุกเครื่องบิน
ที่ขับเคลื่อนได้แบบไม่จำกัด แบบที่สหรัฐมี
เพราะไม่งั้น จีนก็จะมีแต่ความสามารถทางเศรษฐกิจ
แต่ขาดศักยภาพการรบโพ้นทะเล เพื่อดูแลผลประโยชน์
ของตัวเอง และการันตีความปลอดภัยให้ใครได้
ถ้าจีนไม่มีกองเรือลักษณะนี้ พวกเขาจะไม่ต่างกับโซเวียต
ที่แม้จะสนับสนุนด้านอาวุธ การเงินได้ แต่ก็ไม่มีศักยภาพ
ที่จะช่วยตรงๆ แบบที่สหรัฐทำกับพันธมิตรได้
จนต้องพ่ยแพ้ ล่มสลายไปอย่างน่าอดสู
เราลองนึกสภาพ สหรัฐสามารถช่วยใครก็ได้ที่ต้องการ
แบบที่ทำกับอิสราเอล ในทุกที่บนโลก ผ่านกองเรือบรรทุก
เครื่องบินของพวกเขา
ในขณะที่จีนได้แค่มองตาปริบๆ กับการที่สหรัฐกำลังปิดล้อม
ประเทศที่เขาเรียกว่าพันธมิตรอย่างเวเนซุเอลา และกำลัง
เสียการควบคุมคลองปานามา แบบที่จีนทำอะไรไม่ได้เลย
ดังนั้น ถ้าจีนจะแข่งกับสหรัฐจริงๆ มันจำเป็นมาก
สำหรับเรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์
…แต่มันไม่ง่าย และท้าทายมาก สำหรับพวกเขา….
คาดว่าเรือลำถัดไปของจีน น่าจะเป็นพลังงานนิวเคลียร์
ค่อนข้างแน่ ถ้าว่าตามหลักฐาน ที่เสนอกันมา
มันกำลังถูกเริ่มสร้าง ในมณฑลเหลียวหนิง เมืองต้าเหลียน
ซึ่งจากลักษณะโครงสร้าง ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า มันจะมีลักษณะ
ภายนอก เช่นเดียวกับฟูเจี้ยน แต่จะเปลี่ยนเป็นเครื่องนิวเคลียร์
ซึ่งถ้าจีนทำสำเร็จ เราก็อาจได้เห็นว่ามันจะมีประสิทธิภาพ
ที่มากขึ้น จนใกล้เคียงเรือสหรัฐได้หรือไม่
แต่หนทางนั้น ค่อนข้างท้าทายมาก
เพราะคาดว่าจีนเองก็ยังอาจไม่มีเทคโนโลยีเตาปฏิกรณ์
ขนาดเล็กสำหรับเรือที่ดีเท่าสหรัฐได้ ในเรือลำที่สี่นี้
เนื่องจากระยะเวลาในการวิจัยพัฒนานั่นเอง
จีนเองเพิ่งได้เทคโนโลยีเตาปฏิกรณ์ลักษณะนี้
มาจากการร่วมโครงการเรือตัดน้ำแข็งพลังงานนิวเคลียร์
กับรัสเซียในไม่กี่ปีที่ผ่านมา
และเพิ่งเริ่มตั้งศูนย์ทดลองเตาปฏิกรณ์ขนาดเล็ก
สำหรับเรือบรรทุกเครื่องบินเมื่อกลางปีก่อนนี้นี่เอง
ซึ่งโดยสภาพ เตาปฏิกรณ์ของรัสเซียที่ใช้อยู่
ทั้งบนเรือตัดน้ำแข็ง และเรือบรรทุกเครื่องบินที่ปลดไปแล้ว
ก็ไม่ได้มีประสิทธิภาพที่ สามารถเทียบเท่ากับเตาปฏิกรณ์ของ
เรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐอยู่แล้ว
จีนที่ไปรับมา จึงต้องวิจัย พัฒนาต่อยอดเองอีกมาก
กว่าจะได้ประสิทธิภาพ ตามที่ต้องการจริงๆได้
ซึ่งอาจจะสมบูรณ์ใกล้เคียงกับช่วงเวลาการเสร็จสิ้น
ของเรือลำที่สีนี้หรือไม่ก็ได้
…ถ้าได้ก็ดีไป แต่ถ้าไม่ ก็ต้องแก้ไขกันต่อไป…
เทคโนโลยีเตาปฏิกรณ์บนเรือผิวน้ำขนาดใหญ่นั้น
เป็นสิ่งที่ยาก และไม่สามารถบอกว่า พวกเขาทำเรือดำน้ำได้
ก็ทำผิวน้ำได้ เนื่องจากเป็นคนละเรื่องกัน
ความต้องการไฟฟ้าของเรือดำน้ำนั้นต่ำกว่าเรือบรรทุก
เครื่องบินเป็นร้อยเท่า และความยากในการควบคุม
ระบบหล่อเย็น และของเหลวต่างๆ บนทะเลเปิด
เป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อน ทำให้ปฏิกรณ์เหล่านี้ทำได้ยากมาก
ที่จะให้ได้ประสิทธิภาพที่ต้องการแบบของสหรัฐ
ถ้าเราลองดูไปที่หลายชาติ เรือดำน้ำนิวเคลียร์ไม่ใช่เรื่องแปลก
แต่เรือผิวน้ำนิวเคลียร์ กลับมีเพียงสหรัฐเท่านั้น ที่ทำได้ดี
ขนาดฝรั่งเศส ที่ขึ้นชื่อว่ามีความชำนาญทางนิวเคลียร์
สูงมากเช่นกัน ก็ยังมีปัญหาจนถึงทุกวันนี้
…มันจึงเป็นความท้าทายอย่างยิ่งของจีนในเรื่องนี้….
โดยสรุปแล้ว ฟูเจี้ยนนั้น ถูกเปิดตัวทั้งที่ยังไม่พร้อม
ด้วยเหตุผลทางการเมือง มากกว่าความพร้อมทางการทหาร
กล่าวคือ สี่จิ้นผิงนั้นเร่งเปิดตัว เพื่อเหตุผลทางการเมืองหลายอย่าง ทั้งกระแสชาตินิยม และสร้างคะแนนนิยมให้ตัวเอง
หลังโควิดความนิยมต่อรัฐบาลจีน ต่ำลงมากในหมู่ประชาชน
รวมถึงในพรรคคอมมิวนิสต์จีนเอง ซึ่งอีกสายก็เริ่มไม่เอาสี่
และเสียงก็ดีงขึ้นทุกวันๆ
ในกองทัพ สี่ปลดคนเป็นว่าเล่น ผ่านข้ออ้างการทุจริต
สองสามปีที่ผ่านมา เฉพาะในส่วนของกลาโหมระดับบิ๊ก
ก็มีแล้วหลายคน
ซึ่งที่จริง มันไม่มีใครรู้ ว่าการทุจริตนั้นมีจริงหรือไม่
แต่ก็พูดกันเสมอว่า เป็นการกระขับอำนาจของสี่
นั่นคือ สิ่งที่ทำให้สี่เอง มีความจำเป็นต้องทำอะไรสักอย่าง
เพื่อเรียกคะแนนนิยมในหมู่สายเหยี่ยว
วิธีที่ดีที่สุด ก็คือการเปิดตัวอาวุธต่างๆรัวๆ แบบที่ทำอยู่
ในตอนนี้นั่นเอง ตั้งแต่เครื่องบินรบ ยันเรืออย่างที่เราเห็น
มันก็ไม่ต่างกับวัฒนธรรมข่าวดีอื่นๆ
ในรูปแบบที่ประเทศอำนาจนิยมชอบทำเสมอๆนั่นเอง….
ฟูเจี้ยน จะใช้ได้มากแค่ไหน แท้จริงอาจไม่มีใครรู้ได้
แต่เรื่องนี้บอกเราได้อย่างหนึ่งว่า วิทยาศาสตร์มันโกหกกันยาก
คนจีนเองทุกวันนี้ ไม่ได้เชื่อในสิ่งที่รัฐพูดอีกแล้ว
จากการศึกษาที่สูงขึ้น และพวกเขาก็ไม่ได้อยู่ในสังคมปิด
แบบในเกาหลีเหนือ
แม้จะวิจารณ์ตรงๆไม่ได้ แต่พวกเขาก็ฉลาดพอ
ที่จะใช้การวิจารณ์ด้วยการตั้งคำถาม ที่อิงหลัก
ทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมขึ้นมาแทน
มันยังบอกเราด้วยว่า การพัฒนาทางวิศวกรรมใดๆ
มันไม่มีทางลัด ทุกอย่างต้องสร้างความเชี่ยวชาญด้วยเวลา
และในยุคที่การแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์สูงมากแบบปัจจุบัน
มันยิ่งไม่มีใครยินดีแบ่งปันองค์ความรู้ให้คู่แข่ง แบบสำเร็จรูป
เหมือนที่จีนเคยได้จากคนโน้นคนนี้มาตลอดหลายสิบปีอีกแล้ว
จากนี้ พวกเขาจะต้องคิดเอง ลองผิดถูกเองเหมือนคนอื่น
ซึ่งมันจะไม่ทำให้ทุกอย่างเร็ว และถูกเหมือนเดิมได้
ไม่มีใครบอกว่าจีนจะทำมันไม่ได้
ตรงข้าม ทุกคนเชื่อว่าจีนจะทำได้ ในวันหนึ่งข้างหน้า
…เพียงแต่มันไม่ง่ายเหมือนเดิม….
…และคำว่าสมบูรณ์ ไม่ใช่กับเรือฟูเจี้ยนแน่นอน….
คำว่ายักษ์กระดาษ ไม่ใช่ว่ามันแย่จนใช้ไม่ได้
เพียงแต่ในกระดาษ มันใหญ่กว่าความจริงไปมาก เท่านั้นเอง
*เสริม*
ความจริงแล้วการเปรียบเทียบที่ถูกต้องกับเรือฟูเจี้ยน
ไม่ควรเป็นเรือ ฟอร์ด หรือลำอื่นใดในกองทัพสหรัฐ
เนื่องจาก มันห่างกันเกินไป
ที่ถูกต้อง จะต้องเปรียบเทียบกับ Queen Elizabeth-class
แห่งราชนาวีอังกฤษจึงจะถูกต้องเหมาะสมกว่า
เนื่องจากมีระบบขับเคลื่อน ขนาดต่างๆ ที่ค่อนข้างใกล้เคียงกัน
แม้เรือ Queen Elizabeth-class จะใช้ระบบปล่อยตัว
Ski jump แบบเก่า แต่เนื่องจาก F-35B นั้น
ไม่จำเป็นต้องใช้ระบบปล่อยตัวที่พิเศษนัก มันก็สามารถขึ้นได้
ด้วยตัวมันเอง จึงสามารถลดจุดอ่อนส่วนนี้ออกไปได้นั่นเอง
Fujian vs Queen Elizabeth-class
แบบนี้ จะเหมาะสมกว่า ถ้าจะเปรียบมวยครับ ….
โครงการเรือลำที่สี่ของจีน
https://www.twz.com/sea/strong-evidence-that-chinas-next-carrier-will-be-nuclear-emerges-in-shipyard-photo
จีน
เทคโนโลยี
บันทึก
13
4
1
13
4
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย