Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
“วันละเรื่องสองเรื่อง”
•
ติดตาม
เมื่อวาน เวลา 14:56 • การตลาด
🔪 “มีดแล่ซาซิมิ” หรือ “มีดสับไก่”?
ทำไมองค์กรจำนวนมาก “ใช้ Research ผิดงาน” และสุดท้ายก็ซื้อมีดผิดเล่ม?
💥 เมื่อองค์กรเข้าใจผิดว่า “Research = ยาวิเศษแก้ทุกปัญหา”
“พี่อยากจ้างบริษัททำ Marketing Research…มีที่ไหนแนะนำบ้าง?” นี่คือประโยคที่ผมได้ยินจากผู้บริหารไทยแทบทุกอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นค้าปลีก การแพทย์ การเงิน ไปจนถึงเทคโนโลยี
แต่สิ่งที่ผมสังเกตคือหลายคนไม่ได้มองหา Research เพราะ “อยากเข้าใจลูกค้าให้ลึกขึ้น” แต่เพราะ “ยอดขายเริ่มนิ่ง” หรือ “ไม่รู้ปัญหาคืออะไร เลยต้องทำอะไรสักอย่าง”
และทันทีที่เดินเข้าสู่โลก Agency ก็จะถูกพาเข้า “ห้องโชว์ผลงาน” เต็มไปด้วย
* แพ็กเกจสวยหรู
* Dashboard สีทอง
* รายงาน 200 หน้า
* คำศัพท์ทันสมัยเต็มไปหมด เช่น NLP, Sentiment, Insight Engine, AI, Heatmap เป็นต้น
สุดท้ายองค์กรจ่ายเงินหลักแสน–หลักล้าน…แต่ไม่ได้ “คำตอบ 2 บรรทัด” ที่ต้องการ
นี่คือจุดเริ่มต้นของความล้มเหลว ไม่ใช่เพราะนักวิจัยไม่เก่ง แต่เพราะองค์กร “ไม่เคยวินิจฉัยโจทย์ของตัวเองก่อนจ้าง”
ผลคือ องค์กรจำนวนมากใช้ “มีดแล่ซาซิมิ”…ไปสับกระดูกไก่
====
🎯 “มีดดี แต่ใช้ผิดงาน” ทำไมงานวิจัยถึงล้มเหลว?
Research ไม่ใช่ของวิเศษ แต่มันคือ “เครื่องมือ” และทุกเครื่องมือจะไร้ค่าในทันที ถ้าคุณใช้ผิดบริบท
เวลาผู้บริหารบอกผมว่าจะทำ Research ผมจะถามกลับเสมอว่า “คุณอยาก ‘หาข้อมูล’ หรืออยาก ‘หาคำตอบ’?” สองอย่างนี้ต่างกันแบบฟ้ากับเหว
นักวิจัยที่ดีจะเริ่มถามว่า
* ปัญหาที่แท้จริงของคุณคืออะไร? (Unmet Need)
* งานวิจัยนี้จะช่วยให้ตัดสินใจอะไร?
* ถ้าได้คำตอบแล้วจะทำอะไรต่อ?
* คำตอบที่ต้องการสอดคล้องกับ Brand Positioning ไหม?
แต่นักวิจัยที่ “ขายงานเก่ง” จะเริ่มด้วย “เรามี Big Data, Quant, AI, Sentiment Analysis…ครบจบในที่เดียวครับ”
ซึ่งทั้งหมดอาจ “ดีมาก” แต่ไม่ตอบอะไรเลย ถ้าคุณยังไม่รู้ว่าโจทย์คืออะไรตั้งแต่แรก
====
💡 Henry Ford – Steve Jobs: บทเรียนคลาสสิกของการ “ถามผิดคำถาม”
Henry Ford เคยกล่าวว่า “ถ้าผมถามลูกค้าว่าอยากได้อะไร พวกเขาจะตอบว่า อยากได้ม้าที่เร็วขึ้น”
เพราะลูกค้าอธิบายได้แค่ “สิ่งที่ตนเองรู้ตัว” แต่ไม่สามารถบอก “ปัญหาต้นตอ” ที่ทำให้ชีวิตลำบาก
Ford ไม่ได้สร้างม้าที่วิ่งเร็วขึ้น แต่สร้าง รถยนต์ เพราะเข้าใจว่าโจทย์จริงคือ “ลดเวลาเดินทาง” ไม่ใช่ “พัฒนาม้า”
Steve Jobs ก็ย้ำเสมอว่า “หน้าที่ของเราคือเข้าใจลูกค้าให้ลึกกว่าเขาเข้าใจตัวเอง” หน้าที่ของ Research จึงไม่ใช่การถามว่า “อยากได้ฟีเจอร์อะไรเพิ่ม?”
แต่คือการสังเกตให้ได้ว่า
* ทำไมลูกค้าถึงเจ็บตรงจุดเดิม?
* ขั้นตอนไหนทำให้เขาหงุดหงิด?
* อะไรคือปัญหาที่เขาต้อง workaround ทุกวัน?
หน้าที่ของผู้นำคือ “หาโจทย์” ไม่ใช่หวังให้ลูกค้าคิดคำตอบแทน
====
🧭 แล้วองค์กรควรจ้าง Research แบบไหน?
✔ 1. เริ่มจาก Qualitative ก่อน Quantitative
* ตัวเลขบอกว่า “เกิดอะไรขึ้น” แต่คนเท่านั้นที่บอกได้ว่า “ทำไมมันเกิด”
* ถ้าคุณอยากเข้าใจลูกค้า ก็ต้องเริ่มจาก Qualitative เสมอ
✔ 2. เลือกนักวิจัยที่ “อ่านคนออก”
* ลูกค้าบางคนตอบเพื่อรักษาภาพลักษณ์ บางคนตอบแบบ socially acceptable นักวิจัยที่ดีต้องฟังเสียงที่ลูกค้า “ไม่ได้พูดออกมา” ให้เป็น
✔ 3. เลือกคนที่กล้าพูด “ความจริงที่คุณไม่อยากฟัง”
* เพราะความจริงที่ช่วยให้องค์กรเติบโต มักเป็นความจริงที่เจ็บเสมอ
✔ 4. เลือกพาร์ทเนอร์ ไม่ใช่ผู้รับจ้าง
* Research ที่ดีคือ Co-creation ไม่ใช่ Outsourcing
* เคมีระหว่างทีมสำคัญกว่าชื่อบริษัท
====
✨ ผู้นำที่ดี = คนกำหนดโจทย์ ไม่ใช่ผู้โดยสารของรายงาน
องค์กรจำนวนมากล้มเหลวเพราะคิดว่า “จ้าง Agency แล้วจะดีเอง”
แต่ความจริงคือ ไม่มีใครแก้ปัญหาให้คุณได้ ถ้าคุณยังไม่รู้ว่าโจทย์คืออะไร?
หน้าที่ของผู้นำ คือการชี้ให้ชัดว่าโจทย์อยู่ตรงไหน เพื่อให้ทีมนักวิจัย UX และ Creative เดินไปในทิศที่ถูกต้อง
ไม่ใช่ปล่อยให้ทุกคนว่ายน้ำ ดำน้ำ หรือไต่เขา ทั้งที่ปัญหาจริง…ต้อง “บิน”
และไม่มีงานวิจัยแบบไหนในโลกช่วยคุณได้ ถ้าคุณกำลังบินผิดทิศตั้งแต่แรก
====
🧩 เครื่องมือไม่เคยผิด แต่คนใช้ต่างหากที่กำหนดผลลัพธ์
Research ที่ดีไม่ใช่รายงานหนา 200 หน้า แต่คือ “ความเข้าใจ 2–3 บรรทัด” ที่ทำให้ทีมตัดสินใจได้ดีขึ้นทันที
ผู้นำที่เก่งไม่ใช่คนที่ถามว่า “จะทำ Research อะไรดี?” แต่คือคนที่ตอบได้ว่า “เรามีปัญหาอะไรที่ต้องเข้าใจให้ชัด?”
เพราะมีดจะคมแค่ไหนก็ไร้ค่า…ถ้าคุณใช้มันผิดงาน
#วันละเรื่องสองเรื่อง #Research #MarketingResearch #UserResearch #Innovation #Leadership #Strategy #ภาวะผู้นำ
งานวิจัย
การตลาด
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย