ทำไมบางคนมีความคิดว่า "การออกกำลังกาย" คือ "การทำโทษ"
ต้องบอกก่อนว่าสิ่งที่เราจะเล่าต่อไปนี้ อ้างอิงจากประสบการณ์ส่วนตัวนะ คือเราคิดว่าน่าจะมีคนที่เคยคิดแบบเราว่าเวลาที่เราหลุดมื้ออาหารเช่น ไปกินของหวาน ชาบู หรือของมันๆ ในวันหยุดหรืองานเลี้ยงต่างๆ จะมีความคิดนึงผุดขึ้นในหัวว่า "ตายละ!!! กินเค้กช็อกโกแลตไป 2 ชิ้น เดี๋ยวกลับบ้านไปออกกำลังกายเอาออกดีกว่า" หรือ "ไปงานเลี้ยงบริษัทมากินเยอะมากเลย เดี๋ยวไปวิ่งเอาออกซัก 600 แคล" ซึ่งเราเข้าใจมากๆ เราเลยอยากมาแชร์การปรับวิธีคิดและการรับมือกับความคิดเหล่านี้
- ●คิดแบบมองโลกตามความจริง คือ กินอาหารแย่มื้อเดียวไม่ทำให้อ้วน และออกกำลังกายวันเดียวไม่ทำให้ผอม
เราจะบอกว่า ไม่มีทางที่การกินหรือการออกกำลังกายแค่วันเดียวแล้วจะเกิดผลลัพธ์ ทุกอย่างล้วนใช้เวลาและการสะสมที่ยาวนาน ดังนั้นสิ่งที่เราจะสื่อคือไม่ต้องกังวลเลยว่ากินหลุดกินเกิน 1 มื้อจะทำให้อ้วน นั่นเป็นเพราะว่าร่างกายต้องใช้ 7,700 แคลอรี่ในการสะสมไขมันเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับการออกกำลังกายวันเดียวก็ไม่ทำให้ผอมทันที ดังนั้นกินให้มีความสุข และออกกำลังกายตามตารางดังเดิม
- ●เราอาจจะฟิตหุ่นแบบผิดวิธี
จะบอกว่าเรื่องนี้เราก็เคยคิดอย่างนี้สมัยออกกำลังฟิตหุ่นแรกๆ ตอนนั้นกลัวการกินเพราะมีความคิดว่าออกกำลังกายแล้วต้องกินน้อยลง ไม่งั้นที่เผาผลาญไปจะสูญเปล่า ผลคือกล้ามเนื้อไม่ขึ้น เเรงไม่เพิ่ม หุ่นไม่เปลี่ยน เราจึงเริ่มศึกษาจากอินฟลูฟิตเนสและโภชนาการชื่อดังขึ้นต้นด้วย "F" เขากล่าวว่า "การที่จะสร้างกล้ามเนื้อมันต้องการ 3 อย่าง คือ 1.การออกกำลังกาย(ทั้งเวทและคาร์ดิโอที่เหมาะสม) 2.สารอาหารและพลังงานต้องถึง 3.นอนให้พอและมีคุณภาพ จากนั้นเราลองปรับตามก็เห็นผลลัพธ์ที่ดีมากขึ้น
📝บทสรุปของหัวข้อนี้
- ●ร่างกายต้องใช้ 7,700 แคลอรี่ ที่จะอ้วนขึ้นหรือผอมลง ดังนั้นไม่ต้องคิดทำโทษตัวเองถ้ากินแย่มื้อเดียว
- ●การสร้างหุ่นที่ดีไม่ใช่การออกกำลังกายให้หนักและกินน้อย แต่คือการเข้าใจองค์ประกอบเรื่องการออกกำลังกาย การกิน และการนอน ที่ต้องทำไปพร้อมกันอย่างสม่ำเสมอ
#สุขภาพ
#mindset
#การออกำลังกาย
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
