24 นาทีที่แล้ว • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

ผกก. เผยเคยเกือบหยุดพัฒนา “Sisu: Road to Revenge” ก่อนจะผุดไอเดียย้ายบ้านฝ่าดงทหาร

ไม่แปลกนัก หากหนังสักเรื่องที่มีพล็อตง่าย ๆ แต่มีตัวละครน่าจดจำ จะกลายมาเป็นแฟรนไชส์ภาพยนตร์ เฉกเช่น อดีตยอดนักรบโผกหัวจอมโหด, นักฆ่าไร้เงามหากาฬ หรือกระทั่ง ผู้เฒ่าอดีตนายทหารโคตรถึกที่ขนทองข้ามพรมแดน จนเตรียมมาสานต่อตำนานอีกครั้งใน “Sisu: Road to Revenge” ที่ในทีแรกเกือบไม่ได้เกิดขึ้น เพราะตัวผู้กำกับฯ คิดว่าไอเดียแรกเริ่มนั้นไม่ดีพอ จนกระทั่ง ไอเดียเรื่องของการโยกย้ายบ้านทั้งหลังกลายเป็นเรื่องน่าสนใจขึ้นมา
โดยทาง Variety ได้สัมภาษณ์ผู้กำกับฯ ยาลมารี เฮลานเดอร์ ในงานฉายรอบปฐมทัศน์ในเทศกาล Fantastic Fest เมื่อกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา เพื่อพูดคุยถึงแง่มุมในการสร้างภาคต่ออย่าง “Sisu: Road to Revenge” ที่ถึงแม้ตาเฒ่าถึก จะต้องหาทางฝ่ากองพันทหารโซเวียตอีกครั้งก็ตาม แต่ เฮลานเดอร์ ก็เผยว่า เขาเกือบเคยหยุดพักการพัฒนาภาคต่อที่ Sony ร้องขอ จนกระทั่ง เขาผุดไอเดียเรื่องการกลับไปขนบ้านของตาเฒ่าอาตามิ
“คือทาง Sony อยากให้ผมสร้างภาคต่อ และผมก็พอจะมีไอเดียอยู่บ้าง แต่ช่วงนึง ผมก็ตัดสินใจว่า ไอเดียภาคต่อเหมือนยังดีไม่พอ”
“จนกระทั่งผู้อำนวยการสร้าง พีทรี จอกีรานตา ทำให้ผมครุ่นคิดหนักขึ้น ด้วยการบอกว่า ‘แต่เหมือนเราให้คำมั่นไว้แล้วนะ ว่าเขายอมกลับมา’ จากนั้น วันนึงพอก็มีไอเดียที่เขาจะหวนกลับไปย้ายบ้านเขา ซึ่งผมคิดว่า มันเป็นไอเดียที่เข้าท่าดี และมันก็ดีพอ ที่ผมมีกึ๋นจะพยายามทำให้มันเป็นหนังที่ดียิ่งกว่า ‘Sisu’ เพราะแน่นอน ว่าผมควรต้องตั้งใจทำให้ดียิ่งกว่า หรืออย่างน้อย พยายามทำให้มันดีกว่าเดิม” เฮลานเดอร์ กล่าว
ทั้งนี้ แม้ปราดแรก เรื่องราวอาจจะดูเดินตามรอยภาคแรกก็ตาม แต่สิ่งที่น่าสนใจสำหรับ “Sisu: Road to Revenge” ก็คือ สตีเฟน แลง จากแฟรนไชส์ “Avatar” ที่จะมาประชันบทบาทกับ ยอร์มา ทอมมิลลา ในบทบาทนายพลคู่แค้นเก่า ซึ่งแท้จริง เฮลานเดอร์ ไม่เคยคิดถึงนักแสดงลายครามไว้ใกล้เคียงกันกับทอมมิลลาเลยด้วยซ้ำ แต่เป็นไอเดียจากทาง Sony ที่ทำให้เส้นทางโลกันตร์แห่งนี้ น่าดูชมและเข้าท่ามากขึ้น
นอกเหนือจากนี้ เฮลานเดอร์ ยังเปรย ๆ ด้วยว่า เขาพอมีไอเดียสำหรับภาคต่อของ “Sisu” เอาไว้แล้ว ทั้งความเป็นไปได้ที่จะย้อนกลับไปเล่า ช่วงชีวิตของอาตามิสมัยวัยหนุ่มที่อยู่ในห้วงสงคราม กระนั้นเอง เจ้าตัวก็ไม่มั่นใจว่าเขาจะได้สร้างหรือเปล่าก็ตาม แต่เฉกเช่นชะตากรรมของอาตามิ ที่ความถึกทนทรหด ก็อาจทำให้อะไรก็เกิดขึ้นได้
“มันเป็นความคิดของ Sony เหมือนกัน ว่าให้ลองถามเขาดูสิ เพราะตามจริง ผมอยากได้นักแสดงรุ่นเด็กมากกว่า แต่ตอนที่ผมได้ยินไอเดียนั้น มันก็ชัดเจนจนรู้สึกว่า ‘แหงล่ะ มันก็ต้องเป็นสตีเฟน แลง สิว่ะ’ แถมทั้ง สตีเวน กับ ยอร์มา ก็มีความคล้ายคลึงมาก ทั้งที่มาที่ไปและตัวตนของพวกเขา และผลลัพธ์มันก็ออกมาสวยงามมาก”
“และผมพอมีหลายไอเดียสำหรับภาคต่อนะ ถึงผมจะไม่มั่นใจว่า มันจะเกิดขึ้นหรือเปล่าก็เถอะ ซึ่งผมก็คิดถึงช่วงชีวิตวัยหนุ่มของอาตามิหลายต่อหลายครั้ง ว่าชีวิตเขาเป็นยังไง โดยเฉพาะช่วงที่ผมกำลังถ่ายภาคสอง ทั้งเรื่องราวครอบครัว ทั้งสงคราม และสิ่งที่สงครามส่งผลต่อเขาและทุกสิ่งอย่าง” เฮลานเดอร์ กล่าวทิ้งท้าย
“Sisu: Road to Revenge” ว่าด้วยเรื่องราวของ ตาเฒ่า อาตามิ บุรุษที่นรกปฏิเสธได้หวนกลับมายังบ้านหลังเดิม ที่ครอบครัวของเขาถูกกวาดล้างอย่างโหดเหี้ยมในช่วงสงคราม เขาตัดสินใจรื้อบ้าน บรรทุกขึ้นรถ และเตรียมไปปลูกบ้านหลังใหม่ที่ปลอดภัยและมีเกียรติพอสำหรับพวกเขา จนกระทั่ง ผู้บังคับบัญชากองทัพแดงของโซเวียตที่เคยมีความหลังกับเขา หวนกลับมาเพื่อหวังปิดบัญชี การไล่ล่าข้ามประเทศอันดุเดือดเลือดออกตา ทั้งการต่อสู้จนตัวตาย เปี่ยมด้วยไหวพริบและฉากแอ็คชั่นที่น่าตื่นเต้น จึงเริ่มขึ้น
“Sisu: Road to Revenge” กำกับและเขียนบทโดย ยาลมารี เฮลานเดอร์ (“Sisu” และ “Big Game”) นำแสดงโดย ยอร์มา ทอมมิลลา, ริชาร์ด เบรค, ไอนาร์ ฮาราล์ดสัน, แจ็คโค ฮัชชิ่ง, เออร์โก คุปปาส์, แอนตัน คลิงก์ และ สตีเฟน แลงก์
“Sisu: Road to Revenge” วางกำหนดฉายในไทย 4 ธันวาคม 2025
โฆษณา