Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
โลกเปลี่ยน เราต้องเปลี่ยน
•
ติดตาม
43 นาทีที่แล้ว • สิ่งแวดล้อม
🌊 EP1 — คอขวดของลุ่มเจ้าพระยา: นิยามทางชลประทาน และตำแหน่งจริงของปัญหา
การบริหารน้ำลุ่มเจ้าพระยาในฤดูน้ำหลากมีปัจจัยซับซ้อนหลายระดับ ทั้งจากน้ำเหนือ (inflow จากเขื่อนภูมิพล–สิริกิติ์), ฝนภาคกลาง, โครงสร้างเมือง, และอิทธิพลน้ำทะเลหนุน แต่ปัจจัยที่สำคัญที่สุด และเป็นตัวกำหนด “ความเร็ว–ความช้า” ของการระบายน้ำทั้งลุ่มน้ำ คือสิ่งที่เรียกว่า คอขวด (Hydraulic Bottleneck)
คำนี้ถูกใช้บ่อยมากในสื่อ แต่หลายครั้งถูกตีความคลาดเคลื่อน
ในทางวิศวกรรมอุทกวิทยา คำว่า “คอขวด” มีความหมายเฉพาะเจาะจง ดังนี้:
🔎 1. นิยาม “คอขวด” แบบวิศวกรรม
คอขวด = ตำแหน่งที่ความสามารถระบายน้ำสูงสุด (Maximum Discharge Capacity: Qmax) ต่ำกว่าปริมาณน้ำที่ต้องระบายจริงในช่วงเวลานั้น
กล่าวคือ
ไม่ได้ขึ้นกับว่าปริมาณน้ำมากหรือน้อย
ไม่ได้ขึ้นกับว่าลำน้ำเล็กหรือใหญ่
ไม่ได้ขึ้นกับว่าดูไหลช้า
ไม่ใช่การตัดสินด้วยสายตา
และไม่ใช่ “แม่น้ำน้อย” ตามชื่อ
คอขวดต้องเป็นตำแหน่งที่ “ระบบระบายไม่ทัน” โดยปริมาณ
นี่คือกฎที่ใช้ได้กับทุกลุ่มน้ำของโลก
🔎 2. คอขวดของลุ่มเจ้าพระยาอยู่ตรงไหน?
คำตอบชัดเจนที่สุดในเชิงพื้นที่ คือบริเวณ
เจ้าพระยาตอนล่าง ตั้งแต่จังหวัดปทุมธานี – นนทบุรี – กรุงเทพมหานคร – สมุทรปราการ จนถึงปากอ่าวไทย
พื้นที่นี้คือ “ประตูสุดท้าย” ของน้ำจากลุ่มเจ้าพระยาทั้งหมดก่อนลงทะเล
สาเหตุที่กลายเป็นคอขวด ได้แก่:
✔ (1) Slope ต่ำมาก (Low Gradient Reach)
ช่วงแม่น้ำตั้งแต่บางไทร–ปทุมธานีลงถึงทะเล
มีความลาดชันต่ำกว่าตอนบนหลายระดับ
จึงเป็นช่วงที่น้ำไหลได้ช้าตามธรรมชาติ
✔ (2) หน้าตัดแม่น้ำแคบลงจากการรุกล้ำลำน้ำ
พื้นที่สำคัญ เช่น
นนทบุรี
บางพลัด
บางซื่อ
คลองสาน
มีโครงสร้างริมแม่น้ำหลายประเภท เช่น
ตลิ่งถม, ถนนเลียบแม่น้ำ, สิ่งปลูกสร้างริมน้ำ, คอนโด
ทำให้ลำน้ำหดตัว → Qmax ลดลง
✔ (3) น้ำทะเลหนุน (Tidal Backwater Effect)
ปากน้ำเจ้าพระยาเป็นปากอ่าวลึก–คดเคี้ยว
น้ำทะเลขึ้นทำให้การไหลออกทะเลลดลงทันที
และแรงหนุนย้อนขึ้นถึงปทุมธานีในบางช่วง
ส่งผลให้ช่วงปลายน้ำมีศักยภาพการระบายต่ำลงชัดเจน
✔ (4) คลองระบายทุกเส้นของลุ่มเจ้าพระยารวมออกที่ปลายน้ำเดียวกัน
คลองหลักที่ระบายเข้าปลายน้ำ เช่น
คลองระพีพัฒน์
คลองมหาราช
คลองชัยนาท–ป่าสัก
คลองบางบาล–บางไทร
รวมถึงลำน้ำรอง เช่นแม่น้ำน้อย
สุดท้ายทุกสายต้องไปเจอ “ช่องทางออกทะเลเดียวกัน”
ดังนั้น ถ้าปลายทางตัน → ทั้งระบบจะช้าลงทันที
🔎 3. ทำไม “แม่น้ำน้อย” จึงไม่ใช่คอขวด
แม่น้ำน้อยเป็นเพียง แม่น้ำสาขา
ไหลจากเสนา–ผักไห่ไปบรรจบเจ้าพระยาที่ปทุมธานี
แม้จะคดเคี้ยว แคบ หรือไหลช้าบางช่วง
แต่ ไม่ได้เป็นทางออกสุดท้ายของน้ำทั้งลุ่ม
จึงไม่ใช่ bottleneck ในเชิงระบบ
แม้จะเป็นลำน้ำที่มีข้อจำกัดบางประการ แต่ไม่ใช่ “คอขวดของทั้งเจ้าพระยา”
🔎 4. ผลเชิงระบบของคอขวดเจ้าพระยาตอนล่าง
เมื่อฝนตกหนักภาคกลาง หรือเมื่อน้ำเหนือสูงผิดปกติ
คอขวดปลายน้ำจะจำกัดความสามารถในการระบายลงทะเล
ซึ่งทำให้เกิด:
ระดับน้ำสูงยาวในอยุธยา
ระดับน้ำท่วมขังในปทุม–นนท์
การดันน้ำย้อนในคลองสาขา
ความจำเป็นต้องใช้ “ทุ่งรับน้ำ” เพื่อหน่วงน้ำชั่วคราว
การตัด peak เข้าทุ่งล่าง (บางบาล–บางไทร) เพื่อถ่วงเวลา
นี่คือเหตุผลว่าทำไม
การระบายน้ำในลุ่มเจ้าพระยาจึง “ช้าตามธรรมชาติของภูมิประเทศ”
ไม่ใช่เพราะการบริหารผิดพลาด
⭐ สรุป EP1
“คอขวด” ในทางชลประทาน = จุดที่ Qmax ต่ำที่สุดของระบบ
คอขวดจริงของลุ่มเจ้าพระยา = เจ้าพระยาตอนล่าง (ปทุม–นนท์–กทม.–สมุทรปราการ)
สาเหตุ = slope ต่ำ + หน้าตัดแคบลง + น้ำทะเลหนุน + คลองทุกเส้นรวมกันที่ปลายน้ำ
แม่น้ำน้อยไม่ใช่คอขวด
ปรากฏการณ์คอขวดเป็นตัวกำหนดทุกการตัดสินใจเรื่อง “ทุ่งรับน้ำ” และ “คลองระบายใหม่”
วิทยาศาสตร์
สังคม
ปรัชญา
บันทึก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
คอขวด–ทุ่งรับน้ำ–บางบาล–บางไทร–คลองระบายใหม่
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย