20 พ.ย. เวลา 03:00 • การตลาด
Lnw Co., Ltd. บริษัท แอลเอ็นดับเบิ้ลยู จำกัด

ธุรกิจที่เติบโตได้จริง…เริ่มจากระบบที่พร้อมรับอนาคต 💡

CMS e-Commerce คือหัวใจของร้านค้าออนไลน์ ตั้งแต่การจัดการหลังบ้าน ไปจนถึงประสบการณ์ที่ลูกค้าเห็นหน้าเว็บ
แต่คำถามสำคัญคือ ระบบแบบไหนที่เหมาะกับธุรกิจในประเทศไทยที่สุด?
📊 บทความนี้จะสรุปให้ครบในที่เดียว
- ปัจจัยที่ธุรกิจไทยควรพิจารณาก่อนเลือก CMS
- ระบบ CMS ระดับโลกที่น่าสนใจ ทั้ง 9 แพลตฟอร์ม
- เช็กลิสต์สิ่งที่แบรนด์ไทย “ห้ามมองข้าม” เช่น PDPA, VAT, PromptPay และการเชื่อม Multi-Channel
.
เพราะระบบที่ดี…ไม่ใช่แค่ช่วยให้ขายได้
แต่เป็นโครงสร้างที่พาธุรกิจไปต่อในอนาคตได้อย่างมั่นคง
9 CMS e-Commerce น่าสนใจสำหรับแบรนด์ไทย
1) Adobe Commerce (Magento) – ยืดหยุ่นสูงสำหรับองค์กรใหญ่
Magento เป็น CMS ที่ยืดหยุ่นสูงและทรงพลังมาก เหมาะกับองค์กรที่มีทีม Dev ในบ้าน สามารถสร้างฟีเจอร์เฉพาะธุรกิจ เช่น ระบบสมาชิกซับซ้อน หรือ B2B Marketplace
จุดเด่น:
  • ระบบปรับแต่งขั้นสูง รองรับหลายภาษา หลายคลังสินค้า
  • มีฟีเจอร์ Enterprise เช่น Catalog Permission, Customer Segment, Page Builder, Multi-Source Inventory
  • เชื่อมต่อระบบ ERP/CRM ได้
เหมาะกับ องค์กรขนาดใหญ่ที่มีทีมเทคนิคดูแลโดยเฉพาะ 🔗 business.adobe.com/products/commerce/magento.html
2) BigCommerce – Open SaaS ที่ยืดหยุ่นเหมาะกับแบรนด์เติบโตเร็ว
BigCommerce เป็น Open SaaS ที่ให้อิสระในการปรับแต่งระบบ และเชื่อมต่อแอปต่าง ๆ ได้ง่าย เหมาะกับแบรนด์ขนาดกลางถึงใหญ่ ที่ต้องการจัดการหลายร้านในหลังบ้านเดียว
จุดเด่น:
  • รองรับ Multi-Storefront
  • ผสานระบบ ERP และ CRM ได้
  • มี API เปิดให้นักพัฒนาทำ Integration เพิ่มเติม
เหมาะกับ แบรนด์ที่มีหลายตลาด หลายประเทศ และต้องการระบบที่ขยายได้ 🔗 bigcommerce.com
3) LnwShop Pro – ระบบครบจบในที่เดียว ออกแบบมาเพื่อแบรนด์ไทย
สำหรับเจ้าของร้านที่ต้องการระบบที่พร้อมขายตั้งแต่วันแรก LnwShop Pro เป็น CMS ที่ออกแบบมาเพื่อผู้ค้าคนไทยโดยเฉพาะ ไม่ต้องลงปลั๊กอินเอง ไม่ต้องตั้งเซิร์ฟเวอร์ หลังบ้านใช้งานง่ายเหมือน Dashboard มืออาชีพ เชื่อมช่องทางขายหลักได้ครบ ทั้ง Shopee, Lazada, LINE, TikTok, Facebook, Instagram และ Google Shopping
จุดเด่น
  • เชื่อมทุกช่องทางขาย (Omnichannel & Multi-Channel) จากหลังบ้านเดียว
  • ระบบชำระเงิน LnwPay ปลอดภัย มีระบบคุ้มครองทั้งร้านค้าและลูกค้า รองรับหลายช่องทางการรับเงิน โอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร, บัตรเดบิต/บัตรเครดิต, e-Wallet, ShopeePay ฯลฯ
  • รองรับ SEO, สถิติการขาย, Conversion API, เครื่องมือโฆษณา, ระบบโปรโมชั่นแบบอัตโนมัติ, ระบบหลายภาษา, ระบบัญชีและภาษี
  • ฯลฯ
  • มีทีมซัพพอร์ตภาษาไทยพร้อมช่วยเหลือ
เหมาะกับ ร้านค้าทุกขนาด โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการระบบพร้อมใช้และขยายได้ในระยะยาว 🔗 www.lnwshop.com/pro
4) OpenCart – โอเพนซอร์ส น้ำหนักเบา ปรับแต่งเอง
OpenCart เป็นระบบโอเพนซอร์สที่เปิดให้ปรับแต่งได้ทุกอย่าง เหมาะกับร้านที่มีนักพัฒนาในทีม
จุดเด่น:
  • ไม่มีค่ารายเดือน ซอฟต์แวร์ฟรี
  • มีส่วนเสริมมากกว่า 13,000 รายการ
  • รองรับหลายภาษาและสกุลเงิน
เหมาะกับ ผู้มีพื้นฐานเทคนิคหรือทีม Developer ช่วยดูแลเอง 🔗 opencart.com
5) PrestaShop – โอเพนซอร์สพร้อม Addons ทางการ
PrestaShop เป็นอีกหนึ่งโอเพนซอร์สที่ได้รับความนิยมในยุโรป มีโมดูลเสริมสำหรับการตลาด การชำระเงิน และการจัดการสินค้า
จุดเด่น:
  • ระบบหลังบ้านเข้าใจง่ายกว่า Magento
  • มี Addons Marketplace ให้ซื้อฟีเจอร์เพิ่ม
  • รองรับระบบภาษีและบัญชีสินค้าอย่างละเอียด
เหมาะกับ ธุรกิจขนาดกลางที่ต้องการระบบยืดหยุ่นแต่ไม่ซับซ้อน 🔗 prestashop.com
6) Shopify – ระบบครบวงจรระดับโลก พร้อมเครื่องมือ AI
Shopify คือแพลตฟอร์มที่โด่งดังระดับสากล จุดเด่นคือใช้งานง่ายและมีแอปเสริมให้เลือกมากมาย เหมาะสำหรับร้านที่ต้องการขยายตลาดต่างประเทศ หรือใช้สกุลเงินหลายแบบ
จุดเด่น:
  • มีเทมเพลตสำเร็จรูปคุณภาพสูง
  • รองรับการชำระเงินทั่วโลก รวมถึงบัตรเครดิตและ PayPal
  • ระบบโฮสติ้งและความปลอดภัยครบในตัว
  • เชื่อมต่อช่องทางขายได้หลายแพลตฟอร์ม
  • มี AI Builder ช่วยตั้งร้านอัตโนมัติจากคีย์เวิร์ด
เหมาะกับ ผู้เริ่มต้นที่อยากขายทั่วโลก หรือแบรนด์ที่ต้องการระบบสากล 🔗 shopify.com
7) Shopline – ตัวเลือกยอดนิยมในเอเชีย
Shopline โฟกัสตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะ มีระบบภาษาไทย และช่องทางชำระเงินที่ครอบคลุม
จุดเด่น:
  • ฟีเจอร์ Omnichannel ครบ (หน้าร้าน + ออนไลน์)
  • รองรับ LINE, Facebook, IG และ TikTok Shop
  • มีระบบ Loyalty Program
เหมาะกับ ร้านค้าไทยที่ขายทั้งออนไลน์และออฟไลน์ 🔗 shopline.com
8) Wix eCommerce – เริ่มไว เครื่องมือครบในแพลตฟอร์มเดียว
Wix เป็น CMS ที่ออกแบบมาสำหรับผู้เริ่มต้น มีเครื่องมือ Drag & Drop ใช้งานง่าย ตั้งร้านเสร็จได้ในไม่กี่นาที เหมาะกับร้านที่เน้นความสวยงามและแบรนด์ไลฟ์สไตล์ ฟีเจอร์ร้านค้าและแอปที่เกี่ยวข้อง พร้อมอัปเดตต่อเนื่อง เช่น ผนวก PayPal เข้ากับ Wix Payments และเชื่อม Pinterest เพื่อ social shopping
จุดเด่น:
  • เทมเพลตสวยระดับพรีเมียม
  • เชื่อมต่อ Social Commerce ได้
  • มีระบบ SEO และ Analytics ในตัว
เหมาะกับ เจ้าของแบรนด์สินค้าแฟชั่น ไลฟ์สไตล์ หรือคาเฟ่ที่ต้องการเว็บสวยพร้อมขาย 🔗 wix.com/ecommerce
9) WooCommerce – ยืดหยุ่นสูงบน WordPress
WooCommerce เป็นปลั๊กอินที่แปลงเว็บไซต์ WordPress ให้กลายเป็นร้านค้าออนไลน์ ข้อดีคือยืดหยุ่น ปรับแต่งได้ตามใจ แต่ต้องมีความรู้เทคนิคเล็กน้อย
จุดเด่น:
  • ควบคุมทุกส่วนของเว็บไซต์ได้ 100%
  • มีปลั๊กอินเสริมหลายพันตัว
  • เหมาะกับเว็บไซต์ที่เน้นคอนเทนต์และ SEO
เหมาะกับ บล็อกเกอร์ นักเขียน หรือธุรกิจที่มีทีมเทคนิคดูแลเว็บไซต์เอง 🔗 woocommerce.com
.
👉 อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่ https://pro.lnwblog.com/2025/11/17/cms-e-commerce/
.
.
#LnwShopPro #BeFutureReady #CMS #eCommercePlatform #DigitalTransformation
LnwShop Pro แพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อธุรกิจองค์กร
📲 02-026-6418
โฆษณา