24 พ.ย. เวลา 02:09 • คริปโทเคอร์เรนซี

คริปโตเลือดสาด! Bitcoin หลุด $90,000 จบสิ้นยุค Supercycle หรือแค่พักฐาน?

เคยได้ยินคำสัญญาที่หอมหวานที่สุดในโลกการเงินไหมครับ คำสัญญาที่บอกว่าสินทรัพย์อย่าง Bitcoin กำลังจะเข้าสู่สิ่งที่เรียกว่า Supercycle ซึ่งเป็นวัฏจักรขาขึ้นรอบใหญ่ที่จะไม่มีวันจบสิ้น
เราถูกกรอกหูมาตลอดว่า bitcoin จะพุ่งไปสู่ 200,000 ดอลลาร์สหรัฐ เป็นอนาคตที่ต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
แต่แล้วในสัปดาห์นี้ ภาพฝันเหล่านั้นมันจบลงด้วยเสียงเครื่องจักรที่พังทลาย และความเงียบงันของพอร์ตการลงทุนที่ตัวเลขสีแดงฉานเข้ามาแทนที่
เมื่อ Bitcoin ร่วงดิ่งลงมาต่ำกว่าระดับ 90,000 ดอลลาร์ และลบผลกำไรที่สะสมมาตลอดทั้งปี 2025 ที่แทบจะหายไปจนหมดเกลี้ยง
ตลาดการเงินกำลังบังคับให้เราต้องเผชิญหน้ากับความจริงที่เหล่านักวิจารณ์พยายามตะโกนบอกมานานหลายปีว่า หากปราศจากเม็ดเงินราคาถูกและกระแสเก็งกำไรจากกฎระเบียบแล้ว “ราชาแห่งคริปโต” ก็แทบไม่มีอะไรเหลือเลย
เหตุการณ์นี้ชัดเจนที่สุดในวันที่ 17 พฤศจิกายน เมื่อราคาทะลุผ่านแนวรับสำคัญลงมา…
Peter Schiff นักวิจารณ์คริปโตชื่อดังไม่ได้แค่ออกมาฉลองชัยชนะ แต่เขาถึงขั้นกล่าวคำไว้อาลัยให้กับเรื่องราว “Store of Value”
1
เพราะในขณะที่ราคาทองคำพุ่งแตะจุดสูงสุดตลอดกาล Bitcoin กลับสะดุดขาตัวเองล้มลง ซึ่ง Schiff มองว่านี่คือหลักฐานที่เปิดโปงว่าโฆษณาชวนเชื่อเรื่องทองคำดิจิทัลนั้นเป็นเพียงภาพลวงตา
การร่วงลงในช่วงปลายปี 2025 นี้ไม่ใช่ความผันผวนที่เกิดขึ้นเหมือนที่ผ่านมา แต่มันคือปฏิกิริยาที่มีเหตุผลต่อพายุลูกใหญ่ที่ก่อตัวขึ้นจากการผิดคำสัญญา
จุดเริ่มต้นของหายนะไม่ได้เกิดขึ้นบน Blockchain แต่เกิดขึ้นในระบบเศรษฐกิจจริง
สมมติฐานทั้งหมดของตลาดกระทิงปี 2025 วางอยู่บนความเชื่อเดียวว่า Federal Reserve จะเร่งลดดอกเบี้ยเพื่อชดเชยความอ่อนแอทางเศรษฐกิจ แต่สมมติฐานนั้นตายไปแล้วตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม
ข้อมูลจาก St. Louis Fed เปิดเผยความจริงอันโหดร้ายว่านโยบายภาษีศุลกากรใหม่กำลังผลักดันให้เงินเฟ้อกลับมาสูงขึ้น จนทำให้ Federal Reserve ไม่สามารถปล่อยสภาพคล่องออกมาได้
Bitcoin ที่หวังพึ่งสภาพคล่องจึงแทบขาดอากาศหายใจไปในทันที…
ในขณะที่นักลงทุนรายย่อยยังคงสนุกสนานกับมีมตลกๆ ฝั่งผู้เล่นที่เก๋าเกมที่สุดในวงการเทคโนโลยีกำลังทยอยออกจากตลาด
สัญญาณเตือนภัยครั้งนี้ไม่ใช่ตัวเลขในกราฟคริปโต แต่มันคือหุ้น “Nvidia”
เมื่อเอกสารยื่นต่อหน่วยงานกำกับดูแลเปิดเผยว่า Founders Fund ของ Peter Thiel และ Softbank ได้ขายหุ้นของบริษัทผลิตชิป AI รายนี้จนเกลี้ยงพอร์ต
มันเป็นการส่งสัญญาณว่าการเทรดเก็งกำไรในเทคโนโลยีแห่งอนาคตได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว
และเมื่อ Bitcoin ถูกมองว่าเป็นตัวแทนของสินทรัพย์กลุ่มนี้ บอทเทรดอัลกอริทึมจึงสั่งขายทันทีที่เห็น Smart Money ลุกจากวง
หมัดน็อคทางจิตวิทยาสุดท้ายมาจากกลุ่มคนที่นักลงทุนเชื่อว่าเป็นผู้กอบกู้ อุตสาหกรรมนี้หลอกตัวเองว่ารัฐบาลชุดใหม่และประธาน ก.ล.ต. Paul Atkins จะนิรโทษกรรมให้กับทั้งภาคธุรกิจ
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงคือสุนทรพจน์เรื่อง “Project Crypto” ที่เน้นการจำแนกประเภทโทเคนอย่างเคร่งครัดมากกว่าการลดกฎระเบียบ
หนำซ้ำ “BITCOIN Act of 2025” ที่เป็นความหวังว่ารัฐบาลสหรัฐจะเข้าซื้อ Bitcoin มูลค่า 1 แสนล้านดอลลาร์ ก็เงียบหายไปในชั้นคณะกรรมาธิการ
ซึ่งเมื่อตลาดตระหนักว่าไม่มี “แรงซื้อจากภาครัฐ” เข้ามาช่วยรับของ ส่วนต่างราคาที่เกิดจากการเก็งกำไรจึงหายไปทันที
เมื่อปัจจัยลบทั้งหมดมารวมตัวกัน การล่มสลายจึงกลายสภาพเป็นเรื่องของกลไกราคา
เมื่อเรื่องราวความเชื่อพังทลาย ราคาได้ไหลลงมาสู่ระดับ 89,600 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับที่มีนัยสำคัญอย่างยิ่ง เพราะมันคือต้นทุนเฉลี่ยของกองทุน “Spot ETFs” ขนาดมหึมาที่เปิดตัวไปเมื่อต้นปี
ทันทีที่ Bitcoin หลุดระดับนี้ เงินทุนสถาบันหลายพันล้านดอลลาร์ก็เข้าสู่สถานะขาดทุน…
โมเดลบริหารความเสี่ยงของกองทุนใหญ่ๆ จึงสั่งการขายอัตโนมัติเพื่อหยุดความเสียหาย นำไปสู่การไหลออกของเงินทุน ETF มหาศาล
ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่ากำแพงเงินทุนสถาบันที่เคยถูกคาดหวังว่าจะช่วยปกป้องตลาด กลับกลายเป็นตัวเร่งให้เกิดการร่วงหนักขึ้นเสียเอง
ความเสียหายที่เกิดขึ้นในเดือน พฤศจิกายน 2025 นี้นับเป็นความเสียหายเชิงโครงสร้างครั้งสำคัญ
ทฤษฎี “Four Year Cycle” ที่ทำนายว่าจะเกิดจุดสูงสุดในช่วงปลายปี 2025 ได้ถูกทำลายลง สอดคล้องกับทฤษฎี Left Translated ที่ชี้ว่าจุดสูงสุดของตลาดได้ผ่านไปแล้ว
เมื่อมองไปข้างหน้า Arthur Hayes ผู้ก่อตั้ง BitMEX คาดการณ์ว่าหากไม่มีสภาพคล่องใหม่ Bitcoin อาจไหลลงไปต่อที่ช่วง 80,000 ถึง 85,000 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นโซนที่นักลงทุนเน้นคุณค่าอาจจะเริ่มกลับเข้ามา
1
นอกจากนี้เรายังต้องจับตาดูการยอมจำนนของเหล่านักขุด เพราะด้วยราคาที่ร่วงลงแต่กำลังการขุดยังสูงอยู่ เหมืองที่ไม่มีประสิทธิภาพอาจต้องปิดตัวลง ซึ่งมักจะเป็นสัญญาณของการเทขายครั้งสุดท้ายก่อนจะเจอจุดต่ำสุด
ดูเหมือนว่าผู้กอบกู้เพียงหนึ่งเดียวที่เป็นไปได้คือการกลับลำของ Fed ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าต้องรอให้มีสภาพคล่องเพิ่มขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายดอกเบี้ยเท่านั้น ถึงจะสร้างโอกาสขาขึ้นครั้งใหม่ได้
แต่นั่นก็น่าจะไม่เกิดขึ้นจนกว่าจะถึงไตรมาสแรกของปี 2026…
ซึ่งจนกว่าจะถึงตอนนั้น ตลาดยังคงอยู่ในแดนสนธยาที่ติดอยู่ระหว่างเรื่องราวความเชื่อกับความเป็นจริงทางเศรษฐกิจที่โหดร้ายอย่างแท้จริง
References : [trefis, stlouisfed, federalreserve, sec, bitmex]
◤━━━━━━━━━━━━━━━◥
หากคุณชอบคอนเทนต์นี้อย่าลืม 'กดไลก์'
หากคอนเทนต์นี้โดนใจอย่าลืม 'กดแชร์'
คิดเห็นอย่างไรคอมเม้นต์กันได้เลยครับผม
◣━━━━━━━━━━━━━━━◢
The original article appeared here https://www.tharadhol.com/crypto-bloodshed/
ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA ด.ดล Blog
คลิกเลย --> https://lin.ee/aMEkyNA
รวม Blog Post ที่มีผู้อ่านมากที่สุด
——————————————–
ติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่
=========================
โฆษณา