Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Somedayinthesummer
•
ติดตาม
24 พ.ย. เวลา 12:00 • กีฬา
เมื่อชีวิตเร็วกว่าหัวใจ: ถอดบทเรียน ‘เดเล่ อัลลี่’ วันที่ความสำเร็จเป็นเพียงยาชาชั่วคราว
ในชีวิตของใครหลายคน เราอาจเคยเห็นใครสักคนที่กราฟชีวิตทะยานขึ้นดั่งจรวด “ทั้งงานดี เงินดี ความสัมพันธ์สมบูรณ์แบบ” จนดูเหมือนไม่มีอะไรจะฉุดรั้งเขาไว้ได้ แต่กฎฟิสิกส์บอกกับเราเสมอ ยิ่งวัตถุเคลื่อนที่ได้เร็วเท่าไหร่ ‘แรงต้าน’ ที่ต้องเผชิญก็จะยิ่งมหาศาลเท่านั้น หากรากฐานไม่แข็งแรงพอ จรวดลำนั้นอาจจะระเบิดลงมาในพริบตา
เรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึง “เดเล่ อัลลี” อดีตวันเดอร์คิดที่ครั้งหนึ่งคือสมบัติล้ำค่าของฟุตบอลอังกฤษ ชายผู้ที่ติดทีมชาติชุดลุยฟุตบอลโลก 2018 และมีมูลค่าประเมินสูงถึง 155 ล้านยูโร แต่แล้ววันหนึ่ง กราฟชีวิตของเขากลับดิ่งลงเหวอย่างรุนแรงและไม่มีใครได้ทันตั้งตัว เปลี่ยนจากดาวรุ่งจรัสแสง สู่คนที่สโมสรในยุโรปไม่เหลียวมอง
นี่ไม่ใช่แค่เรื่องราวความล้มเหลวในสนามหญ้า แต่มันคือบทเรียนอันล้ำค่าของ ‘จังหวะชีวิต’ ที่เมื่อพุ่งขึ้นสู่ยอดเร็วเกินไป โดยปราศจากรากฐานที่มั่นคง แรงเสียดทานของความสำเร็จอันมากมายนั้น อาจเป็นสิ่งที่มนุษย์คนหนึ่งจะรับมือได้ยากที่สุด
เดเล่ อัลลี่ในช่วงวัยเด็ก
รากฐานของตึก คือเสาเข็ม
แต่รากฐานของชีวิต คือวัยเด็ก
หากเราย้อนกลับไปดูจุดเริ่มต้นของจรวดลำนี้ มันไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาในห้องทดลองที่สมบูรณ์แบบ แต่กลับเริ่มขึ้นท่ามกลางรอยร้าวในเมืองมิลตัน คีย์นส์ ปี 1996 เพียง 1 สัปดาห์หลังจากลืมตาดูโลก พ่อผู้ให้กำเนิดก็บินข้ามทวีปไปอเมริกา ทิ้งเขาไว้กับแม่เดนิส หญิงสาวที่มีปัญหาเรื่องติดแอลกอฮอล์ บ้านจึงไม่ใช่สถานที่ปลอดภัยสำหรับเด็กชายตัวน้อย สภาพแวดล้อมมันได้บีบคั้น ผลักไสให้เขาออกไปใช้ชีวิตนอกบ้าน กลายเป็น “เด็กข้างถนน” ที่ต้องเรียนรู้โลกจากกลุ่มผู้ใหญ่และสังคมที่อันตราย เร็วกว่าเด็กวัยเดียวกันที่ควรจะได้พบเจอ
ชีวิตบนท้องถนนเปรียบเสมือนเหรียญสองด้านสำหรับเดเล่ ด้านหนึ่ง มันคือพื้นที่เดียว ที่เขาสามารถวิ่งหนีจากความจริงอันโหดร้าย และทำให้เขาได้ค้นพบ ‘ฟุตบอล’ ซึ่งเปรียบเสมือนยาวิเศษชนิดเดียว ที่ช่วยเยี่ยวยาจิตใจของเขา
แต่อีกด้านหนึ่ง สังคมข้างถนนที่ไร้การควบคุม กลับกลายเป็นพื้นที่ความทรงจำอันโหดร้าย ที่ฝังลึกในความทรงจำของเขา เขาถูกล่วงละเมิดทางเพศโดยเพื่อนของแม่ในวัยเพียง 6 ขวบ เริ่มสูบบุหรี่ตอน 7 ขวบ ก่อนขยับไปสู่การค้ายาเสพติดด้วยจักรยานในวัยแค่ 8 ขวบ นี่ไม่ใช่ชีวิตแบบเด็กทั่วไป แต่มันคือโลกไร้กฎเกณฑ์ที่หล่อหลอมให้เขาต้องเอาตัวรอด
ภาพช่วงเวลาที่เดเล่ อัลลี่อาศัยอยู่กับคุณพ่อ
ทว่า เมื่ออายุครบ 9 ขวบ แรงสั่นสะเทือนระลอกใหม่ก็โถมเข้าใส่อีกครั้ง เมื่อเขาถูกส่งตัวข้ามทวีปไปอยู่กับคุณพ่อที่ไนจีเรีย จากชีวิตที่ไร้กรอบ ไม่มีใครคอยควบคุมสู่ชีวิตที่ต้องเจอกับ ‘กฎระเบียบ’ อันเคร่งครัด ด้วยสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน สำหรับเด็กที่รากฐานทางจิตใจไม่เคยแข็งแรง การถูกดัดด้วยไม้แก่ให้ตรงในทันที กลับกลายเป็นความทรมาน จนเขาถึงกับเอ่ยปากไปถึงช่วงเวลานั้นว่า “ผมไม่อยากอยู่ที่นั่นเลย”
แม้อีก 2 ปีต่อมา เขาจะได้กลับมาเหยียบแผ่นดินอังกฤษอีกครั้ง แต่บาดแผลจาก 11 ปีแรกของชีวิต ได้หล่อหลอมตัวตนที่ไม่มั่นคงขึ้นมาแล้ว เดเล่เติบโตด้วยการเรียนรู้ที่จะ ‘หนีความจริง’ เพื่อระงับสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้น ทั้งการพึ่งพาบุหรี่และแอลกอฮอล์ แต่สิ่งที่น่ากังวลคือ สภาพแวดล้อมที่สอนให้เขาสร้างกำแพงสูงลิ่ว เพื่อปิดกั้นตัวเองและปฏิเสธความช่วยเหลือจากผู้อื่น ปัจจัยทั้ง 2 อย่างที่เกิดขึ้นนี้ กำลังจะกลายเป็นอุปสรรคชิ้นใหญ่ที่สุดในอาชีพค้าแข้งของเขาในอนาคต
ท่ามกลางความมืดมน มีเพียงสิ่งเดียวที่เปรียบเสมือนแสงสว่างช่วยบรรเทาความเจ็บปวดให้ทุเลาลงได้ นั่นคือ ‘พรสวรรค์’ ลูกหนังของเขา ในวัย 11 ขวบ ฟุตบอลจะกลายเป็นเชื้อเพลิงชั้นดีที่กำลังจะพาเขาพุ่งทะยานสู่จุดสูงสุดอย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่มีใครทันสังเกตเลยว่า จรวดลำนี้กำลังถูกจุดระเบิดขึ้น บนชิ้นส่วนภายในที่พร้อมจะระเบิดออกได้ทุกเมื่อ
เดเล่ อัลลี่ (ตรงกลาง) กับเพื่อนในทีมเยาวชน MK Dons
‘เกราะกำบังชั่วคราว กับ
การจุดระเบิดครั้งแรก’
ในวัย 11 ขวบ เดเล่ก้าวเข้าสู่ระบบเยาวชนของ เอ็มเค ดอนส์ (MK Dons) ซึ่งหากเทียบกับมาตราฐานเด็กอังกฤษที่มักเริ่มฝึกในระบบเยาวชนจริงตั้งแต่ 5-6 ขวบ ถือว่าเขาช้ากว่าคนอื่นเกือบถึงเท่าตัว แต่ความล่าช้านั้น ก็ไม่อาจบดบัง ‘พรสวรรค์ชั้นดี’ ที่ซ่อนอยู่ภายในตัวเขาเลย ถึงแม้จะเติบโตมาด้วยรากฐานชีวิตที่ไม่มั่นคงและขาดแคลนการฝึกฝนอย่างเป็นระบบ แต่ศักยภาพที่ล้นเหลือของเขา ไปเตะตาแมวมองของสโมสร จนสามารถดึงเขาเข้าสู่เส้นทางอาชีพได้อย่างน่าอัศจรรย์
ไม่ใช่เพียงแค่ชีวิตในสนามที่เริ่มเข้ารูปเข้ารอย ชีวิตนอกสนามของเขาก็เริ่มค้นพบ ‘จุดยึดเหนี่ยว’ เป็นครั้งแรก เมื่อเขาได้ไปอาศัยอยู่กับ อลันและแซลลี่ ฮิคฟอร์ด พ่อแม่ของเพื่อนร่วมทีมเยาวชน ที่ถึงแม้ในทางนิตินัยพวกจะไม่ได้รับเลี้ยงเดเล่ เป็นบุตรบุญธรรมอย่างเป็นทางการ แต่ในทางพฤตินัยและความรู้สึก เดเล่เคารพรักและยกย่องให้ทั้งสองเป็นเสมือน “พ่อแม่” ผู้ที่มอบความอบอุ่นให้กับเขา
การได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย เปรียบเสมือนการซ่อมแซมฐานจรวดให้มั่นคงขึ้นชั่วคราว เมื่อหลังบ้านสงบ ฟอร์มหน้าบ้านก็เฉิดฉาย เดเล่ใช้เวลาเพียงแค่ 5 ปีไต่เต้าสู่ทีมชุดใหญ่ ก่อนจะใช้เวลาไม่นานหลังจากนั้น ระเบิดฟอร์ม จนคว้ารางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของฟุตบอลลีกไปครองในปี 2014 กลายเป็นเป้าหมายที่ทีมใหญ่ในอังกฤษ ต้องการตัวเป็นอย่างมาก
จนดูเหมือนว่าช่วงเวลา 8 ปีในถิ่น เอ็มเค ดอนส์ คือช่วงเวลาทองที่กราฟชีวิตของเขาพุ่งขึ้นอย่างสวยงาม สภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยและแรงเสียดทานจากความกดดันไม่สูงมาก ได้อนุญาตให้โชว์ศักยภาพได้เต็มที่โดยไม่ต้องกังวลกับสิ่งรอบข้าง
แต่ภายใต้ภาพลักษณ์เด็กหนุ่มผู้ประสบความสำเร็จ ‘กำแพง’ ในใจ ที่ได้หล่อหลอมเขาไว้ในวัยเด็กไม่ได้พังทลายลงไปด้วย เขายังคงมีนิสัยปิดกั้นความรู้สึกและปฏิเสธความช่วยเหลือจากคนรอบข้างอยู่เสมอ เพียงแต่ในระดับลีกรอง ปัญหาเหล่านี้ยังไม่ได้ถูกแรงเสียดทานบีบให้แสดงอาการออกมาเท่านั้น
จนกระทั่งปี 2014 จุดเปลี่ยนสำคัญก็มาถึง เมื่อ ‘ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ส’ ทีมยักษ์ใหญ่จากพรีเมียร์ลีก ตัดสินใจกระชากตัวเขาร่วมทีม วินาทีนั้น เปรียบเสมือนการนำจรวดที่ชิ้นส่วนภายในยังประกอบไม่สมบูรณ์ ไปติดกับเครื่องยนต์เทอร์โบที่พร้อมเร่งความเร็วระดับสูงสุด ความเร็วที่ร่างกายและจิตใจของเด็กคนหนี่ง อาจจะไม่พร้อมรับแรงเสียดทานจำนวนมหาศาลที่กำลังจะเกิดขึ้น
ท่าดีใจสุดเอกลักษณ์ของเดเล่ อัลลี่
‘จุดสูงสุดที่หนาวเหน็บ และ
เสียงเตือนที่ไปไม่ถึง
เมื่อจรวดถูกติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบ มันก็ทะยานขึ้สู่ท้องฟ้าด้วยความเร็วที่โลกต้องตะลึง ภายใต้สีเสื้อของไก่เดือยทอง และการดูแลดูของเมาริซิโอ โปเช็ตติโน กุนซือผู้เปรียบเสมือนพ่อคนที่สองของเดเล่ ได้ทำให้เขาระเบิดฟอร์มอย่างบ้าคลั่ง กลายเป็นปรากฎการณ์ในวงการฟุตบอลอังกฤษ
เขาคว้าตำแหน่งดาวรุ่งยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีค 2 ปีซ้อน ยิงประตูใส่ทีมใหญ่เป็นว่าเล่น และก้าวขึ้นไปติดทีมชาติอังกฤษชุดลุยฟุตบอลโลก 2018 ด้วยบทบาทแกนหลักของทีม ในช่วงเวลานั้น โลกทั้งใบแทบจะสยบอยู่แทบเท้าเขา กราฟชีวิตพุ่งแตะจุดสูงสุดด้วยมูลค่าการประเมิน 155 ล้านยูโร
แต่กฎของธรรมชาติยังคงทำงานอย่างซื่อตรง ‘ยิ่งเคลื่อนที่ไว แรงต้านจะยิ่งเยอะ’ ความสำเร็จถาโถมเข้ามาอย่างรวดเร็ว เปรียบเสมือนยาเสพติดที่หอมหวาน แต่มันแลกมาพร้อมกับแรงกดดันมหาศาลที่เขาต้องเผชิญ เมื่อสปอตไลท์ทุกดวงส่องมาที่เขา พื้นที่ส่วนตัวได้หายไป จากกการโดยสื่อจับจ้อง และความคาดหวังที่มหาศาลก็ได้ถาโถมใส่ชีวิตของเขา
ทันทีที่ ไฟในสนามดับลง แผลร้ายในวัยเด็กที่เป็นรากฐานของชีวิต ได้กลับออกมาอาละวาดอีกครั้ง เพื่อจัดการกับความเครียดจากแรงกดดัน และอาการนอนไม่หลับจากอะดรีนาลีนที่พุ่งพล่าน เดเล่เลือกทางออกเดิมที่เขาคุ้นเคย คือการ ‘หนีจากความจริง’ แต่ครั้งนี้ไม่ได้หนีด้วยเหล้าหรือบุหรี่อีกต่อไป เขาหันไปพึงพา ‘ยานอนหลับ’ เพื่อปิดสวิตซ์สมองให้ได้พักผ่อน
จากยาช่วยให้นอนหลับ กลายเป็นสิ่งเสพติดที่เขาขาดไม่ได้ ยาเหล่านั้นทำหน้าที่เป็น ‘เกราะกำบังเทียม’ ที่ช่วยให้เขาลืมความเจ็บปวดและความกดดันได้เพียงชั่วคร่าว เมื่อมันมากขึ้นมันก็ค่อยๆ กัดกินสภาพร่างกายและจิตใจของเขาไปอย่างช้าๆ โดยที่ไม่มีใครรู้
จุดแตกหักที่แท้จริงมาถึง เมื่อเกราะกำบังชิ้นสำคัญอย่างโปเช็ตติโน ต้องจากทีมไปและถูกแทนที่ด้วยโชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือจอมเฮี้ยบผู้มองทะลุเปลือกนอก เข้าไปไปเห็นเนื้อในที่กำลังเน่าเฟะ มูรินโญ่ตัดสินใจเรียกเดเล่เข้าไปคุยและเตือนด้วยประโยคที่โด่งดังว่า
ตอนนี้ผมอายุ 56 ปี เมื่อวานผมอายุ 20 ปีแค่แป๊ปเดียว วันนี้ผมอายุ 56 ปีแล้ว เวลามันผ่านไปเร็วมาก ผมคิดว่าคุณจะต้องเสียใจ ถ้าคุณไม่ได้ก้าวไปถึงระดับที่คุณสามารถก้าวไปถึงได้
Jose Morinho ในสารคดี All or Nothing
มันคือเสียงที่เตือนภัยระดับสูงสุดที่ดังลั่นห้องและวงการลูกหนัง แต่น่าเสียที่ ‘กำแพง’ ในใจของเดเล่นั้นหนาเกินไป เสียงของมูรินโญ่จึงเป็นได้แค่เสียงรบกวนที่เขาเลือกจะเพิกเฉย เพราะกลไกป้องกันตัวสั่งให้เขาต่อต้านผู้มีอำนาจที่พยายามจะเข้ามาควบคุมชีวิต เหมือนที่เขาเคยทำมาตลอดในวัยเด็ก
เมื่อจรวดที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงเริ่มมีชิ้นส่วนเริ่มพังทลายจากข้างใน ยังฝืนบินต่อด้วยความเร็วเท่าเดิม จุดจบจึงไม่ใช่การลงจอดอย่างนุ่มนวล แต่มันคือการระเบิดที่ลงสู่พื้นดินอย่างรวดเร็วและรุนแรง
เดเล่ อัลลี่ กับช่วงเวลาที่ท้าทายในเอฟเวอร์ตัน
“เศษซากของจรวด”
หลังจากแรงระเบิดที่สเปอร์ส เศษซากพรสวรรค์ก็กระกระจายไปทั่ว เดเล่พยายามกอบกู้ซากปรักหักพังด้วยการย้ายไป เอฟเวอร์ตัน ด้วยความหวังว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมจะช่วยจุดเครื่องยนต์ให้ติดขึ้นมาใหม่อีกครั้ง แต่เมื่อใจพัง ร่างกายก็ไม่ตอบสนอง เขาถูกมองว่าเป็นนักเตะจอมขี้เกียจที่หมดไฟ จนต้องระหกระเหินไปไกลถึงตุรกีกับเบซิสตัส
ที่นั้นกราฟชีวิตเคยสูงเสียดฟ้าได้ดิ่งลงสู่จุดต่ำสุดอย่างสมบูรณ์แบบ ภาพของนักเตะมูลค่า 155 ล้านยูโร ผู้เคยเป็นปรากฎการณ์ของฟุตบอลอังกฤษ เลือนหายไปหมดสิ้น เหลือเพียงชายหนุ่มที่หลงทางและโดดเดี่ยวในต่างแดน เขาถูกเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่นาทีที่ 28 ท่ากลางเสียงโห่ไล่จากแฟนบอลทีมตัวเอง
ความเจ็บปวดในสนามที่ว่าหนักหน่วงแล้ว แต่ความเงียบงันในห้องนอนกลับโหดร้ายยิ่งกว่า เพื่อหนีจากความรู้สึกว่าเป็น ‘สินค้าชำรุด’ เดเล่จมดิ่งสู่วังวนการใช้ยานอนหลับอย่างหนัก ไม่ใช่เพื่อการพักผ่อน แต่เพื่อการปิดสวิตซ์ความรู้สึก ให้เวลาในแต่ละวันผ่านไปโดยไม่ต้องรับรู้อะไร เขาตื่นมาซ้อม แล้วกลับไปปาร์ตี้ก่อนจะเข้านอนด้วยยานอนหลับ เพื่อหนีความจริง ชีวิตเขาวนเวียนอยู่แบบนั้นจนร่างกายและจิตใจส่งสัญญานเตือนขั้นวิกฤต
แต่ในความพังทลายนั้นเอง คือจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้ เมื่อกลับมาอังกฤษพร้อมอาการบาดเจ็บ เขาได้ตัดสินใจทำในสิ่งที่กล้าหาญที่สุดในชีวิตของเขา นั่นคือการเดินไปหาทีมแพทย์แล้วบอกว่า ‘ผมไม่ไหวแล้ว ผมต้องการความช่วยเหลือ’ เขาหายตัวไปบำบัดนานถึง 6 สัปดาห์ ในการรื้อถอนซากปรักหักพังที่สะสมมาตั้งแต่วัยเด็ก พร้อมกับสร้างรากฐานใหม่กับชีวิตของเขา ก่อนจะออกมานั่งจับเข่าคุยกับแกรี่ เนวิลล์ ในรายการ The Overlap
ในวินาทีที่เขาร้องไห้ในรายการ นั่นคือวินาทีที่เปลือกนอกอันแข็งแกร่งของอดีตวันเดอร์คิดส์ของอังกฤษ ได้ร่วงลงจนหมดสิ้น เหลือเพียงแต่มนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง ที่ยอมรับความอ่อนแอของตัวเองอย่างหมดเปลือก เพื่อแลกกับโอกาสที่จะได้กลับมามีที่ยืนอีกครั้งในชีวิต
เดเล่ อัลลี่ ขณะออกรายการ The Overlap
บทเรียนแด่ผู้เร่งรีบ
เรื่องราวของเดเล่ อัลลี่ ไม่ใช่แค่เรื่องราวของนักฟุตบอลผู้ตกอับ แต่มันคือกระจกบานใหญ่ ที่สะท้อนชีวิตภายในสังคมของพวกเราได้เป็นอย่างดี สังคมที่บูชาความรวดเร็ว ยกย่องความสำเร็จและกดดันให้เราต้องเป็นจรวดที่ต้องพุ่งขึ้นไปข้างหน้าตลอดเวลา
เราหลายคนต่างเหมือนกับเดเล่ เราพยายามเร่งเครื่องชีวิต ทำงานหนัก สร้างโปรไฟล์ สร้างเปลือกนอกให้ดูสมบูรณ์แบบ เพื่อกลบฝังความเปราะบาง ความเหนื่อยล้า หรือบาดแผลในใจที่เราไม่เคยกลับไปเยียวยา เราหลอกตัวเองว่า ‘ถ้าเราประสบความสำเร็จ เราจะมีความสุข’ หรือ ‘ถ้าเรารวยขึ้น ปัญหาทุกอย่างในชีวิตจะหายไป’
แต่เดเล่ ได้พิสูจน์ให้เราเห็นแล้วว่า กฎฟิสิกส์ของชีวิตนั้นหลอกไม่ได้เสมอไป ความสำเร็จอาจทำหน้าที่เป็นยาชาที่ช่วยให้ลืมความเจ็บปวดได้ชั่วคราว แต่เมื่อยาหมดฤทธิ์ และชีวิตเผชิญกับแรงเสียดทาน รากฐานที่ไม่มั่นคงจะกลับมาทวงคืนทุกอย่างและมักรุนแรงกว่าเดิม
วันนี้ จรวดลำที่ชื่อว่าเดเล่ อัลลี่ ได้จอดสนิทอยู่บนพื้นดิน เราไม่อาจรู้ได้เลยว่า เขาจะกลับมาบินได้สูงเหมือนเดิมหรือไม่ หรือเขาอาจจะเลือกเดินช้าๆ บนหญ้าในฐานะคนธรรมดาคนหนึ่ง แต่นั้นไม่ใช่ประเด็นสำคัญอีกต่อไป คำถามสำคัญคือ เรื่องนี้ทิ้งให้ได้ขบคิด ไม่ใช่ว่า ‘เดเล่จะกลับมาเก่งไหม’ แต่เป็นคำถามถึงตัวเราเอง ที่กำลังวิ่งไล่ตามความสำเร็จอย่างบ้าคลั่งในตอนนี้ว่า
คุณกำลังเร่งเครื่องจรวดให้พุ่งไปข้างหน้า
โดยลืมถามชิ้นส่วนข้างในหัวใจ ว่ามันรับแรงเสียดทานไหวหรือเปล่า
แหล่งที่มา
https://en.wikipedia.org/wiki/Dele_Alli
https://www.cbssports.com/soccer/news/dele-alli-opens-up-about-history-of-abuse-and-addiction-in-powerful-interview/
https://thefootyalert.com/2024/08/19/dele-ali-the-untold-story-of-rise-and-downfall/
https://www.theguardian.com/football/2018/jun/02/england-dele-alli-history-lives-schoolboy-dream-tottenham
https://www.olympics.com/en/news/football-dele-alli-mental-health-childhood-trauma
https://www.skysports.com/football/news/15122/9976578/rising-star-dele-alli-showing-exciting-potential-at-tottenham
https://footballiconic.com/the-curious-case-of-dele-alli/
https://telegrafi.com/en/Alli%27s-life-from-a-difficult-childhood%2C-an-alcoholic-mother-and-a-millionaire-father-who-didn%27t-love-her-until-she-adapted-and-returned-to-being-a-big-football-star-photo/
https://www.youtube.com/watch?v=LyDL9EUIdy0
https://mainstand.co.th/th/news/1/article/6639
ฟุตบอล
แรงบันดาลใจ
ชีวิต
1 บันทึก
1
1
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย