เมื่อวาน เวลา 10:01 • หุ้น & เศรษฐกิจ

‘เงินออม‘ ก้อนสุดท้ายถูก ‘เงินเฟ้อ’ กลืน ค่าครองชีพสูงเรื้อรัง ‘ชนชั้นกลาง‘ หมดแรง

‘เงินออม‘ ก้อนสุดท้ายถูก ‘เงินเฟ้อ’ กลืน ค่าครองชีพสูงกว่า 25% เรื้อรังนาน 5 ปี กำกลังกัดกินกำลังซื้อผู้บริโภค ‘ชนชั้นกลาง‘ ชาวอเมริกันหมดแรง
“ชนชั้นกลาง” ในสหรัฐอเมริกากำลังอยู่ในภาวะอ่อนล้าและไม่พอใจอย่างรุนแรง หลังจากต้องรับมือกับราคาสินค้าที่พุ่งสูงมาเกือบ 5 ปีอย่างไม่หยุดหย่อน หลายคนเชื่อว่าตอนนี้ค่าครองชีพน่าจะกลับมาถูกลงแล้ว แต่ข้อมูลชี้ชัดว่า ราคารวมของสินค้าและบริการตั้งแต่ปี 2020 ได้สูงขึ้นไปแล้วกว่า 25%
แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อโดยรวมจะลดลงจากจุดสูงสุดในปี 2022 แต่ค่าใช้จ่ายสำหรับสินค้าจำเป็นบางอย่าง เช่น กาแฟ เนื้อบด และค่าซ่อมรถ กลับยังคงเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในปีนี้ ทำให้ “กำลังซื้อ” ซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริโภคหลักของประเทศ ต้องเผชิญกับ “วิกฤตความสามารถในการซื้อ” (Affordability Crisis) ที่กัดกินความมั่นคงทางการเงินในชีวิตประจำวันอย่างหนัก
📌 ค่าใช้จ่ายพุ่งทะลุเพดาน
ชนชั้นกลางอเมริกัน ซึ่งตามนิยามของ Pew Research Center คือกลุ่มที่มีรายได้ครัวเรือนระหว่าง 66,666 ถึง 200,000 ดอลลาร์ กำลังรู้สึกแย่ลงกับทั้งสถานะทางการเงินส่วนตัวและอนาคตของประเทศ
ฮอลลี่ ฟรูว์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารของวิทยาลัยในแอตแลนตา มีรายได้ครัวเรือนประมาณ 135,000 ดอลลาร์กล่าวว่า "เมื่อหนึ่งปีครึ่งที่แล้ว ชีวิตยังรู้สึกว่าจัดการได้มากกว่านี้... ฉันอยากรู้ว่าแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์อยู่ที่ไหนกันแน่"
ขณะที่ครอบครัวผู้มีอันจะกินที่สุดกำลังเพลิดเพลินกับผลกำไรจากตลาดหุ้นและยังคงใช้จ่ายอย่างเต็มที่ ชนชั้นกลางกลับถูกบีบคั้นและไม่พอใจกับต้นทุนที่สูงขึ้นของทุกสิ่ง ตั้งแต่ราคาเนื้อสเต็กไปจนถึงโซฟาใหม่
ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ของฮาร์วาร์ด สเตฟานี สแตนเชวา ระบุว่า "ผู้คนรู้สึกว่ามาตรฐานการครองชีพของพวกเขากำลังถดถอยลง" และราคาที่สูงขึ้นทำให้คนกลุ่มนี้ต้องมองหาสินค้าราคาถูกลงและใช้จ่ายอย่างระมัดระวังมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า 44% ของผู้มีรายได้ปานกลางรู้สึกว่าสถานการณ์ทางการเงินของพวกเขาแย่ลงกว่าหนึ่งปีที่แล้ว โดยให้เหตุผลหลักคือ “ราคาสินค้าที่สูงขึ้น”
โฆษณา