เมื่อวาน เวลา 02:58 • ความคิดเห็น
…การสะสมบุญกุศลบารมี มากับธาตุุทั้งสี่ ..
เอาเรื่องของการประพฤติปฏิบัติธรรม ให้ถึงธรรม มีปัญญาเฉียวฉลาด รู้จักโลก รู้จักธรรม เกิดขึ้นที่จิตของตนเอง ด้วยมรรค๔ ผล๔ พระนิพพาน ๑ เรื่องของความเพียรพยายาม สร้างบุญกุศลบารมี ให้จิตนั้นยุติการเกิด นั่นก็ดูรอยชาดกของพระพุทธเจ้า ที่สะสมทำมาตั้งอดีต มีการเวียนว่ายตายเกิด เกิดเป็นนกแขกเต้า ก็ยังมีความกตัญญูรู้คุณพ่อแม่ ติดตามมากับจิตของท่าน พระอรหันตอัครสาวกทุกพระองค์ ก็สะสมสร้างบุญกุศล มากันหลายอสงไขย
เรื่องการสร้างบุญ นั้น เค้าทำ กายกรรม ..กายที่นำพา ไปสู่อบายภูมิ ..สร้างกายกรรม นั้นให้เป็นกายบุญ . .กายบุญ นั้นก็เป็นกายของเทพยดาอินทร์พรหม ที่จิตจะไปสถิตย์เมื่อละจากกายพ่อแม่เป็นมนุษย์
..เรื่องของกายบุญนั้น เป็นจิตที่สร้างบุญกุศลบารมีมามาก ไปสถิตย์ที่ชั้นดุสิต ชั้นดาวดึงส์ ..จิตของมนุษย์ยุคนี้ การที่จุติชั้น ดุสิต ดาวดึงส์ ท่านก็ไปรอคอย ..ที่จะไปเกิด ในยุคพระศรีอริยเมตไตรย ที่พระอาทิตย์ มาบังเกิดขึ้น ส่องแสงสว่าง ให้จิตมีปัญญาธรรม คลี่คลายกรรม ชำระสะสาง ให้ธาตุทั้งสี่ นั้นเป็นแก้วเจียไน ยุติการเกิด .
พระยมตะ ท่านพูดให้ฟังว่า พอจิตละจากกายมนุษย์ ก็กระโดดลงนรกเสียหมด .. เรื่องราว ของการจะหนีอบายภูมิได้ ก็ด้วยการสร้างบุญกุศล ปฏิบัติธรรมตามรอยทั้งสี่ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ก็ยากจะกระทำได้ เพราะกายนั้นเป็นกายกรรมหนุนนำ จึงไม่สามารถที่จะมาปฏิบัติธรรม ในรอยทั้งสี่ได้ .เค้าก็แนะนำให้อาศัยกายพ่อแม่ มากราบพระสวดมนต์ ทำบุญทำทาน ไปเรื่อยๆสะสะตักตวงบุญกุศลให้มากๆ ให้กายกรรม นั่นเกิดเป็นกายบุญ
เรื่องราวของชั้นดาวดึงส์ ก็มีสถานที สอนธรรม ให้เทพได้มาเรียนรู้จัก การสร้างบุญกุศลบารมี เมื่อต้องเกืดมาเป็นมนุษย์ มีสถานที่ใหญ่โต ..พระท่านเล่าให้ฟังว่า ขนาดพื้นที่ประมาณประเทศไทย .(เรื่องราวเหล่านี้ ก็มีคนที่ ศึกษา เรียนรู้ไปถึงได้)
..เป็นเทพยดาเป็นพรหม ก็ยังต้องเรียนรู้จัก ว่า การเกิดเป็นมนุษย์นั้นมีความเสี่ยง ที่ไหนมีการ สร้างบุญกุศล มีพระที่ถึงธรรม มีแสงสีรัตนะเกิดขึ้น สอนในเรื่องราว ที่เรียกว่า ธรรมโลกุตระ หูทิพย์ตาทิพย์..ท่านก็มาฟีงมาอนุโมทนา บางองค์เป็นเทพ ด้วยสร้างบุญอย่างเดียว แต่ไม่มีนิสัยปฏิบัติธรรมมา หากเกิดมาใหม่ก็เสี่ยงลงอบายภูมิ .
ท่านก็มาฟัง บันทึกจดจำ ที่ธาตุทั้งสี่ เพื่อนำไปใช้ เมื่อจุติ ลงมาเกิดได้สังขารพ่อแม่เป็นมนุษย์ ก็ใข้สังขารนั้น ที่มีกายบุญสะสมมา ก็มากระให้เกิดเป็นกายบารมี หนีกรรม สร้างบุญกุศล แล้วก็ใช้กายบารมีกระจายบุญกุศล แผ่กระจาย รอบครอบจักรวาล วิมานพรหมยมโลก อุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร น้ำเลือดนำหนองของผู้ที่มีกรรมหนุนเรือนกายที่อาศัย อุทิศให้ตัวกิดนเลือดกินเนื้อ การทำบุญทำทาน ก็อาศัยระลึกพระคุณพ่อแม่ ให้ธาตุพ่อแม่อนุโมทนา แล้วเสร็จแล้ว ก็ขอให่พระแม่ทั้งสี่ อนุโมทนา อโหสิกรรม และตัดกรรมให้แก้ข้าพเจ้าด้วย
..เมื่อปฏิบัติธรรม ก็ต้องถามจิต .ถามจิตตัวเอง ได้กายพ่อแม่ เป็นมนุษย์ ..รู้จักพระคุณที่ได้ธาตุทั้งสองพ่อแม่มั้ย .ใช้กายพ่อแม่ที่จิตอาศัย .เรานำสร้างอะไร สร้างกรรม หรือ สร้างบุญกุศล เรื่องธาตุนะโม .ใช้มาทำอะไร คราวนี้ เราก็ไม่ได้เรียนรู้ เห็นว่า สมัยต้นๆพุทธกาล เค้าใช้กิริยากายวาจาใจ อย่างใรในการกราบพระ การสร้างบุญกุศล เค้าทำอย่างไร เพื่อที่จิตนั้น จะบันทึกการกระทำ ลงไปที่ธาตุทั้งสี่ ให้เกิดเป็นบุญกุศลบารมีเกิดขึ้น
แล้วเมื่อจิตนั้นไม่รู้จักพระคุณบิดามารดา เวลาอุทิศบุญกุศล ก็ไม่สามารถ ทำกายนิ่งๆ จิตไม่มีอารมณ์ นำมือทั้งสองของคุณบิดามารดา จิตข้าพเจ้า มีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นที่พึ่ง ข้าพเจ้าขอนำธาตุนะโม มากระจายบุญกุศล .. จิตที่ไม่สะสมบุญกุศลมา ..จะเอาบุญกุศลที่ไหนมากระจายบุญกุศล บ้างก็มีอารมณ์อยากโลกโกรธปกคลุมจิต ..ห่อหุ้มจิต มีกรรม จะเอาบุญกุศลที่ไหนไปกระจายบุญ เผื่อแผ่ ให้นามธรรม ญาติมิตร ที่เป็นนามธรรม เคยมีกายเป็นมนุษย์
เมื่อญาติมิตรจากไป เค้าไปไหนกัน ..แล้วจิตที่ไม่มีกายเป็นมนุษย์ ที่อยู่ใกล้ชิดโลกมนุษย์ เค้าเห็นมนุษย์เป็นอย่างไร เค้าไม่มีหูตาให้ใช้ ..เหลือแต่จิต ..สิ่งที่เค้าเห็น ก็เห็นที่จิตเป็นนามธรรมในกายมนุษย์ นั้น มีแสงสี หรือ ดำมืดไปด้วยกรรม .หรือ ว่าไปยึดเอากรรม เรียกร้องปีมาอยู่กับกายตนเอง .เอาคนตายมาอยู่ในกาย..มันจึงมีเรื่องราว ผีเห็นผีเกิดขึ้น .อุปโลกน์อย่างนั้นอย่างนี้ .เกิดขึ้นมากมาย สิ่งเหล่านี้ ก็มีอต่นำพาจิตลงอบายภูมิ
โฆษณา